Lifestyle

จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จากตราด ... เปิดเส้นทางท่องเที่ยวไปเพื่อนบ้าน กำเงินพันบาทเที่ยวเกาะกง ล่องเรือถึงน้ำตกตาไต เรื่อง/ภาพ : นพพร วิจิตร์วงษ์

                 จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’

                 ประจวบคีรีขันธุ์ - ปัจจันตคีรีเขตร ชื่อที่คล้องจองกัน บ่งบอกว่า ครั้งหนึ่งไทยเคยมีเมืองชื่อ ปัจจันตคีรีเขตร ชื่อนี้มีที่มาจากสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เป็นชื่อของดินแดนฝั่งตะวันออกสุดของไทย ให้คล้องจองกับชื่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ ดินแดนที่อยู่ฝั่งตะวันตกในแนวเส้นรุ้งละติจูดเดียวกัน โดยปัจจันคีรีเขตรขึ้นอยู่กับจังหวัดตราดในขณะนั้น

                ทุกวันนี้ บางคนอาจไม่รู้จักชื่อ ปัจจันตคีรีเขตรด้วยซ้ำไป แต่ถ้าบอกว่า เกาะกง คงร้องอ๋อกันถ้วนหน้า ที่กลายเป็นเช่นนั้นก็เนื่องมาจากผลพวงของการล่าอาณานิคม สมัยฝรั่งเศสเข้ายึดครองกัมพูชา และยึดเมืองตราดไว้เป็นตัวประกัน แต่ต่อมาได้คืนให้ตามสนธิสัญญาระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามกับเพรสซิเดนท์ฝรั่งเศส แลกกับดินแดนบางส่วน คือเมืองพระตะบอง, เสียมราฐ และศรีโสภณ หากแต่ในการคืนจังหวัดตราดมานั้น ไม่ได้คืนเมืองปัจจันตคีรีเขตรคืนมาให้ด้วย เลยกลายเป็นดินแดนของกัมพูชาในชื่อเกาะกงไปโดยปริยาย ถ้าดูจากแผนที่ประเทศไทย จะเห็นว่า ปลายแหลมสุดของจังหวัดตราด เป็นจังหวัดเกาะกงของกัมพูชา

จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’ วิหารสมัยกรุงศรีอยุธยา วัดบุปผาราม

                แต่ก่อนไปเกาะกง คงต้องผ่านด่านจังหวัดตราด จังหวัดสุดชายแดนตะวันออกของไทยเสียก่อน โดยมากคนมาเที่ยวจ.ตราด มักะเลยไปท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ หากแต่จังหวัดตราดยังมีชุมชนอีกหลายต่อหลายแห่งที่เปิดรับนักท่องเที่ยวไปเยือนถึงเรือนชานแบบบ้านๆ หรือตัวเมืองที่ยังมีกลิ่นอายของประวัติศาสตร์เก่าก่อน ตั้งแต่สมัยยุคอาณานิคมหลงเหลืออยู่ อย่างถนนที่ปูอิฐสีแดงในซอยยายอ่อน ซึ่งสมัยก่อนนั้นเปรียบเสมือนพรมแดงที่ปูรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 5 ที่เสด็จพระราชดำเนินมาจังหวัดตราด ปลายทางเป็นท่าเรือรับเสด็จ

จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’

               ถ้าอยากรู้จักเมืองตราดแบบว่องไว ก็ต้องแวะไป พิพิธภัณฑ์เมืองตราด จังหวัดตราด                

"เมืองเกาะครึ่งร้อย พลอยแดงค่าล้ำ
ระกำแสนหวาน หลังอานหมาดี
ยุทธนาวีเกาะช้าง สุดทางบูรพา"

                 เรซิดัง กัมปอต นี่ก็เป็นจวนข้าหลวงฝรั่งเศสที่เข้ามาปกครองจังหวัดตราด เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ทรงยุโรป แต่ฝรั่งเศสไม่ได้สร้าง คนสร้างคือพ่อค้าชาวตราดที่ตั้งใจจะสร้างให้เป็นเรือนหอของลูกสาว พอฝรั่งเศสเข้ามาก็ได้ยึดเอาไปเป็นที่พัก หรือ ศาลหลักเมืองของจังหวัดตราด ออกแบบคล้ายเก๋งจีน เป็นศาลที่สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าตากสิน ที่ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นตามความเชื่อแบบจีน มีเรื่องเล่าว่า ช่วงที่ฝรั่งเศสเข้ามายึดเมืองเห็นชาวเมืองไปกราบไหว้ ก็จะถอนเสาหลักเมืองทิ้ง ปรากฏว่า ใช้คนขุดถอนก็ไม่ขึ้น เอาช้างไปฉุดก็ได้แค่ทำให้เสาเอนไปเท่านั้น

จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’ ศาลาพระพุทธรูปไม้ที่ใหญ่ที่สุด  

                  วัดบุปผาราม เป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่ได้ชื่อว่า เก่าแก่ที่สุดของจังหวัดตราด สร้างขึ้นสมัยอยุธยา ราวรัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง ในปี 2191 นอกจากโบสถ์ที่เก่าแก่ มีภาพจิตกรรมฝาผนังศิลปะแบบจีน สันนิษฐานว่าช่างจิตรกรรมสมัยนั้นอาจเป็นชาวจีน หรือไม่ก็มีชาวจีนเป็นผู้อุปถัมภ์วัดนี้ ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้โบราณของจีน ไทย และยุโรป รวมถึงวิหารพระพุทธรูปไม้องค์ใหญ่ที่สุด เมื่อก่อนที่นี่มีเนื้อที่ไม่มาก แต่ก็ได้รับการบริจาคจากชาวบ้านในละแวกนั้น ทำให้ปัจจุบัน วัดนี้มีเนื้อที่ถึง 8 ไร่เศษ เลยจากวัดไปไม่ไกล เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ ชื่อบึงสีเสียด ใหญ่ขนาดว่า ถนนรอบสระมีความยาวถึง 10 กิโลเมตร ที่นี่จัดเป็นแหล่งที่นักดูนกมักมาเฝ้าดูนกน้ำที่ลงกาหินจำนวนมาก

                นอกจากชุมชนต่างๆ แล้ว ตลอดทางหลวงหมายเลข 3 สุขุมวิท ที่ไปสุดชายแดนไทย-กัมพูช่า ที่บ้านหาดเล็ก อ.คลองหาด ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมาก โดยเฉพาะหาดทรายหลายแห่ง อย่างเช่น หาดบานชื่น (หาดมะโร) อยู่ก่อนถึงตัว อ.คลองใหญ่ จัดเป็นชายหาดที่สวยที่สุดบนชายฝั่งของจังหวัดตราด แนวหาดมีต้นสนและต้นทมะพร้าว มีที่พักและร้านอาหารเรียงราย ให้เลือกใช้บริการ ที่นี่เป็นอีกสถานที่พักผ่อนในวันหยุด ส่วนใหญ่มากันเป็นครอบครัว ชายหาดนี้สามารถลงเล่นน้ำได้ หาดทรายขาว น้ำทะเลใส และอาหารสดอร่อย

จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’
จุดที่แคบที่สุด จากเขาบรรทัดด้านหลัง ถึงริมทะเล แค่ 450 เมตร

                ท้องที่ อ.คลองใหญ่ ตลอดแนวถนนไปถึงบ้านหาดเล็ก ฝั่งหนึ่งเป็นทะเล อีกฝั่งจะเป็นแนวเขาบรรทัด ที่แบ่งเขตแดนไทย-กัมพูชา ถ้าดูจากแผนที่ (อีกครั้ง) จะเห็นปลายติ่งแหลม มีรูปร่างเว้านั่นแหล่ะ เป็นจุดที่แคบที่สุดของแผ่นดินไทย อยู่ในเขตบ้านโขดทราย ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ โดยวัดจากยอดเขาบรรทัด ไปถึงชายทะเล มีความยาวเพียง 450 เมตรเท่านั้นเอง เดี๋ยวนี้กลายเป็นแลนด์มาร์ก ที่ใครๆก็มักแวะเก็บภาพ เพราะในวันท้องฟ้าแจ่มใส สามารถมองเห็นไปถึงเกาะกูดเลยทีเดียว

จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’ ลำเลียงไปขายในกัมพูชา
จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’ เข็นข้ามแดนจากกัมพูชา

                   ถนนหมายเลข 3 ไปสุดปลายทางที่บ้านหาดเล็ก ถือเป็นเส้นทางสำคัญของการขนส่งสินค้าประมงของ จ.ตราด สุดทางบ้านหาดเล็กเป็นตลาดการค้าชายแดน แม้จะไม่ใหญ่นักถ้าเทียบกับตลาดชายแดนกัมพูชาด้านอื่นๆ แต่ก็คึกคักไม่น้อย ซึ่งชาวกัมพูชานิยมข้ามแดนมาซื้ออาหารเครื่องดื่ม และผลไม้ โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นฤดูทุเรียนกับเงาะเลยได้เห็นทุเรียนตลาดขนส่งจากรถกระบะไปสู่รถเข็น เพื่อเตรียมข้ามแดนไปเกาะกงเยอะมาก ส่วนคนไทยที่ไปซื้อของตลาดชายแดน ก็จะมีพวกเสื้อผ้า กระเป๋า แว่นตา เครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนขนมส่วนใหญ่เท่าที่ดูมาจากจีนซะเยอะ

จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’
ตลาดชายแดน มีของขายสารพัด

                เที่ยวแค่นี้คงไม่พอ ไหนๆ มาถึงบ้านหาดเล็ก ก็ต้องข้ามไปเที่ยวที่กัมพูชาเสียหน่อย ซึ่งปัจจุบัน องคฺ์การบริหารและพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ได้ลงนามความร่วมมือกับจังหวัดเกาะกง ส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวระหว่างกัน นอกจากจะได้สัมผัสกับชุมชนที่ยังมีวิถีแบบดั้งเดิมแล้ว ยังกายจายรายได้ในพื้นที่ด้วย โดย อพท.จัดทำเส้นทางท่องเที่ยว เชื่อมตราด-เกาะกง 2 เส้นทาง คือ ตราด-แหลมกลัด-หาดเล็ก-เกาะกง(ป่าโกงกางบางคายัค) และเส้นทางตราด-บ้านไม้รูด-หาดเล็ก-เกาะกง(น้ำตกตาไต) 

                เราเหรอ...เลือกเส้นทางที่ 2 ซิ !!

                บอกตรงๆ ว่า กำเงินไปแค่คนละพันบาท ก็เที่ยวได้ถึงน้ำตกตาไต ในดินแดนกัมพูชาแบบสบายๆ แต่ถ้าให้ดีควรไปเป็นกลุ่มจะได้เหมารถ เหมาเรือ ไม่ต้องเสียเวลามาก ค่ารถไป-กลับประมาณ 400-500 บาท ถึงน้ำตกตาไต  ส่วนค่าเรือซึ่งจัดการโดยกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ คิดค่าเรือ 500 บาท /ลำ  
            ดูซิ...หาที่เที่ยวราคาถูกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

            แต่ก่อนอื่น ต้องอย่าลืมหนังสือเดินทางติดตัวไปด้วยเพื่อทำเรื่องขอผ่านแดน หรือไม่ก็ต้องไปจัดการทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเสียก่อน

จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’ เจดีย์ขุนช้าง ริมแม่น้ำเกาะกง

               จุดแรกที่เราแวะก็คือ เจดีย์ขุนช้าง (Kon Chang Shrine) ทางเข้าอยู่ก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำเกาะกง

                จากการบอกเล่าของคนในพื้นที่ เล่าว่า เจดีย์เก่าแก่ที่มีอายุไม่น้อยกว่า 900 ปี บอกว่าด้านในมีเพชร พลอยและพระเก่าแก่ ตัวเจดีย์ตั้งอยู่กองหินริมแม่น้ำเกาะกง ที่มีน้ำลึกถึง 6 เมตร ซึ่งมีการทำสะพานเชื่อมไปถึงเจดีย์ มีพื้นที่โดยรอบเจดีย์ราวๆ 40 ตารางเมตร ซึ่งเขาอนุญาตให้ขึ้นได้ครั้งละไม่เกิน 15 คน เนื่องจากสภาพความเก่าแก่

                มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเจดีย์นี้ เป็นเรื่องของสาวชื่อทับทิม ที่ไม่ได้รักแต่ก็ต้องแต่งงานกับขุนช้างซึ่งเป็นคนรูปร่างใหญ่ ไม่หล่อ หัวล้าน แต่ว่าร่ำรวย ตามที่ครอบครัวต้องการ หลังจากแต่งงาน ทับทิมทรยศไปรักกับผู้บัญชาการทหารชื่อ เพ็ญ เมื่อขุนช้างรู้เรื่องจึงนำความกราบทูลพระมหากษัตริย์ เมื่อพระมหากษัตริย์ทรงทราบเรื่อง จึงลงโทษด้วยการตัดร่างทับทิมเป็นสองส่วน หลังจากทับทิมตาย ร้างของเธอถูกฝังไว้ตรงสถานที่ที่เธอตาย ขุนช้างอยากให้ทับทิมไปเกิดใหม่ จึงได้ตั้งเสาธงทางฝั่งตะวันออกของกระแสลม เพื่อที่เวลาลมพัดจะได้พัดธงหันไปทางสถานที่ทับทิมถูกฝัง และได้สร้างเจดีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์

                ปัจจุบัน ด้านบนของเจดีย์ได้รับการบูรณะใหม่ ส่วนบนหินจะมีรูปปั้นของคุณเพ็ญอยู่ด้วย ชาวเกาะกงนิยมมากราบไหว้บูชาเจดีย์ขุนช้างขุนแผนนี้ เพื่อขอให้สมหวัง ค้าขายร่ำรวย ทำมาค้าขึ้น

จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’ ตลาดเกาะกง 

จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’
วิถีพุทธ  ศรัทธามีอยู่ทุกที่

จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’
นั่งสปีดโบ๊ทมาดินเนอร์ที่เกาะกง              

                   ข้ามสะพานไปฝั่งตรงข้ามก็เป็นเมืองเกาะกงแล้ว มีทั้งสถานที่ราชการ และตลาด ร้านรวง หากใครจะพัก หาโรงแรมในตลาดที่นี่ก็มีหลายแห่ง แต่ถ้าจะเลยไปเที่ยวน้ำตก ก็เดินทางต่อไปตามถนนแห่งชาติ หมายเลข 48 อีกราว 20 กม. เกาะกงมีน้ำตกขึ้นชื่อคือ น้ำตกตาไต เป็นน้ำตกใหญ่ 2 ชั้น ชั้นแรกมีความสูง 5-6 เมตร ชั้นที่สอง สูงราว 12-15 เมตร ที่นี่จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสำคัญของเมืองเกาะกง ที่ได้รับความนิยมของทั้งคนในประเทศและต่างประเทศ   


 
จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’
แก่งน้ำตกตาไต

                น้ำตกตาไตนี่ก็มีตำนานเล่าขานเช่นกัน เรื่องมีอยู่ว่า ผู้ชายชื่อตาไทและลูกชายไปหาปลาที่น้ำตกนี้ วันหนึ่งเกิดพายุฝนตกแรงมากจนเกิดน้ำท่วม ลูกตาไทหายไป หลังจากนั้น 4-5 วันก็ไปเจอตัวลูกตาไทในจุดที่หายไปเป็นน้ำตก เมื่อตาไท ถามลูกชายก็ได้ความว่า มีคนพาตัวไปสถานที่ลี้ลับและอยากจะฆ่าเขา แต่ก็มีนักบวชปรากฏตัวมาช่วย หลังจากที่ตาไทและเมียได้ฟังเรื่องราว จึงเชื่อว่าฤาษีได้มาช่วยเหลือลูกชายเขา จนลือกันไป น้ำตกที่พบนี่เลยได้ชื่อว่า น้ำตกตาไท หรือน้ำตกตาไตนั่นเอง

จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’ ล่องเรือไปน้ำตกตาไต  จากตราด ถึง ปัจจันตคีรีเขตร ‘เกาะกง’
ด้านบนของน้ำตกตาไต อีกด้านมีร้านขายอาหารริมน้ำตก

            จะเข้าไปเที่ยวน้ำตกต้องนั่งเรือไปตามแม่น้ำตาไต ใช้เวลาราวๆ ครึ่งชั่วโมงละเลียดสองฝั่งของป่าโกงกาง จนสุดทางเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ขวางลำน้ำอยู่ แม้จะไม่ใช่น้ำตกสูง แต่กระแสน้ำและความรุนแรงของสายน้ำ ก็ยิ่งใหญ่ ไม่แพ้คอนพะเพ็งในลาวเลยเชียว เรือจอดเทียบแนวหินริมตลื่ง ให้เราเดินลัดเลาะ ปีนป่ายขึ้นไปเล่นน้ำตกด้านบนได้

            เล่นน้ำเพลินๆ จนลืมไปว่า นี่เราอยู่ในเขตกัมพูชา ธรรมชาติพาเราเข้ามาเชื่อมสัมพันธ์กันได้ง่ายๆ แบบนี้เอง ... ออกุนเจริญ !!

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ