คุ้นลิ้นต้นตำรับไทย ที่ ‘สยาม ที รูม’

           แม้ว่าคนไทยจะรับประทานอาหารไทยมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกจนกลายเป็นความคุ้นเคย ทว่าอาหารไทยที่เห็นกันทุกวันนี้กลับถูกปรับสูตรและเปลี่ยนวิธีการปรุงไปมาก ความพิถีพิถันในการทำก็ลดน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัดส่งผลให้รสชาติผิดเพี้ยนไปด้วย แต่สำหรับที่ห้องอาหาร “สยาม ที รูม” ภายในโรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ความอร่อยของอาหารไทยแท้สูตรโบราณรุ่นคุณปู่-คุณย่ายังคงมีเหลืออยู่ครบครัน การันตีได้จากเชฟมากฝีมือ “อ้น” อนุกูล พูลพิพัฒน์ หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหาร ที่บรรจงรังสรรค์อาหารไทยต้นตำรับจากทุกภาคของประเทศ มาให้คออาหารไทยตัวจริงได้รับประทานกันแบบไม่ผิดหวังในราคาจับต้องได้

            ห้องอาหาร “สยาม ที รูม” เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อต้นเดือนที่แล้วนี่เอง แต่ได้รับการตอบรับดีเกินคาด ได้รับความสนใจจากบรรดาคออาหารไทยตัวจริงเสียงจริงแวะเวียนมาลิ้มรสกันไม่ขาดสาย นั่นเพราะนอกจากเชฟจะใส่ใจในการปรุงจนได้รสชาติอาหารสูตรดั้งเดิมไม่ผิดเพี้ยนแล้ว ร้านยังกว้างขวางโปร่งโล่งสบาย ภายใต้การตกแต่งแบบไทยร่วมสมัยด้วยการเลือกใช้สีครามผสมผสานกับแนวเอิร์ธโทนเป็นหลัก ให้ความรู้สึกชิลๆ คล้ายนั่งรับประทานที่บ้าน ทว่ายังแอบแฝงความหรูหราด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้อย่างดี แถมประดับประดาด้วยภาชนะศิลาดลที่สั่งทำมาเป็นพิเศษ 

เชฟอนุกูล พูลพิพัฒน์ 

          หลังจากซึมซับบรรยากาศความเป็นไทยกันเต็มที่แล้ว ก็ถึงเวลากางเมนูสั่งอาหารกันล่ะ ที่นี้มีบริการทั้งอาหารทานเล่น และอาหารจานหลัก ซึ่งวันนี้จะพาไปชิมกันทั้ง 2 แบบ ประเดิมด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยกันก่อนกับ ยำส้มฉุนปลาสลิดฟู เชฟเลือกใช้ผลไม้รสเปรี้ยว 2 ชนิด คือส้มโอพันธุ์ขาวน้ำผึ้งเนื้อหนา และมะม่วงโชคอนันต์ที่มีทั้งความเปรี้ยวและกรอบในตัว มาคลุกเคล้ากับน้ำยำรสจัดจ้านทั้งยังมีส่วนผสมของน้ำส้มซ่าและผิวส้มซ่าเพื่อให้กลิ่นโดดเด่น ทานแนมกับปลาสลิดฟูและหมูหวานเข้ากันดีทีเดียว แถมยังได้วิติมินซีสูงด้วย

ปอเปี๊ยะกุ้งสดดอกไม้

        อีกเมนูทานเล่นที่เชฟนำเสนอคือ  ปอเปี๊ยะกุ้งสดดอกไม้ หน้าตาคล้ายก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ด้านในจะใช้ผักพื้นบ้านมีทั้งผักกาดหอม โหระพา สะระแหน่ มะม่วง ดอกเข็ม พวงชมพูอัญชัญ เพิ่มรสชาติด้วยกุ้งต้มเกลือ แล้วเติมคุณค่าอาหารด้วยงาขาวและงาดำ ทานคู่กับน้ำจิ้มสมุนไพรสูตรใส่ถั่วรสชาติจัดจ้าน นอกจากจะอร่อยแล้วยังได้คุณค่าทางอาหารมากมายด้วย  เมื่อน้ำย่อยทำงานเต็มที่ก็ได้เวลาอาหารจานหลักกันแล้ว เมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่มาแล้วต้องลองคือ ผัดไทยกุ้งเส้นจันท์ พิถีพิถันในการปรุงทุกขั้นตอนเริ่มตั้งแต่ซอสแบบฉบับโบราณใช้พริกแห้งผัดกับกะทิก่อนแล้วปรุงรส เติมกุ้งสดตัวโต ไข่เป็ด และเส้นจันท์เหนียวนุ่มลงไปน้ำซอสจะไปเคลือบเส้นให้ออกสีส้มวาวๆ น่ารับประทานมาก เสิร์ฟพร้อมถั่วลิสงบดและมะม่วงซอย เพิ่มความจัดจ้านของอาหารขึ้นอีกนิดกับ ซี่โครงหมูย่างราดพริก ด้วยการนำซี่โครงหมูมาหมักกับพริกสดทิ้งไว้ 1 คืนเพื่อให้เครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อ แล้วนำไปย่างจนเปื่อยร่อน หลังซี่โครงหมูสุกนำซอสจากเตาย่างทาบนซี่โครงอีกครั้งเป็นตอกย้ำรสชาติสุดจี๊ด เมนูนี้แนะนำให้ทานกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าเด็ดจนวางช้อนไม่ลงเลยล่ะ 

ซี่โครงหมูย่างราดพริก

กุ้งแม่น้ำเผาราดแกงปู
         

       ตามติดมาด้วยอาหารใต้รสแซบอย่าง กุ้งแม่น้ำเผาราดแกงปู ว่าด้วยตัวแกงปูกันก่อน เชฟใช้พริกแกงสูตรใต้แท้ๆ รสชาติคงไม่ต้องสาธยายว่าเข้มข้นขนาดไหน เติมปูมาแกะชิ้นโตเต็มปากเต็มคำ ตามด้วยใบยี่หร่าและใบชะพลู เสิร์ฟมากับกุ้งแม่น้ำย่างไซส์ใหญ่บนเตาชาโคล จะทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยแต่ถ้าจะให้ครบสูตรแนะนำให้รับประทานคู่กับเส้นหมี่ลวกเข้ากันได้ดีอย่าบอกใครเชียว

ขนมปังปิ้งสังขยาใบเตย

               หลังเอร็ดอร่อยกับอาหารคาว เชฟคนเก่งแนะนำให้ลองขนมหวาน ซึ่งเจ้าตัวการันตีว่าอร่อยไม่แพ้ใคร ที่ภูมิในนำเสนอก็อย่าง ขนมปังปิ้งสังขยาใบเตย ฟังแล้วไม่ใช่ของหาทานยากแต่เมื่อเชฟเรคคอมเมนท์ต้องไม่ธรรมดาแน่ล่ะ พอขนมถูกยกมาเสิร์ฟก็ถึงบางอ้อ เริ่มตั้งแต่ขนมปังเชฟใช้วอลนัทจากโครงการหลวง จ.เชียงใหม่ มาเป็นส่วนผสมกับขนมปังหัวกะโหลก และตีไข่ใส่เข้าไปด้วย ขนมปังที่ได้จึงนุ่มมากๆ ส่วนสังขยาไม่หวานมาก เพราะใช้ส่วนผสมแบบดั้งเดิมมีเพียง ไข่ กะทิ น้ำตาลปี๊บ และน้ำใบเตยไทยต้นเล็ก กลิ่นจะหอมแถมให้สีสันสดใสด้วย นำมาเคี่ยวรวมกันจนได้ที่แล้วราดลงบนขนมปังที่เตรียมไว้ ท็อปด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน รับประทานขณะร้อนๆ อร่อยทีเดียว ยิ่งได้กาแฟร้อน หรือชาร้อนสักแก้วมาดื่มคู่กันรับรองต้องติดใจ

              นอกจากเมนูที่ยกตัวอย่างมาให้ชิมกันวันนี้แล้ว ที่ร้านยังมีอาหารอีกนับร้อยรายการให้เลือกสั่ง รวมทั้งเบเกอรี่โฮมเมดที่ทางร้านทำสดใหม่ทุกใหม่ พร้อมด้วยเครื่องดื่มนานาชนิดอาทิ สมูทตี้ น้ำผลไม้ โอเลี้ยง ชาไทย ฯลฯ ให้ได้เลือกกันตามอัธยาศัย ว่างเมื่อไหร่ก็แวะไปชิมกันได้เลย ห้องอาหาร สยามที รูม เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 7 โมงเช้าไปจนถึง 5 ทุ่ม ทั้งยังมีบริการส่งถึงห้องสำหรับลูกค้าที่เข้าพักในโรงแรมด้วย หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรืออยากจองโต๊ะ ยกหูกริ๊งกร๊างไปได้เลยที่ 0-2059-5925-9