Lifestyle

รสฝรั่งเศสแท้ ที่ ‘คาเฟ่ ปาริเซียน’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รสชาติของอาหารฝรั่งเศสแท้ๆ จะไม่จัดจ้านเหมือนอาหารไทย และไม่เน้นการปรุงที่มากจนเกินไป

      รสฝรั่งเศสแท้ ที่ ‘คาเฟ่ ปาริเซียน’

     คงไม่ง่ายนักหากอยากรับประทานอาหารฝรั่งเศสแบบต้นตำรับ เพราะในบ้านเราร้านอาหารประเภทนี้ยังมีไม่มากนัก แต่รับรองคออาหารฝรั่งเศสจะไม่ผิดหวังหากตรงดิ่งไปที่ “คาเฟ่ ปาริเซียน” ภายในกลาสเฮ้าส์ อาคารสินธร ถนนวิทยุ ร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ประดับกระจกรอบร้านเพื่อให้เห็นทิวทัศน์ด้านนอกร้านอย่างชัดเจน ภายในร้านเน้นโทนสีขาวเป็นหลักแล้วเพิ่มความหรูหราด้วยสีทองและสีเขียว โดดเด่นด้วยโคมไฟสีขาวลูกใหญ่ห้อยระย้า ตัวร้านมี 2 ชั้น ชั้นล่างยังเป็นครัวแบบเปิดโล่ง สามารถเห็นการรังสรรค์อาหารแต่ละจานได้อย่างชัดเจน หากมาปาร์ตี้เป็นกลุ่ม 20-25 คน แนะนำให้เลือกนั่งชั้นบนจะเป็นสัดส่วนกว่าไม่ต้องปะปนกับใคร

รสฝรั่งเศสแท้ ที่ ‘คาเฟ่ ปาริเซียน’

      หลังจากเลือกที่นั่งได้แล้วก็ว่าด้วยเรื่องของอาหารกันบ้าง ที่นี่เขาขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติแบบฝรั่งเศสขนานแท้ โดยเลือกใช้วิตถุดิบชั้นดี กว่า 70 เปอร์เซ็นต์นำเข้าจากต่างประเทศ ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกสั่งเมนูไหน บาแก็ต หรือขนมปังฝรั่งเศสก็ถูกเสิร์ฟตรงหน้า พนักงานบอกว่าเป็นคอมพลีเมนทารี่สำหรับทุกโต๊ะ ระหว่างรออาหารที่สั่งไปจึงเป็นเวลาได้ลิ้มลองขนมปังโฮมเมดแบบกรอบนอกนุ่มใน รับประทานคู่กับเนยหอมกรุ่นที่จัดมาคู่กันถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีทีเดียว

รสฝรั่งเศสแท้ ที่ ‘คาเฟ่ ปาริเซียน’

สแปนิช ออคโทปุส สลัด 

      รอเพียงไม่นานเมนูที่สั่งไปก็เริ่มทยอยออกมาให้ได้ลิ้มรส ระหว่างนี้ เชฟโอลิเวอร์ แคสเทลล่า เชฟประจำร้าน เล่าให้ฟังว่า รสชาติของอาหารฝรั่งเศสแท้ๆ จะไม่จัดจ้านเหมือนอาหารไทย และไม่เน้นการปรุงที่มากจนเกินไป แต่ละจานเน้นโชว์รสชาติของวัตถุดิบนั้นๆ จานแรกที่อยากแนะนำเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยรับประทานง่ายๆ อย่าง สแปนิช ออคโทปุส สลัด หน้าตาคล้ายซีซาร์สลัด ทั้งยังมีมะเขือเทศ มันฝรั่งหัวเล็กเนื้อแน่นนำเข้าจากฝรั่งเศส รสชาติไม่หวานเหมือนกันมันจากที่อื่นๆ แฮมแห้ง และที่ขาดไม่ได้คือ หนวดปลาหมึกยักษ์ชั้นดีจากสเปน ส่วนความพิเศษของจานนี้อยู่ที่ซอสทำจากน้ำส้มชนิดหนึ่งรสชาติออกเปรี้ยวนำ เมื่อคลุกเคล้ากับส่วนผสมอื่นๆ รับประทานพร้อมกันลงตัวทีเดียว

รสฝรั่งเศสแท้ ที่ ‘คาเฟ่ ปาริเซียน’

 สแกลลอป เคอเนล

      จานถัดมาเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่ไปเมืองลียงแล้วต้องไม่พลาด ชื่อว่า สแกลลอป เคอเนล เชฟอธิบายว่า เมนูนี้สามารถใช้ได้ทั้งเนื้อวัว ไก่ หรือปลาก็ได้ แต่สำหรับที่นี่เราเลือกใช้หอยเชลล์มาบดผสมกับเครื่องปรุงแล้วตักเป็นก้อนลงไปต้มในซุปผัก เคียงคู่กับเห็ดสับผัดกับหอมแดงปรุงรส ราดด้วยล็อบสเตอร์ซอส รับประทานตอนร้อนๆ อร่อยจนวางช้อนไม่ลงเลยล่ะ มาต่อกันที่เมนูสุดคลาสสิกสำหรับคนที่ชอบรับประทานเนื้อวัว ต้องไม่พลาดสั่ง วีล บลองเก็ต เป็นอาหารโบราณนิยมมาตั้งแต่ 300 ปีก่อน วิธีการปรุงคือการน้ำเนื้อวัวส่วนน่องที่มีเอ็นนิดหน่อยมาต้มในน้ำ ใส่ผักและเติมเกลือลงไป ต้มต่อไปจนผักสุกและเนื้อเปื่อยนุ่ม ส่วนตัวซอสเพียงใส่ครีมและไข่แดงลงในน้ำสต๊อกตีให้เข้ากันก็จะได้ครีมซอสสีขาวนวล นำไปราดให้ฉ่ำเข้าไปในตัวเนื้อ รับประทานคู่กับข้าวพิลาฟ ที่จะช่วยเติมเต็มความอร่อยได้อย่างสมบูรณ์แบบ

รสฝรั่งเศสแท้ ที่ ‘คาเฟ่ ปาริเซียน’

วีล บลองเก็ต

รสฝรั่งเศสแท้ ที่ ‘คาเฟ่ ปาริเซียน’

บอลด์ บีฟ

      อีกหนึ่งเมนูต้นตำรับที่นิยมรับประทานกันทั่วไปในฝรั่งเศส ได้แก่ โปโต เฟอร์ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า บอลด์ บีฟ เชฟจะนำเนื้อวัวที่มีเอ็นตรงกลางไปต้มกับผักตามฤดูกาล แต่หลักๆ จะเป็นแครอท ขึ้นช่าย และต้นกระเทียม นำไปต้มประมาณ 2 ชั่วโมง จะได้เนื้อที่เปื่อยนุ่มรับประทานแล้วเหมือนละลายในปาก ส่วนผักก็นิ่มอร่อย เสิร์ฟมาพร้อมด้วยเกลือหิมาลายัน แตงกวาดอง และมัสตาด ส่วนน้ำซุปเสิร์ฟมาในกาให้ลูกค้าได้เทกันเองตามแต่ชอบ เมนูนี้เชฟเล่าเพิ่มเติมว่า ชาวปารีเซียงนิยมรับประทานกันในหน้าหนาว จะตักซดน้ำซุปด้วยเพื่อช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย และหากรับประทานไม่หมดจะนำซุปไปทำซุปหัวหอมหรือใส่ชีสรับประทานกับขนมปัง ส่วนเนื้อที่เหลือจะนำไปบดกับผัดและมะเขือเทศ แล้วนำไปอบเป็นอาหารสำหรับมื้อต่อไป

รสฝรั่งเศสแท้ ที่ ‘คาเฟ่ ปาริเซียน’

คาราเมล มิลล์เฟย สอดไส้ครีมเฮเซลนัท

      อิ่มของคาว ลองชิมของหวานกันบ้าง ทางร้านแนะนำเป็น คาราเมล มิลล์เฟย สอดไส้ครีมเฮเซลนัท เป็นเมนูขนมหวานสุดคลาสสิกที่รับประทานง่ายและคนไทยรู้จักเป็นอย่างดี รับประทานคู่กับไอศกรีมโฮมเมดหลากรสชาติที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ชิม อร่อยลงตัวทีเดียว อ่อ...เชฟแนะนำว่า การรับประทานมิลล์นั้นเฟยต้องพลิกด้านที่เป็นชั้นขึ้นข้างบน เวลาหั่นไส้ครีมจะได้ไม่ไหลออกด้านข้าง มื้อพิเศษนี้ขอตบท้ายด้วยเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง ราสเบอร์รี่ โมจิโต้ รสชาติออกเปรี้ยว ซ่า ทั้งยังมีกลิ่นมิ้นต์ ดื่มแล้วเรียกความสดชื่นกลับมาได้จริงๆ 

รสฝรั่งเศสแท้ ที่ ‘คาเฟ่ ปาริเซียน’

ราสเบอร์รี่ โมจิโต้

       ที่ยกตัวอย่างมาให้ลองวันนี้เป็นแค่ส่วนเล็กๆ ทางร้านยังมีอาหารอื่นๆ ให้เลือกชิมอีกมากมาย ถ้ามาช่วงกลางวันมีเซตอาหารแบบราคาสบายกระเป๋า ประกอบด้วย อาหารเรียกน้ำย่อยจะเลือกเป็นสลัดหรือซุป ตามด้วยเมนคอร์ส และของหวาน ซึ่งจะปรับเมนูจะปรับเปลี่ยนทุกเดือนเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงความหลากหลาย เอาเป็นว่าหากนึกถึงอาหารสไตล์ปาริเซียนเมื่อไหร่ก็ตรงดิ่งไปเลยที่ “คาเฟ่ ปาริเซียน” ร้านเปิดทุกวัน โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา มื้อกลางวัน 11.30-14.00 น. ส่วนช่วงค่ำตั้งแต่ 18.00 น.ไปจนถึง 22.00 น. จะสอบถามหรือจองโต๊ะยกหูแล้วกดไปที่ 0-2650-9993 ได้เลยคร้า....

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ