Lifestyle

ขับแล้วชอบ รวมรถปี59

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พบกันฉบับแรกของปี 2560 แต่ว่าวันนี้พื้นที่ตรงนี้ขอใช้สำหรับมองย้อนกลับไปใน 2559 ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปไม่นาน

ซึ่งตลอดปีที่ผ่านมา คอลัมน์นี้เป็นเวทีที่นำรถหลายรุ่นมาฝากกัน ซึ่งแต่ละคันก็มีจุดเด่นหรือจุดที่ต้องปรับปรุงแตกต่างกันไป

มีรถหลายคันที่ผมชื่นชอบซึ่งไม่ได้หมายความว่าเป็นรถที่ดีที่สุด หรือเป็นการจัดอันดับรถยอดเยี่ยม แต่เป็นรถที่มีบางจุดบางมุมที่ได้สัมผัสแล้วประทับใจ หรือไม่ก็แปลกใจ ประมาณว่าทำได้อย่างนี้หรือ และด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ก็เลยนำมาเล่าสู่กันฟังแค่ไม่กี่รุ่นเท่านั้น ยังมีรถอีกหลายคันที่ประทับใจ

เริ่มกับ ทาทา ซีนอน ดับเบิลแค็บ 150NX-Plore 4WD เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ 150 แรงม้า แรงบิด คือ 320 นิวตันเมตร รถที่หลายคนไม่ได้พูดถึงมากนัก

และแม้ว่ารายละเอียดรถหลายๆ อย่าง เช่น รูปทรงเบาะ ตำแหน่งการนั่ง ตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งเกียร์ เบรก คันเร่ง คลััตช์ ดูจะขัดๆ เขินๆ ไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง หรือว่าเป็นเพราะอยู่กับมันไม่นานพอก็ไม่รู้เหมือนกัน

แต่ผมชอบอารมณ์การขับขี่ออฟโรด ทั้งทางกรวดที่อัดได้สนุก ทางขึ้นลงเนินชันมากๆ รถมีวอล์กกิ้งสปีดที่ดี ไต่ขึ้นสบายๆ ผิดคาด การขับขี่เนินสลับ เนินเอียงลุยน้ำลุยโคลนก็ทำได้ดีไม่มีปัญหา และเมื่อมองดูราคาที่ 7.34 แสนบาท ผมว่าขาลุยก็น่าจะประทับใจอยู่ไม่น้อย

เอ็มจี จีเอส 2.0 ที่ยอดขายอาจไม่มากนัก กินน้ำมันสักหน่อย แต่ผมได้ลองขับช่วงหน้าฝนและเกิดความประทับใจกับช่วงล่างของรถที่เกาะถนนได้ดี และรู้สึกสบายใจอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อต้องขับฝ่าฝนที่น้ำเจิ่งนอง ส่วนทางแห้งก็ยิ่งขับสนุกรถจัดการกับทางโค้งได้ดี ขณะที่ทางตรงก็นิ่งไว้ใจได้

แน่นอนว่าคงไม่มีอะไรสมบูรณ์ไปหมดทุกอย่าง เช่น เครื่องยนต์ที่ตอบสนองดีที่ความเร็วกลาง หรือความเร็วสูง แต่ช่วงออกตัวยังมีจังหวะหน่วงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรที่จะยกให้มันเป็นหนึ่งในรถที่ประทับใจ

บีเอ็มดับเบิลยู X1sDrive18d ที่เปิดตัวตั้งแต่ช่วงต้นปี 2559 เป็นอีกคันที่ผมประทับใจ เป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานไม่ว่าจะในเมืองหรือออกต่างจังหวัดสำหรับการเดินทางเดี่ยวๆ หรือครอบครัวเล็กๆ ผมจำได้ว่าผมพาเอสยูวีตัวเล็กสุดของบีเอ็มดับเบิลยูมุุ่งหน้าไปเทพสถิต ชัยภูมิ โดยเลือกเส้นทางเล็กๆ ที่หมายเลขถนนมี 4 หลัก จากสระบุรี เฉียดไปทางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ.พัฒนานิคม มุ่งหน้าท่าหลวง ชัยบาดาล ไปบรรจบกับถนนหมายเลข 21 ที่ลำสนธิ ทางหลายช่วงไม่ดีนัก มีหลุมมีบ่อ และบางช่วงเรียบแต่ว่าทางยุบเลยกลายเป็นเหมือนมีเนินขึ้นลงเล็กๆ ให้รถวิ่งเป็นม้า แต่รถก็จัดการทุกอย่างได้ดี ส่วนความเร็วสูงๆ 160-170 รถนิ่งๆ สบายๆ

รถสูงกว่ารถเก๋งไม่มากนักดูกะทัดรัด แต่ก็เพียงพอที่จะเพิ่มทัศนวิสัยที่ดีขึ้น ช่วยให้สบายตาไม่เครียด และสิ่งที่ชอบอีกสิ่งก็คือ แรงบิดที่สูงช่วยให้รถมีความคล่องตัวในการขับขี่ที่ต้องเปลี่ยนแปลงความเร็วบ่อยครั้ง เดี๋ยวเบรก เดี่ยวเร่ง หรือเร่งเพื่อเปลี่ยนช่องทางแบบรวดเร็ว

ผมประทับใจ แลมโบร์กินี ฮูราคาน เพราะทางทีมงานจัดกิจกรรมที่ช่วยให้เข้าไปถึงสมรรถนะของมันได้ดี คือการขับขี่สนามที่ได้มาตรฐานอย่างช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยไม่มีกรวยมาตั้งขวาง บังคับไลน์ บังคับเบรก แม้ว่าจะมีกฎเกณฑ์ว่าห้ามแซงรถนำของทีมงานเพื่อความปลอดภัย เพราะเขาปล่อยลงสนามพร้อมกัน 2 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คัน รวมรถนำ

แต่คนนำซึ่งเป็นนักขับมืออาชีพและก็รู้จัก รู้ใจ กันดี ก็ไม่ได้ขับกินลมให้เสียรถ การขับแบบกระทืบคันเร่งจึงเกิดขึ้นแทบทุกครั้งเมื่อกำลังออกจากโค้งเพื่อไล่ตามรถนำ และการกระทืบเบรกแบบแรงๆ เพื่อลดความเร็วแบบเร่งด่วนก่อนที่จะไปจูบท้ายคันหน้าก่อนเข้าโค้งจึงเกิดขึ้นบ่อยๆ และความเร็ว 242 กม./ชม.เป็นความเร็วที่ผมทำได้

แม้จะเป็นกระทิงที่ดุดันแต่ก็เป็นรถที่ควบคุมง่าย เข้าโค้งได้อย่างเนียนๆ นิ่งๆ ครับ

ซีวิค 1.5 เทอร์โบ น่าประทับใจสำหรับการเป็นรถตลาด (mass) ปีนี้ เพราะฮอนด้าเปลี่ยนอารมณ์ใหม่ให้คอมแพ็คคันนี้ชัดเจนทีเดียว จากบุคลิกที่เป็นรถทั่่วๆ ไปขับง่าย ซื้อง่ายไม่ต้องคิดมาก มาเป็นรถที่เสริมอารมณ์สปอร์ตเข้าไปอย่างเห็นได้ชัด เครื่องยนต์กระฉับกระเฉงตื่นตัวตลอดเวลา เร่งแซงสบายไม่ต้องลุ้น และเผลอๆ สักครู่เดียวเข็มตวัดไปที่ 190 กม./ชม. แบบไม่ต้องเค้นเครื่องยนต์

นิสสัน เอ็กซ์-เทรล ไฮบริด เป็นรถที่ได้ทั้งประหยัดและสมรรถนะดี ออปชั่นเต็ม ในราคาน่าคบหา และการจัดการพื้นที่ในห้องโดยสารที่ดี นั่นคือสิ่งที่สร้างความประทับใจ

ผมขับในเมืองผมได้ค่าเฉลี่ย 10.4 กม./ลิตร อาจจะดูไม่สูงนัก แต่เส้นทางที่ผมใช้ประจำอย่างสาทรก็ต้องถือว่าพอใจล่ะครับ ส่วนการขับขี่ออกต่างจังหวัดได้ประมาณ 14 กม./ชม. แต่เป็นการขับแบบเท้าหนักที่เรียกมอเตอร์ไฟฟ้ามาเพิ่มความจัดจ้านขับสนุกอยู่เนืองๆ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ