Lifestyle

เอ็มจี จีเอส 1.5 เทอร์โบ จัดจ้าน แน่น เกาะถนน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เอ็มจี เข้าสู่ตลาดเอสยูวี ต้นปี 2559 กับรุ่นจีเอส เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร

เพราะเห็นว่าตลาดที่มีทิศทางการเติบโตที่น่าสนใจและได้รับเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดี โดยเฉพาะเรื่องของสมรรถนะและการขับขี่

ปลายปีเดียวกัน เอ็มจีเสริมตลาดจีเอสด้วยการเปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์เล็กลงมา คือ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ โดยมี 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น D ราคา 8.9 และรุ่น X 9.9 แสนบาท ส่วนรุ่น 2.0 ลิตร ราคา 1.21 ล้านบาทในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 1.31 ล้านบาท ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ

เอ็มจี จีเอส 1.5 เทอร์โบ จัดจ้าน แน่น เกาะถนน

  ราคาที่ต่ำกว่ารุ่น 2.0 พอควร แต่ว่าออปชั่นต่างกันไม่มาก โดยเฉพาะตัว X ไม่ว่าจะเป็นซันรูฟไฟฟ้า ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบปรับไฟหน้าสูง-ต่ำ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบพุชสตาร์ท หน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว ระบบนำทาง

 รวมถึงอินคาเน็ตที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ทำงานทั้งการตรวจสอบข้อมูล สถานะรถ เชื่อมต่อระบบความบันเทิงต่างๆ ซึ่งใช้ฟรี 5 ปี ผ่านเครือข่ายทรู

  ระบบความปลอดภัยมีทั้งเอบีเอส อีบีดี ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ควบคุมการลื่นไถล ระบบควบคุมเบรกขณะเข้าโค้ง ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบออโต้โฮลด์ ระบบทำความสะอาดจานเบรก ระบบเพิ่มแรงดันไฮดรอลิกเบรก ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อลดเกียร์ลงต่ำฉับพลัน เป็นต้น

  เบาะนั่งพับแยก 60/40 และเบาะหลังเด่นที่สามารถปรับพนักพิงได้ 14 องศา ตรงนี้ดีครับ เพราะช่วยให้นั่งสบายขึ้นมาก หากจะนั่งชมวิว พูดคุย ก็ปรับตั้งขึ้นมา แต่พอเริ่มเหนื่อยล้าก็ปรับลงเอนหลังได้สบายขึ้นครับ

 แต่การที่เครื่องยนต์ที่เล็กลง คำถามที่คนอยากรู้มากก็คือกำลังเพียงพอไหวไหม คำถามนี้ เส้นทางกรุงเทพฯ-ชัยภูมิ-ขอนแก่น อุดรธานี จะให้คำตอบครับ

 เส้นทางมีทั้งทางใหญ่ๆ อย่างมอเตอร์เวย์ ถนนพหลโยธิน ไปจนถึงทางเล็กระหว่างตำบล อำเภอ ลัดเลาะจากปากช่องไปชัยภูมิ ก่อนไปออกขอนแก่น

เอ็มจี จีเอส 1.5 เทอร์โบ จัดจ้าน แน่น เกาะถนน

  เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ ตัวนี้เป็นคนละตัวกับที่ติดตั้งในเอ็มจี 5 เป็นเครื่องที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,700-4,400 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด น้ำหนักตัวรถ 1,460 กก.

  จัดจ้านกว่าที่คิดครับ ผมลองการตอบสนองเครื่องยนต์ถือว่าการออกตัวและการไล่ความเร็วไปจนถึงประมาณ 160 มาได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นความเร็วก็ขึ้นได้เรื่อยๆ แต่อาจจะช้าเล็กน้อย

ที่ถูกใจอีกอย่างคือที่ความเร็วสูงๆ อย่างนี้ ช่วงล่างหน้าอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังอิสระมัลติลิงก์พร้อมเหล็กกันโคลง ทำหน้าที่ได้ดี รถนิ่งมาก ไม่มีอาการร่อนให้รู้สึก น่าประทับใจ

 ในเส้นทางเล็กๆ 2 เลนสวนทาง ต้องใช้รถร่วมกับเพื่อนร่วมทางมากมาย ทั้งจักรยานยนต์ รถยนต์ รถเพื่อการเกษตร รถบรรทุก แรงบิดถูกรีดออกมาใช้ตลอดเวลา และก็ทำได้ดี เร่งแซงได้ไม่ต้องลุ้น และหากอยากสบายใจมากขึ้นเลือกใช้โหมดสปอร์ตด้วยการดึงคันเกียร์เข้าหาตัว ไฟที่หน้าปัดจะเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีแดง การตอบสนองของเครื่องยนต์รวดเร็วขึ้น อารมณ์สปอร์ตมาเต็มแบบกระโชกโฮกฮากเลยทีเดียว แต่หากท้องถนนไม่ได้หนาแน่นมาก ผมแนะนำว่าใช้โหมดปกติดีกว่า ไปได้นุ่มนวลกว่า

 ส่วนแพดเดิลชิฟท์ ที่ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองที่หลังพวงมาลัยจะใช้หรือไม่ใช้ก็ตามใจ แต่ผมว่าใช้เกียร์ D ปกติ ก็เพียงพอแล้ว

และแน่อนเส้นทางที่ลัดเลาะท้องทุ่ง ป่าเขา ด้วยความเร็วพอควร เป็นการสอบทานความสามารถของช่วงล่างอีกครั้ง และจีเอสก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นเคย ยึดเกาะถนนได้ดีไม่ร่อน ไม่ลื่นหรือโยนตัว แม้จะมีขนาดที่สูงกว่ารถยนต์นั่งทั่วไปก็ตาม ส่วนดิสก์เบรก 4 ล้อ ทำงานได้ดีเช่นกัน น้องที่ร่วมคันกับผมลองให้ดูแล้วโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ผลน่าพอใจ

 แต่หากเอ็มจีจะเพิ่มน้ำหนักพวงมาลัยที่ความเร็วสูงกว่านี้อีกนิดจะดีมาก แต่ก็เข้าใจว่าฐานลูกค้าคงจะชอบการขับแบบเบาๆ สบายๆ อีกทั้งคงไม่ได้ขับด้วยความเร็วสูงๆ อย่างนี้มากนัก ความเร็วในถนนเล็กๆ สัก 100-120 น้ำหนักพวงมาลัยก็ถือว่าไม่เบาเกินไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ