Lifestyle

“เออร์บัน วิลเลจ” ชมศิลป์ ลิ้นสัมผัส

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นอกจากจะได้ช้อปปิ้งเพลินๆ แล้ว ยังมีอาหารอร่อยๆให้รับประทานอีกด้วย

       คนเดินช็อปปิ้งห้างเกษรวิลเลจเวลาหิวๆ เกินครึ่งมองหาร้านฝากท้องไม่ค่อยเจอ โดยเฉพาะขาจรเป็นต้องรีบช็อปแล้วออกไปหาร้านรวงข้างนอก อาจด้วยห้างนี้มองไปทางไหนก็ละลานตาไปด้วยแฟล็กชิพสโตร์ของแบรนด์เนมร้อยแปด แต่จะบอกว่าถ้าตั้งใจสังเกตดีๆ ก็จะเห็นร้านอาหารหรือมุมจิบชากาแฟแทรกตัวอยู่ไม่น้อย วันนี้เลยอยากพาทัวร์ที่กินดื่มเผื่อเป็นไอเดียให้คนชอบช็อปและชิมจบในที่เดียว ซึ่งจริงๆ มีร้านเด่นดังมากมายที่หลายคนคุ้นลิ้นอยู่บ้างแล้ว...

       ห้างเปิด 10 โมง เดินเดี๋ยวเดียวก็ได้เวลามื้อเที่ยง เติมพลังด้วยอาหารไทยก็น่าจะดีไม่น้อย ที่ร้าน “เพสต์ (PASTE)” ชั้น 3 เป็นจุดนับพบที่น่าสนใจ เพราะร้านนี้บริการสำรับไทยดั้งเดิมอย่างแท้จริง ตอบโจทย์ใครที่โหยหาอาหารไทยหารับประทานยาก ถึงแม้ว่าหน้าตาจะถูกปั้นแต่งให้ดูทันสมัย แต่เอกลักษณ์ด้านรสชาติก็คงไว้ไม่ผิดเพี้ยน สำคัญว่าเขาบริการแบบไฟน์ไดนิ่งเพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ที่น่าชิมก็อย่าง “ปลาแซลมอนสมุนไพรและแตงโม” เป็นของเรียกน้ำย่อยไม่ธรรมดา เพิ่มรสชาติความสดชื่นด้วยแตงโมที่คว้านมาพอดีคำเคียงมากับปลาแซลมอนแห้ง ว่ากันว่าดัดแปลงวัตถุดิบมาจากเมนูต้นตำรับที่เสิร์ฟในพระราชพิธีสร้างวัดพระแก้ว ในสมัยรัชกาลที่ 1 เลย เพียงคำแรกก็เรียกความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าทันตา และที่เป็นไฮไลท์คงต้องยกให้อาหารชื่อโบราณ “แสร้งว่ากุ้งมังกร” คนรุ่นใหม่ไม่คุ้นแน่นอน ปรุงรสด้วยน้ำมะกรูดผสมน้ำส้มคั้น ตัดกับสีเขียวของสาหร่ายอบกรอบ มีความเปรี้ยวนำและกลิ่นมะกรูดโชยเตะจมูก อร่อยไม่เสแสร้งบอกเลย...

“เออร์บัน วิลเลจ” ชมศิลป์ ลิ้นสัมผัส

ปลาแซลมอนสมุนไพรและแตงโม

“เออร์บัน วิลเลจ” ชมศิลป์ ลิ้นสัมผัส

แสร้งว่ากุ้งมังกร

       ตกบ่ายได้เก้าอี้นุ่มๆ เอนกายแล้วสั่งชามาจิบอุ่นๆ “1823 ที เลานจ์ บาย รอนเนอเฟลด์” รออยู่แล้วบริเวณชั้น 1 ใครเป็นสาวกชาระดับไฮเอนด์น่าจะรู้จัก แบรนด์นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1823 ที่นครแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี ชาวยุโรปนิยมชมชอบมาร่วม 200 ปีเห็นจะได้ จริงๆ แล้วเขาไม่มีร้านให้นั่งจิบสบายๆ อย่างที่เห็น จะเน้นขายผลิตภัณฑ์มากกว่า แต่ด้วยเห็นว่าเมืองไทยทำเลดี อีกทั้งชอบดื่มชาไม่น้อย เลยบินลัดฟ้ามาเปิดเอาใจแบบ “พรีเมียม ทีเลานจ์” แห่งแรกในไทยและในโลก แล้วยังปิ๊งไอเดียเบลนชาเพื่อคนไทยโดยเฉพาะผสมผสานกลิ่นมะม่วงจิบอุ่นๆ ละมุนมาก 

“เออร์บัน วิลเลจ” ชมศิลป์ ลิ้นสัมผัส

จิบชายามบ่ายที่ 1823 ที เลานจ์ฯ

       ได้ชาแล้วต้องไม่ลืมกาแฟ เดี๋ยวนี้คนไทยดื่มกาแฟพอๆ กับน้ำเปล่า ที่ดึงความสนใจให้เข้าไปนั่งชิคๆ ต้องมีแบรนด์ระดับโลกอย่าง “สตาร์บัคส์” พอมาอยู่ที่เกษรต้องไม่ธรรมดา แปลงโฉมเป็น “สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์ สโตร์” ชื่อยาวใช่เล่น เห็นว่าโฉมใหม่นี้เป็นสาขาแรกในไทยหลังจากประสบความสำเร็จมาแล้วตามหัวเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก คือเขาจะให้ลูกค้าได้สัมผัสนวัตกรรมที่สำคัญในเมล็ดกาแฟ ผ่านการชงด้วยเทคนิคหลากหลายบริเวณเอ็กซ์พีเรียนซ์ บาร์กลางร้าน ไฮไลท์อยู่ที่เครื่องชงกาแฟเครื่องแรกในไทย (อีกแล้ว) ที่สามารถดึงรสชาติและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะออกมาให้คอกาแฟได้ดื่มด่ำ นอกจากนี้ยังมีวิธีการชงด้วยแรงดันไอน้ำและสุญญากาศ รวมถึงชงแบบไฮบริด เพิ่มอรรถรสในการดื่มกว่าปกติที่คุ้นเคย

“เออร์บัน วิลเลจ” ชมศิลป์ ลิ้นสัมผัส

พนักงานสตาร์บัคส์ชงกาแฟด้วยนวัตกรรมใหม่

       ได้เวลาหลังเลิกงานที่มนุษย์งานทั้งหลายยังไม่อยากกลับบ้าน ต้องเดินเตร็ดเตร่เช็กเทรนด์และหาจุดนัดพบเพื่อสรวลเสเฮฮากันล่ะ ใครจะคิดว่าเกษรมีมุมบ่มอารมณ์เป็นเรื่องเป็นราวภายใต้คอนเซ็ปต์หลากหลาย อย่างที่ “รีเดล ไวน์ บาร์ แอนด์ เซลล่าร์” ชั้น 2 ไม่ได้สนับสนุนให้ดื่มแอลกอฮอล์ แต่ถ้าจิบแต่พอดีพอเหมาะให้พออารมณ์ดีและผ่อนคลาย ควบคุมตัวเองได้ก็ไม่น่าเป็นปัญหา ร้านนี้คอไวน์ต้องหลงเสน่ห์กับเทคโนโลยีการเสิร์ฟไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ารสชาติที่ได้ คือจะมี “ไวน์ ดิสเพนเซอร์” ที่ช่วยรักษาคุณภาพและรสชาติได้ยาวนานกว่าปกติ สั่งปุ๊บวางแก้วกดตามปริมาณและราคากันเลย สมกับเป็นบริการจากแบรนด์ดังอย่างรีเดลที่เชี่ยวชาญมากว่า 260 ปี ผสมผสานกับเครื่องแก้วเป่าอันเป็นประวัติศาสตร์ของแบรนด์

“เออร์บัน วิลเลจ” ชมศิลป์ ลิ้นสัมผัส

เมนูอร่อยคู่ไวน์เลิศรสที่รีเดล

       และอีกหนึ่งความสุนทรีย์ที่ไม่แนะนำไม่ได้ คือ “ดุ๊ก (DUKE)” บริเวณชั้น 1 วางคอนเซ็ปต์เป็นคอนเทมโพลารี่ อาร์ท สเปซเก๋ๆ ในรูปแบบฟูล วิสกี้ บาร์ มุมนี้แหละที่เหล่าคนชอบงานศิลป์ไม่ควรพลาด ภายในร้านตกแต่งด้วยผลงานศิลปะจากศิลปินมากฝีมือ ทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม แรกสัมผัสนึกว่าแกลเลอรี่จัดแสดงศิลปะอย่างเดียว แต่พอมีพนักงานมานำเสนออาหารและเครื่องดื่มถึงกับตื่น เพราะเพียงแค่ของกินเล่นไว้ต้อนรับที่มาพร้อมรสชาติละมุนในแก้วก็แทบไม่อยากรีบลุกกลับบ้าน ซึ่งบริการในร้านยังมีอีกมากไม่ขออธิบายละเอียดแบบลงลึก เอาเป็นว่าถ้าสนใจก็ลองแวะเวียนมาเปิดประสบการณ์ด้วยตัวเอง.... 

“เออร์บัน วิลเลจ” ชมศิลป์ ลิ้นสัมผัส

ชีสหลายหลายพร้อมของขบเคียวรอต้อนรับชาวดุ๊ก

“เออร์บัน วิลเลจ” ชมศิลป์ ลิ้นสัมผัส

อารมณ์สุนทรีย์ที่ร้านดุ๊ก

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ