ใกล้ๆ แค่เชียงใหม่ ก็ได้สัมผัสอิงลิชสไตล์คันทรี่กันแล้ว
นี่ไง...อังกฤษที่เชียงใหม่
“เที่ยว...อังกฤษ” เป็นหมุดหมายในฝันของนักท่องโลกชาวไทยหลายคน ไม่เฉพาะแค่ระยะทางเท่านั้นที่เป็นอุปสรรคแต่ยังมีเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นตัวสกัดกั้น ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงยอมจำนนยอมพับความฝันเก็บใส่ลิ้นชักเอาไว้ก่อน ทว่าสำหรับคนที่ใจร้อนไม่อยากรอ ขอแนะนำให้ลองไปสัมผัสกลิ่นอาย “อิงลิช สไตล์คันทรี่” ไม่ไกลเกินเอื้อม เพราะสถานที่แห่งนี้ตั้งมั่นอยู่ในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ใช้ชื่อว่า “ฮิลล์โบโร่ ดิ อิงลิช คันทรี่ เฮ้าส์ โอเต็ล แอนด์ เลเชอร์ เชียงใหม่” หรือเรียกง่ายๆ ว่า “ฮิลล์โบโร่ เชียงใหม่” ก็ได้
ณรัฐพงศ์ ธารชลานุกิจ ในห้องนั่งเล่น
ก่อนจะมาเป็น “ฮิลล์โบโร่ เชียงใหม่” แต่เดิมนั้นเกิดจากความฝันของ “แอ๊นท์” ธารินี ธารชลานุกิจ ผู้เป็นภรรยา โดยฝ่ายสามี “หมี” ณรัฐพงศ์ ธารชลานุกิจ ทำหน้าที่ก่อร่างสร้างขึ้นให้ จากตอนแรกตั้งใจว่าจะทำเป็น “บ้านพักตากอากาศ” หลังสีขาวท่ามกลางขุนเขาเขียวขจี ตามแบบฉบับบ้านพักในย่านชานเมืองของอังกฤษที่ทั้งคู่ชื่นชอบ เมื่อตระเวนหาโลเคชั่นในหลายๆ พื้นที่ สุดท้ายมาเจอที่นี่รู้สึกถูกใจทั้งอากาศ สภาพแวดล้อม รวมถึงอัธยาศัยน้ำใจไมตรีของชาวบ้าน แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของนักธุรกิจ ถึงจะปลูกบ้านพักสำหรับครอบครัว แต่ในความเป็นจริงเพราะทั้งคู่ไม่ได้ชีวิตที่เชียงใหม่ จึงขยับขยายให้กลายเป็นโรงแรมหรูขนาดเล็ก มีห้องพักเพียง 10 ห้องภายใต้สถาปัตยกรรมตามแบบฉบับบ้านในชนบทที่ประเทศอังกฤษช่วงยุคศตวรรษที่ 18 อันเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ดี ชนชั้นขุนนาง และแลนด์ลอร์ดของอังกฤษ มาสร้างสรรค์ บนพื้นที่ 2 ไร่ กลางหุบเขาบ้านปง หรือที่หลายคนให้คำนิยามว่าเป็น “หุบเขาไฮโซ”
สัตว์เลี้ยงตามแบบฉบับอิงลิชคันทรี่
ด้วยระยะทางจากสนามบินเชียงใหม่ 25 กิโลเมตร หรือเพียง 20 กว่านาที เราข้ามโลกแห่งความวุ่นวายมาถึง (ที่พักสไตล์) อังกฤษ ในบรรยากาศเงียบสงบแต่ไม่เหงา นอกเหนือความสะดวกสบายและความอบอุ่นเสมือนอยู่บ้านของตัวเองแล้ว ที่นี่ยังมีความงามของสวนกุหลาบอังกฤษและดอกไม้นานาพรรณซึ่งจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล โอบล้อมไปด้วยลำธารและธรรมชาติอันงดงาม ในวันที่อากาศสดใส แขกที่ไปพักสามารถมองเห็นวิวดอยสุเทพ-ปุย ได้อย่างสบายตา ขณะที่อากาศนั้นก็อยู่ในระดับหนาว-เย็น และสบาย ตลอดทั้งปี ยังไม่นับความมีชีวิตชีวาของประดาสัตว์เลี้ยงตามแบบฉบับอิงลิชคันทรี่ มีทั้ง “อลิช” หมาน้อยเจ้าถิ่น, ครอบครัวแมวเหมียวขี้อ้อน รวมถึงฝูงไก่ ฝูงเป็ด และห่านคู่ อีกเต็มเล้า สำคัญคือยังทำงานด้วยการโก่งคอขันปลุกตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่พ้นสันเขา ควบคู่กับการออกไข่ให้พ่อครัวเก็บมาทำอาหารให้แขกกินทุกมื้อเช้า...ถ้าแขกคนไหนขยันตื่นตั้งแต่เช้าอยากเดินเข้าเล้าไปเก็บไข่ไก่ไข่เป็ดเองก็ทำได้
เส้นทางสีเขียวรอบๆ โรงแรม
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนจริงๆ ที่นี่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานโรงแรมหรูทั่วไป ส่วนในรายที่ต้องการซึมซับบรรยากาศ “คันทรี่” ทางโรงแรมก็มีให้บริการอีกเช่นกัน ทั้งจักรยานปั่นชมวิถีชีวิตชาวบ้านในท้องถิ่น หรือจะออกแรงเดินทอดน่องมองดูความสมบูรณ์ของธรรมชาติรอบๆ โรงแรมในยามเช้า ในเส้นทางรอบโรงแรมมีทั้งแบบระยะสั้น 2 กิโลเมตร และระยะไกลไปถึงดอยปุย ในระหว่างเส้นทางธรรมชาติจะได้พบทั้ง อ่างเก็บน้ำ สวนลำไย ไปจนถึงเรือกสวนไร่นา แล้วไม่ต้องกังวลว่าจะหลงทางเพราะมีเจ้าหน้าที่พาไปเอง
สวนกุหลาบสไตล์อังกฤษที่โครงการหลวงผักไผ่
ห่างจากที่พักสไตล์อังกฤษ ออกไปเพียง 3 กิโลเมตร ตอกย้ำว่าเรากำลังอยู่่ในบรรยากาศ “อิงลิช คันทรี่” อีกครั้งกับ "สวนกุหลาบสไตล์อังกฤษ..โครงการหลวงห้วยผักไผ่” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ ที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้สัมผัสกับความงดงามของกุหลาบหลากสีสันกว่า 200 สายพันธุ์ นอกจากกิจกรรมเดินชมสวนกุหลาบยามเช้าแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ในส่วนแห่งนี้ คือโซนร้านอาหารท่ามกลางกลางสวนสวย รับประทานอาหารพร้อมทั้งเครื่องดื่มและเมนูผักสดจากโครงการหลวงหลากหลากเมนู
ปั่นสองล้อชมวิถีชาวบ้าน
นอกจากนี้เขายังจัดจักรยานไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ปั่นชมวิถีชีวิตชาวพื้นเมืองที่บ้านแม่ขนิลเหนือ ภูมิปัญญาการเคี่ยนไม้เป็นภาชนะสำหรับใช้ในครัวเรือน โดยนำไม้เป็นท่อนมายึดกับแกนหมุนแล้วใช้การแกะ ถากให้เป็นรูปทรงต่างๆ นอกจากนี้ยังมีประเพณีสู่ขวัญควายที่จะจัดก่อนฤดูกาลทำนาเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณของควายที่ใช้งานไถนาทำให้มีข้าวกินชมวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าม้งเส้นทางศึกษาธรรมชาติถ้ำตั๊กแตน เป็นโพรงถ้ำขนาดกลางมีหินย้อย และเป็นจุดชมวิวสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง