โดย -โต๊ะข่าวสัตว์เลี้ยง
เต่ายักษ์หลายชนิดมีต้นกำเนิดมาจากยุโรป โดยเฉพาะเต่ายักษ์ชนิดสุดท้าย “ไททันโนเชลอน” เป็นเต่าขนาดยักษ์ที่สุดที่เคยวิวัฒนาการในทวีปนี้ บางตัวมีกระดองยาวถึง 2 เมตร ซึ่งใหญ่กว่าเต่ากาลาปากอสในปัจจุบันอยู่มาก เมื่อไม่นานมานี้ นักบรรพชีวินวิทยาส่วนใหญ่ได้ข้อสรุปว่า เต่าไททันโนเชลอนหายไปจากยุโรปตะวันตกเมื่อราว 3.3 ล้านปีก่อนและพวกมันอาจจะมีถิ่นอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของยุโรปตะวันตกเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น รวมถึงแถบเกาะเลสบอสของกรีซ ที่พบซากเต่าอายุราว 2.4 ล้านปี นอกจากนี้ นักบรรพชีวินวิทยาขุดพบกระดูกต้นขาและกระดูกเท้าภายในถ้ำไฮยีน่าโบราณบริเวณภูเขาเบติคาทางตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นของเต่าไททันโนเชลอน กระดูกดังกล่าวมีอายุ 2 ล้านปีซึ่งหมายความว่าเต่ายักษ์เคยมีชีวิตรอดในแผ่นดินยุโรปนานกว่าที่พวกเขาคิดราว1.3 ล้านปี
อดัน เปเรซ-การ์เซียจากมหาวิทยาลัยการศึกษาทางไกลในกรุงมาดริดของสเปนยังตั้งสมมติฐานว่าแรงกดดันจากสัตว์นักล่าอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เต่าไททันโนเชลอนมีวิวัฒนาการจนลำตัวขยายใหญ่ขึ้น
แต่สกอตต์ ทอมสัน จากมหาวิทยาลัยเซาเปาลูของบราซิล ระบุว่า ยังมีปัจจัยอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะอากาศที่อบอุ่นและคงที่ เป็นผลให้พืชพรรณเจริญเติบโตและอุดมไปด้วยสารอาหาร จึงมีส่วนทำให้สัตว์เลื้อยคลานชนิดต่างๆเจริญเติบโตเร็วขึ้นและมีขนาดลำตัวใหญ่ขึ้น สภาพอากาศที่เย็นลงนับเป็นข่าวร้ายสำหรับบรรดาเต่ายักษ์ เพราะบีบให้พวกมันต้องมองหาที่หลบหนาวซึ่งเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ เต่าตัวเล็กๆ ยังหาทางขุดหลุมหลบหนาวได้
จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเต่าพวกนี้ยังพบได้ในยุโรปยุคปัจจุบัน ขณะที่เต่ายักษ์หาที่ขุดหลุมได้อย่างยากลำบาก ทอมสัน ยังบอกว่า เต่ายักษ์ยังใช้เวลาฟักไข่นานกว่าเต่าขนาดเล็ก จึงเป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่าในสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ อีกสาเหตุหนึ่ง คือการที่มนุษย์พากันล่าพวกมันจนสูญพันธุ์ และก่อให้เกิดซากเต่าไททันโนเชลอนเพิ่มมากขึ้น
แม้ว่าปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานให้สืบสาวต่อไปได้มากนัก แต่ยังชี้ให้เห็นว่า เต่ายักษ์ได้สูญพันธุ์ไปจากยุโรปเพียงไม่นานก่อนที่มนุษย์ยุคโบราณรุ่นแรกเดินทางมาถึง ด้วยเหตุผลว่าอาจมีแนวโน้มการตายของไททันโนเชลอนไม่เกี่ยวกับมนุษย์แต่อย่างใด
“มนุษย์เราต้องรับผิดชอบต่อการสูญพันธุ์มากมาย แต่ไม่ใช่สัตว์ทุกชนิด”ทอมสัน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง