Lifestyle

 “เจแปนนิส ชิน”สุนัขอารมณ์ดี...ขี้อ้อน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 “เจแปนนิส ชิน”สุนัขอารมณ์ดี...ขี้อ้อน

         ในบ้านเรา “เจแปนนิส ชิน (Japanese Chin)” นับว่าเป็นสุนัขที่คนรักหมานิยมเลี้ยงพอสมควรเลยทีเดียว อาจเป็นเพราะเลี้ยงง่าย ตัวเล็กน่ารัก อารมณ์ดี ขี้้อ้อน หรืออีกหลากเหตุผล ที่แน่ๆมันเป็นน้องหมาครอบครัว ซึ่งยินดีให้สมาชิกในบ้านกระเตงมันไปได้ทั่วทุกหนแห่ง

            ด้วยชื่อหลายคนอาจคิดว่าเป็นน้องหมาที่กำเนิดในญี่ปุ่น ทว่า ประวัติที่ยาวนานของพวกมัน ยังไม่สามารถระบุรู้แน่ชัดว่าเกิดขึ้นจากประเทศใด บ้างกล่าวว่า ต้นกำเนิดและการพัฒนาสายพันธุ์มาจากถิ่นพื้นเมืองของจีน เพราะภาพของพวกมันถูกนำมาประกอบบนเครื่องปั้นดินเผา และลายเย็บปักถักร้อยเมื่อหลายร้อยปีก่อน

           บางหลักฐานระบุว่า ต้นกำเนิดของพวกมันเดิมทีอยู่ที่ญี่ปุ่น ช่วงปี ค.ศ.732 เพื่อไว้สำหรับมอบเป็นของขวัญให้แก่ครอบครัวของราชวงศ์เกาหลี และญี่ปุ่น ตลอดรวมทั้งขุนนาง ชาวต่างชาติที่ทำงานรับให้ญี่ปุ่น ต่อเมื่อผู้บังคับการเรือชาวอเมริกันได้นำมันเข้าไปยังประเทศอังกฤษเมื่อร้อยกว่าปีต่อจากนั้น จึงทำให้กลายเป็นที่นิยมทางฝั่งตะวันตก

            เป็นสุนัขขนาดเล็ก สูงประมาณ 9-10 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 1.8 กิโลกกรัม ถึง 6.8 กิโลกรัม จุดเด่นอยู่ที่ขนยาวสวยงาม คล้ายหมาปักกิ่ง หรือพันธุ์ชิสุ ที่มีตากลมโต หัวเล็ก หน้าสั้น ใบหูห้อยลง มีขนยาวลงมาปกคลุม หางจะเป็นพู่ใหญ่สวยงาม มักมี 2 สีในตัว คือ ขาวกับดำ และขาวกับน้ำตาล

             นิสัยของพวกมันอารมณ์ดี ฉลาด ซุกซน ขี้เล่น ขี้อ้อน เป็นมิตร ชอบได้รับการเอาอกเอาใจจากเจ้านาย มีพลังงานที่ล้นเหลือ ชอบวิ่งเล่นทำโน่นทำนี่ตลอดทั้งวัน ชอบเห่า และระแวงในสิ่งที่ไม่คุ้นเคย ทว่า พวกมันซื่อสัตย์มากๆ ว่ากันว่ามันเป็นสุนัขที่เกิดขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์สำหรับเป็นเพื่อนกับมนุษย์โดยเฉพาะ มันจึงต้องการความรักสูง

             สำหรับผู้ที่ต้องการจะเลี้ยงไว้เป็นสมาชิกของครอบครัวล่ะก็ ขอบอกพวกมันเป็นสุนัขที่ตื่นตัวและขี้ตกใจได้ง่าย จึงต้องเลี้ยงมันด้วยความทะนุถนอม ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นสุนัขที่ขี้กลัวได้ง่ายๆ และควรจะเลี้ยงไว้ภายในบ้านจะเหมาะกว่า 

            ทว่า ข้อควรจำหากจะเลี้ยงพวกมัน “เจแปนนิส ชิน” มีปัญหาเช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์หน้าสั้นทั่วๆไป พวกเขามีแนวโน้มมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ ส่งเสียงครืดคราด ถ้าหากอยู่ในระดับรุนแรงมากขึ้น ควรพาไปพบสัตวแพทย์ ทั้งมีแนวโน้มจะเป็นกระดูกสะบ้าอักเสบ ต้อหิน ต้อกระจก โรคลมแดด และเสี่ยงมากที่จะเป็นโรคหัวใจโดยเฉพาะเมื่ออายุย่างเข้า 10 ปี

              จึงควรพาพวกเขาไปตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำ และหากพบอาการผิดปกติรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีครับ!

ที่มา - http://www.petguide.com/breeds/dog/japanese-chin

                                          ---------------

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ