Lifestyle

กรุ่นกลิ่นชาผสานอาหารไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ด้วยการสร้างสรรค์อาหารคาวตำรับไทยภายใต้คอนเซ็ปต์ “ไทย อินสปาย ดิช” เอาใจนักจิบชา

    หากคุณผู้อ่านยังมีกรอบความคิดเดิมๆว่า ร้านขายน้ำชาจะมีเพียงแค่ชาหลากรสชาติให้จิบคู่กับอาหารทานเล่นเบาๆ อีกนิดหน่อยอยู่ล่ะก็ วันนี้จะขอให้ลบความคิดนั้นไปซะ เพราะแบรนด์ชาชั้นนำ “ทีดับเบิลยูจี ที ซาลอน แอนด์ บูติค” สาขาดิ เอ็มโพเรียม ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้นักชิมชื่นชอบอาหารไทยแล้ว ด้วยการสร้างสรรค์อาหารคาวตำรับไทยภายใต้คอนเซ็ปต์ “ไทย อินสปาย ดิช” เป็นจำพวกอาหารจานเดียวและก๋วยเตี๋ยวออกมาถึง 9 รายการ สร้างสรรค์โดยเชฟชาวไทย เพื่อเอาใจนักจิบชาที่นิยมอาหารหนักรสชาติจัดจ้าน และที่สำคัญมีการนำเอาใบชาซึ่งมีกลิ่น รส เข้ามาช่วยผสมลงไปในขั้นตอนการปรุงขนมและอาหารทุกอย่างทุกจาน เช่น มาการอง 10 รสก็จะมีชา 10 ชนิด ทำให้แต่ละรสมีความแตกต่างกันออกไป หรือไอศกรีมจะมีน้ำชาเข้าไปผสมด้วย ภายใต้พื้นฐานของอาหารแต่ละจานว่ามีรสชาติอย่างไร มีกลิ่นอะไร ก่อนจะนำชาที่มีความโดดเด่นต่างกันออกไปนั้น เข้ามาเป็นส่วนผสม และแน่นอนว่านับเป็นร้านอาหารแห่งแรกที่นำเอาผลิตภัณฑ์ชามาใช้ในการปรุงอาหาร!!!

กรุ่นกลิ่นชาผสานอาหารไทย

   เริ่มต้นด้วยเมนูเบาๆ ทว่ามีให้ลิ้มรสแบบหลากหลายกับเซตเรียกน้ำย่อย “ทีดับเบิลยูจี ที ไทย แพลตเตอร์”  เสิร์ฟอาหาร 6 รายการ ได้แก่ ยำส้มโอกับทับทิม เป็นยำส้มโอแดง ทับทิม และ กุ้ง รสไทยๆ คลุกเคล้าด้วยน้ำยำผสมชา "มิสที" ลงไปด้วย, ยำแซลมอนรมควัน ยำสมุนไพรรสแซบ ห่อด้วยแซลมอนไปรมควันกับชา “เอิร์ลเกรย์เจนเทิลแมน” เพิ่มรสด้วยซอสพล่า รองจานด้วยแตงกวาสไลด์, เนื้อแดดเดียว โรยใบชา “เซนฉะ”,ยำไก่สับ ผสมชา “แบล็คเนกทาร์ที” ในถ้วยแตงกวา, เปาะเปี๊ยะไส้เนื้อปูผัดกับวุ้นเส้นและผัก ราดซอสมะขามผสม “คาราเมลที” ปิดท้ายด้วย สะเต๊ะเนื้อวากิว ไก่ กุ้ง จิ้มน้ำจิ้มสะเต๊ะผสม “โคโคนัทที” และมีอาจาดมาให้แก้เลี่ยนพร้อม เซตนี้บริกรแนะนำว่าถ้าจะให้เสริมรสกันดีควรกินคู่กับชาเย็นเพื่อความคล่องคอมากว่าจะสั่งชาร้อนมาจิบ โดยให้เหตุผลว่าอาหารไทยมีรสชาติจัดจ้านอยู่แล้วหากรับเครื่องดื่มร้อนเพิ่มเข้าไปอีกจะยิ่งทวีความเผ็ดร้อนมากเกินไปไม่น่าจะสบายกระเพาะ

กรุ่นกลิ่นชาผสานอาหารไทย

  แต่ถ้าอยากเรียกน้ำย่อยด้วยซุปร้อนๆ “เกี๊ยวน้ำทะเลครัสเตเชียน” เกี๊ยวน้ำซีฟู้ดนานาชนิด ประกอบไปด้วย ล็อบสเตอร์ ปู กุ้ง นำมาปรุงเป็นไส้เกี๊ยวน้ำ กินคู่กับผักกวางตุ้งจีนในซุปน้ำชา “อิมพีเรียลอู่หลง” เพิ่มอรรถรสด้วยน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล กลิ่นหอมๆ ทำให้ไม่อาจตัดใจวางช้อนซุปจนกว่าจะขอซดน้ำจนเกลี้ยงถ้วย

       โดดเด่นเน้นความเป็นไทยสำหรับอาหารจานหลักขอยกให้ “ผัดไทยปูนิ่ม” สำหรับจานนี้อย่างที่รู้กันดีว่า โดยปกติเป็นอาหารถูกปากทั้งคนไทยและคนต่างชาติเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเชฟของทีดับเบิลยูจี นำก๋วยเตี๋ยวเส้นจันทร์ผัดใส่เต้าหู้ กุ้งแห้งทอดกรอบ หอมแดงและต้นหอม ปรุงรสด้วยซอสผัดไทยผสมกับ “คาราเมลที” แต่งด้วยปูนิ่มทอดกรอบ...ยิ่งช่วยเพิ่มรสโอชามากยิ่งขึ้น!!!

กรุ่นกลิ่นชาผสานอาหารไทย

ผัดไทยปูนิ่ม

        มาถึงจานยอดนิยม “ผัดกะเพราล็อบสเตอร์” ความพิเศษของจานนี้  เชฟซึ่งเลือกนำเนื้อล็อบสเตอร์มาผัดกับใบกะเพรา รสเผ็ดจัดจ้านผสานกับความหอมของชา “แบล็คเนคทาร์ที”  ที่ผสมผสานออกมาได้อย่างลงตัว เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิหุงกับชา เรด จัสมิน ที  กับข้าวไรซ์เบอร์รี่ และไข่ดาวร้อนๆ ทอดกรอบ

กรุ่นกลิ่นชาผสานอาหารไทย

ผัดกะเพราล็อบสเตอร์

     รสชาติพริกแกงแบบไทยๆ ของจาน “ฉู่ฉี่ปลาหิมะและแซลมอน” ความพิเศษอยู่ตรงที่ผสมชา“โคโคนัทที” ลงไปเครื่องแกงให้มีรสกรุ่นกลิ่นชา ขณะเดียวกันในขั้นตอนการผัดเครื่องแกงก็ยังเสริมน้ำสต็อกที่น้ำชาชนิดนี้อีกด้วย เป็นการช่วยเพิ่มกลิ่นรสยวนใจกว่าเดิม กินคู่ข้าวหอมมะลิหุงกับชาเรดจัสมิน กับข้าวไรซ์เบอร์รี่ร้อนๆ แทบจะหยุดไม่ได้ อีกสักหนึ่งจานสำหรับฟีชเลิฟเวอร์ “ปลาหิมะราดพริก” นำปลาหิมะไปหมักชา “สไปซ์รูทที”  เพื่อเสริมกลิ่นรสก่อนนำไปทอดกรอบ ราดด้วยน้ำราดพริกสูตรพิเศษฉบับทีดับเบิลยูจี ที 

กรุ่นกลิ่นชาผสานอาหารไทย

ฉู่ฉี่ปลาหิมะและแซลมอน

       สำหรับสายเนื้อที่ร้านก็มี “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว” เลือกได้ระหว่างเส้นเล็กหรือเส้นหมี่ มาพร้อมกับเนื้อวากิวแล่บาง ในซุปน้ำชา “ทาลิสแมน” ถ้วยนี้ขอกระซิบไปถึงคนชอบกินเนื้อว่าถ้าไม่สั่งมาชิมถือว่าพลาดอย่างแรง ทั้งความหอมหวานของน้ำซุปและความนุ่มของเนื้อวากิว เชื่อว่าทุกคนย่อมทราบดีอยู่แล้วว่าความอร่อยอยู่ในระดับไหน...คุ้มกับเงินที่จ่ายไปคอนเฟิร์ม!!!

กรุ่นกลิ่นชาผสานอาหารไทย

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว

  กินคาวเสร็จต้องล้างปากด้วยของหวาน และสำหรับมื้อนี้ทั้ง “มูสราสเบอร์รี่ลิ้นจี่” ผสมชา “เรด ออฟ แอฟริกา”“ช็อกโกแลต ฮาเซลนัท ครันช์” ผสมชา “ช็อกโกแลตที” และ มาการองหลากรส ได้แก่ มาการองนาโปเลียน ผสม “คาราเมลที”, มาการองมัทฉะ, มาการองแกรนด์ เวดดิ้งที ผสมเสาวรสและมะพร้าว และมาการอง แบงเดอโรสที ที่ขาดไม่ได้คือ ชาร้อนกรุ่นกลิ่นหอม

กรุ่นกลิ่นชาผสานอาหารไทย

       อ่อ!! ที่เล่ามานี้ลืมบอกไปว่าอาหารทุกจานทางร้านให้ความสำคัญกับการปรุงสดใหม่ เรียกว่ายกครัวมาผัดเครื่องแกงให้กินกันสดๆ ร้อนๆ จากหลังร้าน ดังนั้นสามารถออเดอร์ระดับความเผ็ดร้อนกันได้ตามความต้องการของแต่ละคนได้เลย แล้วที่เห็นว่าวันนี้ยังมีอาหารให้เลือกรับประทานแค่ไม่กี่รายการนั้น ทางร้านทีดับเบิลยูจี มีคำมั่นสัญญาว่าในวันข้างหน้าจะมีอาหารไทยเข้ามาเสริมทัพอีกแน่นอน เพียงแค่ต้องค่อยๆ ทยอยลอนซ์กันออกมา.. “ทีดับเบิลยูจี ที ซาลอน แอนด์ บูติค” เปิดและปิดตามเวลาห้างเลยจ้า สอบถามเพิ่มเติมหรือจองโต๊ะได้ที่เบอร์โทร 0-2259-9510

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ