ชะตากรรม‘ตัวนิ่ม’ ในเงื้อมมือนักล่า

                ในแวดวงของการลักลอบค้าสัตว์ป่านั้น นิ่ม หรือลิ่น (P angolin หรือ Scaly Anteater)ถือเป็นสัตว์ที่ให้ค่าตอบแทนสูงลิ่ว ตลาดมืดขนาดใหญ่ในเอเชียตะวันออก นิยมซื้อขายเสือ ฉลาม เต่า งู และสัตว์หายากอื่น ๆ มากกว่าร้อยชนิด และเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงมากประมาณ19,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 667,000 ล้านบาท) ต่อปี แต่สัตว์ที่ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึงคือ ตัวนิ่ม กลับเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เสี่ยงต่อการถูกล่ามากที่สุดตัวหนึ่ง ทั่วโลกสั่งห้ามการค้าขายตัวนิ่มเมื่อปี 2543 แต่เนื้อของมัน และความเชื่อว่าสัตว์ชนิดนี้มีคุณสมบัติทางยาทำให้นิ่มเป็นสัตว์ที่บรรดานักล่าโปรดปรานมากที่สุดชนิดหนึ่งในเอเชีย

                 เนื้อของตัวนิ่มมีความนิ่มอร่อย และหลายคนเชื่อว่าเนื้อของมันรักษาโรคได้หลายโรครวมถึงโรคภูมิแพ้และมะเร็ง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มกำลังวังชาได้ด้วย ตัวนิ่มจึงกลายเป็นสัตว์หายากโดยมีมูลค่าสูงถึง 1,000 ดอลลาร์ (ราว 35,000 บาท) ต่อตัวในตลาดมืด

                  ข้อมูลจากสหพันธ์นานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) เผยว่าตัวนิ่ม 2 ใน 4 ชนิดในเอเชีย อย่างเช่น สายพันธ์ุซุนดา มาลายัน แพนโกลิน หรือสายพันธุ์ที่พบในจีนจัดอยู่ในประเภทที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์สูงส่วน2 ชนิดหลังอยู่ในภาวะที่ใกล้ถูกคุกคาม ขณะที่ 2 ใน 4สายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาก็จัดอยู่ในประเภทใกล้ถูกคุกคามเช่นกัน อย่างไรก็ดี ยังไม่มีตัวเลขแน่นอน ถึงจำนวนสัตว์เหล่านี้ที่ยังหลงเหลืออยู่ทั่วโลก แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการสูญหายของมันอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในป่าเขตร้อน เนื่องจากจำนวนมดและปลวกเพิ่มขึ้น แม้ว่าตัวนิ่มจะได้รับการคุ้มครอง แต่การไล่ล่ายังคงเพิ่มขึ้น

                 เมื่อเดือน ม.ค. 2556 มีการจับกุมชาวจีน 4 รายในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย พร้อมกับหนังของตัวนิ่มจำนวน 189 ชิ้นในกระเป๋าสัมภาระก่อนหน้านั้นในเดือนพ.ค. 2554 พบเนื้อตัวนิ่มจำนวน 7.5 ตันที่ท่าเรือตันจุง พริออกทางตอนเหนือของกรุงจาการ์ตา โดยซ่อนไว้ใต้ชั้นปลาแช่แข็งก่อนจะส่งออกไปยังเวียดนาม เมื่อปี 2553

                  กลุ่มเฝ้าระวังการค้าสัตว์ป่า “เน็ตเวิร์กแทรฟฟิก” เปิดเผยรายงานโดยกล่าวหาว่า องค์การอาชญากรรมมาเลเซียได้ยึดตัวนิ่มที่อายุมากกว่า 18 เดือนขึ้นไปจำนวน 22,000 ตัว และในปี 2554 พบตัวนิ่มที่จับได้ระหว่าง 40,000-60,000 ตัวเฉพาะในเวียดนาม

                    อย่างไรก็ตาม กฎหมายและบทลงโทษที่ใช้อยู่ในปัจจุบันยังไม่รัดกุมในการจัดการกับการค้าสัตว์ป่าเหล่านี้ เช่นเดียวกับช้าง แรด และเสือ ซึ่งนางสาวกนิษฐา คริชนาซามี เจ้าหน้าที่จากเน็ตเวิร์กแทรฟฟิก กล่าวว่า โชคไม่ดีที่ตัวนิ่มไม่ได้รับความสนใจจากคนทั่วไปมากนัก หรือแม้แต่ภาครัฐก็ตาม