‘หมีกริซลี’รอดพ้นสถานะ‘ใกล้สูญพันธุ์’ 

               สํานักงานประมงและสัตว์ป่าของสหรัฐ (ยูเอสเอฟดับเบิลยูเอส) ประกาศเพิกถอน หมีกริซลี ในระบบนิเวศวิทยา ของอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ออกจากรายชื่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เมื่อกลางเดือนมิถนายน 2560 ที่ผ่านมา 

                ไรอัน ซิงค์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของสหรัฐ แถลงว่า การตัดสินใจให้หมีเยลโลว์สโตน กลับคืนไปอยู่ภายใต้การจัดการของรัฐและชนเผ่า สะท้อนให้เห็นถึงจำนวนหมีที่กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ ที่ครอบคลุมทั้งรัฐไวโอมิง ไอดาโฮ และมอนทานา 

              อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์และตัวแทนจากไทรบัล เนชั่น กลุ่มชาติพันธุ์อินเดียแดง โต้แย้งกรณีการถอดถอนสถานะหมีกริซลี โดยให้เหตุผลว่ายังไม่พ้นขีดอันตราย ขณะนี้ หมีกริซลีในเยลโลว์สโตน มีจำนวนราว 700 ตัว เพิ่มขึ้นจาก 136 ตัวเมื่อปี 2518 มีถิ่นที่อยู่ครอบคลุมพื้นที่ 6,475 ตร.กม. ซึ่งยูเอสเอฟดับเบิลยูเอส พบว่า ประชากรเริ่มเสถียรและยั่งยืน กล่าวคือ หมีเหล่านี้มาถึงจุดที่มีประชากรเพิ่มขึ้น โดยที่รัฐไม่ต้องให้ความคุ้มครองต่อไป นับเป็นเรื่องราวความสำเร็จในการอนุรักษ์ครั้งใหญ่ของประเทศเรื่องหนึ่งทีเดียว 

            แมตต์ มีด ผู้ว่าการรัฐไวโอมิง กล่าวว่า หมีกริซลีได้รับรองการถอนสถานะมานานแล้ว หลังจากบรรลุหรือไปไกลกว่าเป้าหมายการเพิ่มประชากรตั้งแต่ปี 2546 ทั้งนี้ หมีกริซลีถูกจัดอยู่ในสถานะสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เมื่อปี 2518 และถูกเพิกถอนสถานะเมื่อปี 2550 แต่ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐตัดสินให้คุ้มครองสัตว์ชนิดนี้อีกครั้งเมื่อปี 2552 โดยชี้ว่า ยูเอสเอฟดับเบิลยูมองข้ามกรณีแหล่งอาหารสำคัญของหมีลดลง แต่ต่อมาเมื่อปี 2556 มีดเสนอให้เพิกถอนสถานะเสี่ยงสูญพันธุ์อีกครั้ง ทว่าหลายคนยังคงเคลือบแคลงสงสัยถึงอนาคตของหมีชนิดนี้ แม้ทางการสหรัฐจะรับประกันแล้วก็ตาม  

           ไมเคิล บรูน ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มเซียรร์รา คลับ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านสิ่งแวดล้อมของสหรัฐ กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญบางราย ชี้ การฟื้นตัวของจำนวนหมีกริซลียังดำเนินต่อไป และหากทางการละเลยไม่คุ้มครอง กระบวนการฟื้นฟูในช่วงไม่กี่ปีมานี้อาจพลิกผันจนกระทั่งหมีอาจตกอยู่ในอันตรายได้ได้ 

             การเพิกถอนหมีกริซลีออกจากบัญชีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เกิดขึ้นหลังจากการตัดสินใจทางกฎหมายโดยยกเลิกการคุ้มครองหมีแบบอื่นๆ ในรัฐอะแลสกาเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อวันที่ 21 มี.ค. วุฒิสภาสหรัฐมีมติให้คว่ำกฎหมายล่าสัตว์ในแหล่งลี้ภัยโดยการสั่งห้ามล่าสัตว์ทางอากาศ ตลอดจนวางกับดักและล่อหมีกริซลีและสัตว์ป่าอื่น ๆ ซึ่งบรรดาผู้สนับสนุนการแก้ปัญหาดังกล่าว อ้างว่า การผ่อนคลายการควบคุมล่าสัตว์ของนักล่ารายใหญ่จะเป็นผลให้สัตว์ป่าชนิดอื่นๆ ลดลงแต่ขณะนี้ไม่มีหลักฐานใดสนับสนุนข้ออ้างดังกล่าว 

                 “คนและหมีอยู่ร่วมกันได้ แต่กรณีนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ หากความเกลียดชังทางการเมืองที่ไร้มูลความจริง ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการปกป้องหมีให้รอดพ้นจากการสูญพันธุ์”