“โออิชิ อีทเทอเรียม” ชู 3 แนวคิดหลัก อีท, เอ็กซ์พลอร์ และพรีเมียม พูดให้เข้าใจง่ายๆ คุณภาพของอีทเทอเรียมจะอยู่ระหว่างโออิชิ บุฟเฟ่ต์ กับโออิชิ แกรนด์ นั่นเอง
ตั้งแต่แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นแนวจ่ายแบบมีลิมิตแต่กินได้ไม่อั้น “โออิชิ” เปิดตัวมาให้นักชิมได้ลิ้มรสความต่างเมื่อหลายปีก่อน ทุกวันนี้ก็ครองใจทุกเพศทุกวัยชนิดติดลมบนไปแล้ว แต่ละฤดูเหล่าแฟนคลับจึงตั้งหน้าตั้งตารอว่าร้านโปรดจะมีอะไรแปลกใหม่มายั่วน้ำลายให้หายอยากกันบ้าง นั่นเองเจ้าตำรับอาหารญี่ปุ่นในไทยเลยปิ๊งไอเดียแตกไลน์ร้านรูปแบบใหม่ “โออิชิ อีทเทอเรียม” ชู 3 แนวคิดหลัก อีท เอ็กซ์พลอร์ และพรีเมียม พูดให้เข้าใจง่ายๆ คุณภาพของอีทเทอเรียมจะอยู่ระหว่างโออิชิ บุฟเฟ่ต์ กับโออิชิ แกรนด์ คือเป็นทางเลือกทั้งในแง่ของราคา คุณภาพ และความหลากหลายของรายการ ความอร่อยที่จะเสิร์ฟให้นั่นเอง
เริ่มตั้งแต่บรรยากาศดูมีสีสันยิ่งขึ้น เพราะตั้งใจออกแบบสไตล์ “ยาไต (yatai)” ใครที่ชอบไปตะลุยแดนปลาดิบบ่อยคงคุ้นชินกับกลิ่นอายแบบนี้ดีที่เป็นอารมณ์เดินชิลตามย่านอาหารการกินที่สองฟากฝั่งถนนมีร้านอร่อยให้เลือกละลานตาไปหมด จะเรียกว่า “สตรีทฟู้ด” ก็พอจะได้ เป็นอะไรที่ง่ายๆ แต่ถูกปาก โดยไลน์บุฟเฟ่ต์ของเขาจะแบ่งจุดบริการไว้ 8 โซน มีอาหารให้เลือกเกือบร้อยรายการแหนะ
ซูชิหน้าเอ็นกาวะ
เอาล่ะ เลือกที่นั่งทำเลดีๆ แล้วเดินสำรวจ แน่นอนว่าเป้าหมายแรกของคนโปรดอาหารญี่ปุ่นต้องรีบพุ่งไป โซนปลาดิบ หรือซาชิมิ รู้กันดีอยู่ว่าโออิชิจัดให้แบบไม่ต้องถือจานรอให้เสียอารมณ์ ทั้งแซลมอน ซาบะ ทูน่า ปูอัด หมึกยักษ์ สดใหม่ชิมรสแล้วรับรู้ได้เลย ถัดไปอีกหน่อยเป็นในส่วนของส่วนซูชิ ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน สำคัญว่าเป็นซูชิที่ไม่เน้นปริมาณข้าว ปั้นเป็นคำเล็กๆ แต่เพิ่มหน้าให้ใหญ่ขึ้นแทน ให้ได้ลิ้มรสความอร่อยแบบเต็มๆ คำ ไม่ว่าจะเป็นหน้าปลาไหลญี่ปุ่นย่างซีอิ๊ว, หน้าปลาทูน่า, หน้าเอ็นกาวะ, หน้าปลาแซลมอน-แซลมอนย่าง, หน้าไข่หวาน, หน้าไข่กุ้ง ชอบแบบไหนก็คีบๆ แล้วก็คีบกันไป แต่ไม่ต้องเยอะนะยังมีของเด็ดๆ รอให้ลิ้มรสอีกเพียบ
คีบซูชิเป็นที่พอใจแล้ว กำลังจะไปตักวาซาบิ เหลียวไปเจอรถคันเล็กๆ หน้าตาหน้ารักจอดอยู่ เปิดด้านข้างให้เห็นเชฟกำลังปั้นๆ มีสาวๆ ยืนเซลฟี่อยู่น่าสนุกดี เดินถือจานซูชิไปวางที่โต๊ะก่อนแล้วมายืนดูถึงบางอ้อว่าเป็น โซนเทะมากิ หรือข้าวห่อสาหร่ายเป็นกรวย ซึ่งเขาเน้นความหลากหลายของวัตถุดิบบวกกับความสดใหม่ มีให้เลือกถึง 6 อย่างคือ ปูนิ่มทอด, แซลมอน, ทงคัทสึ, ทูน่า, กุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอด และไข่หวาน เลือกเป็นกุ้งชุบเกล็ดขนมปัง เห็นเชฟห่อแล้วน่าสนุกเลยขอเขาลองห่อดู ก็ไม่ยากนะ มื้อนี้อร่อยด้วยรสมือเรา อิอิ
โคโรเกะไส้ปูอลาสก้าชีส
นั่นก็ดีนี่ก็น่าสนใจ รับประทานบุฟเฟ่ต์มันดีต่อใจแบนนี้นี่เอง นั่งจัดการที่ตัวเองถือมาวางบนโต๊ะจิบน้ำซึ่งก็มีชาเขียวรสดั้งเดิม ชาเขียวข้าวคั่ว แล้วก็น้ำอัดลมพอให้ได้หายใจกันแล้ว เดินทางกันต่อมาหยุดที่ โซนคุชิคัตสึและยากิโทริ หรืออาหารเสียบไม้ทอดและย่าง จัดวางเรียงรายเป็นหมวดหมู่ มีป้ายบอกชัดเจน หนึ่งในนั้นมีของใหม่แกะกล่องทางร้านครีเอทเองอย่างโคโรเกะไส้ปูอลาสก้าชีส เป็นก้อนสีเหลืองๆ เหมือนลูกชิ้น ใช้ส้อมแงะออกเห็นปูอัดฟูๆ เป็นชิ้นน่ากินเชียว ส่วนรสชาติก็พอได้นะ มีความหอมนุ่มเหมาะกับกินเล่นๆ ระหว่างพักช่วง
สั่งเมนูพิเศษด้วยการสแกนบาร์โค้ด
สุกี้ยากี้ญี่ปุ่น
ปลาฮาลิบัทย่างราดซอสมิโซะชาเขียว
ต้องบอกว่าพักก่อนเพราะในเวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที ที่เขากำหนดให้นั้น ถ้าไม่ทำอะไรช้าอีดอาดยืดยาดเกินไป ยังพอมีเวลาอีกเพียบ แต่สำคัญว่าต้องโฟกันเป็นอย่างๆ แล้วรับประทานแต่น้อยไว้ก่อนถึงจะลิ้มรสแต่ละจานได้จริงๆ อย่างใน ไลน์สเต๊กเคาน์เตอร์สไตล์ญี่ปุ่น หรือเทปันยากิกระทะร้อน มีของอร่อยเพียบ ทั้งหมู เนื้อ กุ้ง แซลมอน และซีฟู้ด เวลาสั่งก็สะดวกดี ทันสมัยด้วย คือเขาจะใช้ระบบบาร์โค้ดในการรออเดอร์ จะมีบัตรสำหรับสแกนบาร์โค้ดไว้ที่โต๊ะทุกโต๊ะ 2-3 ใบ นำไปกดเลือกเมนูที่ชอบจากรายการที่ระบุไว้บนหน้าจอเครื่องสั่งอาหาร อยากได้กี่จานก็กดเลือกตามที่ต้องการ เมื่อเชฟปรุงเสร็จพนักงานจะนำไปเสิร์ฟที่โต๊ะอย่างไม่ผิดพลาด เราก็มีเวลาเดินไปเลือกอย่างอื่นได้ เจ๋งป่ะล่ะ!
หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว
ส่วนอีกโซนที่ไม่อยากให้พลาด เพราะดูจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างหนักท้องอยู่เสียหน่อย เหมาะกับใครที่ไม่ชอบลุกนั่งหลายรอบ อยากกินอันนี้แหละเยอะๆ ไปเลย ให้สำรวจ โซนเมนดิช (Main Dish) หรือซุ้มอาหารนานาชาติ แต่ละวันมีหลายรายการให้เลือกแบบจุใจ ทั้งเนื้ออบซอสญี่ปุ่น, ผัดผักเห็ดไมตาเกะ, ขาเป็ดน้าแดง, หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว, เฟตตูชินีกุ้งซอสไข่ปู, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ซอสคาเฟ่, ผักโขมอบชีส, ปลาคอดย่างเนยกระเทียม ฯลฯ โดยเฉพาะหัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว ต้องบอกว่าใครไม่โดนใจร้านอื่นๆ ที่หัวเล็กต้มมาไม่กลมกล่อม ให้ลองเลย ที่นี่ของเขาเปื่อยนุ่ม โอชามากๆ
ซุปเย็นรสกลมกล่อม
คากิโกริ และเครปเค้กซอสเสาวรส
ยังมีโซนซุป, สลัด, ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น โซนคากิโกริ หรือน้ำแข็งใสเกล็ดหิมะที่ฮิตกันมากในญี่ปุ่นยกมาไว้ให้คนไทยเปรมปรีดิ์ ใครชอบใส่เมล่อนญี่ปุ่นต้องสั่งมาลอง ตัวน้ำแข็งใส่ใช้นมสดมาปั่นจนเป็นเกล็ดเวลากินจะออกนุ่มๆ มีกลิ่นนมเย้ายวนผิดจากทั่วไปที่เป็นเกล็ดน้ำแข็งธรรมดาแล้วราดนม ต้องลองให้ได้ สุดท้ายจริงๆ กับชา กาแฟ และขนมหวานล้างปากแนะนำเป็นเครปเค้กซอสเสาวรสที่ตัวเครปส่งตรงมาจากญี่ปุ่นกันเลย สาวๆ ต้องชอบแน่นอน อยากรู้อยากลองต้องหาโอกาสแวะชิม ร้านอยู่ชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 เปิดปิดตามเวลาห้าง สนนราคาคนละ 659 บาท กินไม่อั้นแต่มีเวลาจำกัดนะจ๊ะ บริหารปากท้องกันให้ดีล่ะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง