Lifestyle

ลองรสหลวงพระบาง@อาเซอรัย บิสโทร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไปเยือนหลวงพระบางครั้งหน้าอย่าลืมแวะไป 'อาเซอรัย บิสโทร '

       ต้องมนต์เสน่ห์เมืองมรดกโลกจนต้องหวนกลับไปเยือนหลวงพระบางอีกครั้ง แต่ครานี้นอกจากจะมีเวลาเดินสำรวจความเปลี่ยนแปลงของเมืองเก่าได้อย่างเต็มที่แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการตระเวนชิมของอร่อยตามร้านรวงขึ้นชื่อต่างๆ ที่ผุดขึ้นมากมายด้วย ซึ่งหลังจากเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ในช่วงเวลา 3 ที่วันเอนกายในหลวงพระบาง ก็เทใจให้ไปเต็มๆ กับรสชาติอาหารที่ห้องอาหาร  อาเซอรัย บิสโทร ภายในโรงแรมอาเซอรัย หลวงพระบาง ใกล้สี่แยกใจกลางเมือง

ลองรสหลวงพระบาง@อาเซอรัย บิสโทร

บรรยากาศโปร่งโล่งสบายภายใน อาเซอรัย บิสโทร

       ร้านตั้งอยู่ชั้นล่างตรงหัวมุมของโรงแรม ตัวร้านโปร่งโล่งสบายรอรับการเดินทางมาลิ้มลองความอร่อยของนักชิมตัวยงทั้งที่พักในโรงแรมและนักท่องเที่ยวด้านนอก การตกแต่งเป็นแบบคอนเทมโพรารี่ กึ่งรีสอร์ท เน้นให้นั่งรับประทานอาหารแบบสบายๆ ไม่ว่าจะเลือกนั่งรับประทานโซนใต้หลังคา หรือจะเลือกเป็นโซนกลางแจ้งท่ามกลางความเป็นธรรมชาติของสวนสวยๆ ที่มีต้นโพธิ์อายุ กว่า 100 ปียืนตระหง่านสร้างความร่มรื่นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ลองรสหลวงพระบาง@อาเซอรัย บิสโทร

บัฟฟาโล มอสซาเรลล่าสลัด

       เมื่อเลือกได้ที่นั่งถูกใจแล้ว ก็ถึงเวลาสั่งอาหาร อาเซอรัย บิสโทร เสิร์ฟอาหารประเภทบิสโทร อาหารลาวพื้นเมือง และอาหารแนวตะวันตก โดยมีเชฟสัญชาติอังกฤษ เบน เฟเกอร์ คอยรังสรรค์เมนูพิเศษหมุนเวียนมาให้ชิมตลอดทั้งปีตามที่วัตถุดิบที่แปลงปลูกจะเอื้ออำนวย เพราะที่นี่เชฟเน้นการเลือกใช้วัตถุดิบพื้นบ้านตามฤดูกาลเป็นหลัก ดังนั้นมาครั้งต่อไปอาจไปเมนูที่เคยติดใจก็เป็นได้ และที่สำคัญมาหลวงพระบางขึ้นชื่อลือชากันมากว่าอาหารทุกอย่างต้องใส่ผงชูรส แต่ที่ อาเซอรัย บิสโทร การันตีว่าไม่เจือปนผงชูรสแม้แต่น้อยในทุกเมนู

ลองรสหลวงพระบาง@อาเซอรัย บิสโทร

บีทรูท สลัด

       สำหรับวันนี้จานแรกเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่เชฟแนะนำให้ลองรับประทาน เป็นอาหารสไตล์เวสเทิร์นอย่าง บัฟฟาโล มอสซาเรลล่าสลัด เมนุูนี้เชฟเลือกใช้มอสซาเรลล่าชีสซึ่งเป็นสินค้าท้องถิ่นของหลวงพระบางมาจัดวางรวมกับมะเขือเทศและแตงโมลูกกลมแดง หากเลือกตักมอสซาเรลล่าชีสพร้อมกับแตงโมก็จะออกรสหวาน แต่หากรับประทานคู่กับมะเขือเทศจะออกเปรี้ยวเล็กๆ เพิ่มความสดชื่นขึ้นอีกนิดด้วยใบมินต์และมะกอกดำสับที่โรยมาด้านบน จานนี้นอกจากจะรสชาติดีตามที่เชฟเรกคอมเมนท์แล้วสีสันยังสวยงามน่ารับประทานมากๆ เมนูถัดมาสีสดใสดึงดูดใจไม่แพ้กันกับ บีทรูท สลัด จานนี้เชฟการันตีว่าวัตถุดิบล้วนเป็นของพื้นเมือง พระเอกของจานคือบีทรู ซึ่งมีทั้งแบบที่นำไปอบด้วยกรรมวิธีอบช้าๆ ที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ที่ต้องทำแบบนี้ก็เพื่อรักษารสชาติดั้งเดิมไว้ให้มากที่สุด อีกส่วนเป็นบีรูทแบบคริสปี้ที่นำไปสไลด์แล้วทอดแบบดีฟฟราย ทั้งยังมีแครอทเป็นส่วนประกอบสำคัญ จัดเรียงในจานก่อนจะเพิ่มเทกเจอร์ด้วยโฮมเมดชีสและไพน์นัท 

ลองรสหลวงพระบาง@อาเซอรัย บิสโทร

 พอร์ค เทอร์รีน

       ลองชิมไปแล้ว 2 จานเชื่อเลยว่าวัตถุดิบในท้องถิ่นสามารถดัดแปลงได้หลายเมนูจนแทบไม่เชื่อว่าจะแปลกตาได้ขนาดนี้ จานนี้ก็เช่นกัน พอร์ค เทอร์รีน เชฟเลือกใช้หมูเฉพาะส่วนที่มีกล้ามเนื้อกรุบๆ ไม่มีไขมันมาก นำไปอบราว 3-5 ชั่วโมง ระหว่างอบจะมีมอยเจอร์จากหมูเยิ้มออกมา แล้วค่อยๆ เลาะเนื้อหมูออกจากกระดูกมาปรุงรสด้วยสมุนไพรหลายชนิด นำไปกดในแม่พิมพ์แล้วรอจนเริ่มเย็น แล้วจึงนำมาตัดเป็นชิ้นตกแต่งด้วยผักพื้นบ้านหั่นเป็นแว่น เสิร์ฟพร้อมขนมปังกรอบแผ่นแบนทำจากแป้งโฮลวีต และซอสมะม่วงเขียว เวลารับประทานแนะนำให้ตักเครื่องวางลงบนแผ่นขนมปังกรอบก่อนแล้วถึงราดซอสมะม่วงลงด้านบน รับประทานตามขั้นตอนนี้รับรองว่าครบครันความอร่อยแบบไม่มีตกหล่น

ลองรสหลวงพระบาง@อาเซอรัย บิสโทร

สโลว์ คุ้ก พอร์ค เบลลี่

เมนูถัดมาถ้ามองผ่านๆ สาวๆ ที่กลัวอ้วนคงต้องส่ายหัว แต่ถ้าทำความรู้จักกับ สโลว์ คุ้ก พอร์ค เบลลี่ อย่างดีแล้วความกังวลคงหายไปทันที อาหารจานนี้เป็นความลงตัวระหว่างหมู 3 ชั้นชิ้นโตเนื้อนุ่มที่นำไปอบไอน้ำที่ความร้อน 85 องศาเซลเซียสนานข้ามคืนเพื่อให้หมูอยู่ตัว จัดจานให้สวยงามด้วยสลัดผัดสดหวังเอาใจคนรักสุขภาพ ทั้งยังมีข้าวโพดหวานบดมาช่วยเติมเต็มรสชาติด้วย 

ลองรสหลวงพระบาง@อาเซอรัย บิสโทร

เชฟเบน เฟเกอร์ โชว์ดาร์ก ช็อกโกแลต มูส รับประทานคู่กับไอศกรีมมะพร้าว

       อิ่มของคาวสั่งของหวานมาปิดท้าย เชฟภูมิใจนำเสนอ ดาร์ก ช็อกโกแลต มูส เป็นของหวานสไตล์ฝรั่งเศส แต่เชฟปรับจนเป็นสูตรเฉพาะที่รับรองไม่ซ้ำใครแน่นอน ด้วยการใช้วัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่นอย่างข้าวเหนีียวดำหุงสุก มาทอดกรอบหน้าตาคล้ายข้าวพองแล้วเคลือบด้วยช็อกโกแลต โรยบนตัวช็อกโกแลต มูส กินคู่กับไอศกรีมมะพร้าว รสชาติลงตัวทีเดียว สำหรับคนชอบดื่มเบาๆ เพียงย้ายตัวเองไปด้านบนของอาเซอรัย บิสโทร อารมณ์ก็จะเปลี่ยนไปกับ บิสโทร บาร์ ซึ่งเป็นจุดสังสรรค์รื่นเริง สามารถนั่งดื่มชิลๆ บนระเบียงที่มองออกไปด้านนอกจะเห็นถนนใหญ่สถานที่ตั้งของตลาดกลางคืนที่มีสีสันคึกคัก     

       ห้องอาหาร อาเซอรัย บิสโทร ยังมีเมนูแนะนำทั้งคาว-หวานให้ลองชิมกันอีกมากมาย ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ไปเยือนหลวงพระบางครั้งหน้าอย่าลืมแวะไปชิมกันได้...บ๊ายบาย หลวงพระบาง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ