คาถา 5 ข้อ กันแก่ก่อนวัย

          ในโลกแห่งดิจิทัลที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวัน ส่งผลต่อการใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ ทำงานหนัก ในขณะเดียวกันก็สร้างความสมดุลในการใช้ชีวิต ด้วยการท่องเที่ยวเพื่อเปิดโลกกว้างและค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ และอีกหนึ่งเทรนด์ที่กลายเป็นไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ คือ มนุษย์ยุคดิจิทัลหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เห็นได้ชัดจากกิจกรรมที่พวกเขามักแชร์ผ่านโซเชียล มีเดีย ทั้งการวิ่ง เข้าฟิตเนส หรือการออกกำลังกายด้วยวิธีต่างๆ แสดงให้เห็นว่า การใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีสุขภาพแข็งแรง ดร.กำพล ภูผาวัฒนากิจ แพทย์ธรรมชาติบำบัด เวอริตา เฮลท์ มหานคร ศูนย์สุขภาพเฉพาะบุคคล มีเคล็ดลับการชะลอวัยและดูแลร่างกายไม่ให้ร่วงโรยผันแปรตามอายุปฏิทิน ที่ทำได้ไม่ยาก เพียง 5 ข้อ 

         ดร.กำพล ให้เคล็ดลับประการแรกว่า “ตรวจสุขภาพแบบองค์รวมอย่างสม่ำเสมอ” หลายคนรอจนมีอาการป่วยก่อนถึงจะไปพบหมอ หลายครั้งเกิดเหตุการณ์ที่ว่า รู้อย่างนี้..ไปตรวจสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ ก็ดี ดังนั้น อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น พยายามหาเวลาไปตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ประการต่อมา “รับประทานอาหารคลีนและอาหารเสริมที่เหมาะกับร่างกาย” อาหารที่รับประทานไม่เพียงแต่มีประโยชน์ แต่ต้องเหมาะกับร่างกายของแต่ละคนด้วย อาหารและโปรตีนบางชนิดมีประโยชน์ แต่ร่างกายบางคนอาจไม่ได้ต้องการสารอาหารเหล่านั้น เช่น นมมีแคลเซียมช่วยเสริมกระดูกให้แข็งแรง แต่บางคนไม่มีเอนไซม์ย่อย จึงอาจทำให้เกิดท้องอืดหรือท้องเสีย ส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหารและการทำงานของลำไส้ใหญ่ อาหารเสริมเช่น วิตามินมีประโยชน์แต่ต้องได้รับในปริมาณที่พอเหมาะและตามความต้องการของแต่ละคน

         นอกจากนี้ “ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและในปริมาณที่เหมาะสม” หลายคนเข้าใจว่ายิ่งออกกำลังกายเยอะ ยิ่งทำให้สุขภาพแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การออกกำลังกายในปริมาณที่พอเหมาะและไม่หักโหม จะทำให้สุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ถัดมา “กำจัดของเสียออกจากลำไส้ใหญ่” ถึงแม้ร่างกายเราสามารถขับถ่ายของเสียโดยระบบขับถ่ายตามธรรมชาติ แต่ก็ไม่สามารถกำจัดได้หมด ซึ่งจะไปสะสมในผนังลำไส้ และเมื่อมีการสะสมเป็นเวลานาน ก็มีโอกาสเกิดการอักเสบและเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่ได้ การใช้น้ำสวนล้างลำไส้จะสามารถชำระล้างของเสียได้ไปจนถึงส่วนผนังลำไส้ ซึ่งนอกจากจะช่วยในเรื่องระบบทางเดินอาหารแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณดี มีน้ำมีนวลอีกด้วย แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ และสุดท้าย “มองโลกในแง่บวก” ไม่ว่าจะเหนื่อย จะท้อแค่ไหน ต้องพยายามคิดเสมอว่า เราแค่มีวันแย่ๆ แต่ไม่ได้มีชีวิตแย่ๆ หาความสุขง่ายๆ จากสิ่งรอบข้างที่มีอยู่แล้วรอบตัว เช่น เสียงนกร้อง ความเงียบสงบของถนนในเมืองในเช้าวันอาทิตย์ สีเขียวของต้นไม้ แค่นี้ก็เป็นความสุขในทุกวันที่หาได้ง่ายๆ เพื่อการมีสุขภาพจิตที่ดี แน่นอนว่านอกจากจะลดการเจ็บป่วยทางร่างกายที่เกิดจากความเครียดแล้ว ยังทำให้หน้าตาผิวพรรณสดใส มีออร่า ดูเด็กกว่าอายุอีกด้วย