"เอ็มจี จีเอส"

เอ็มจี เพิ่งเสริมตลาดเอสยูวี ด้วยการเปิดตัว “เอ็มจี จีเอส” เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ในงานมหกรรมยานยนต์ที่ผ่านมา แต่ก็คงต้องรอกันถึงปีหน้าจึงจะมีกิจกรรมเกี่ยวกับการทดสอบรถตัวนี้

แต่วันนี้ผมมีรุ่นเครื่องยนต์เดิมมาฝากกันเป็นข้อมูลเบื้องต้นก่อน ก็คือ 2.0 ลิตร

จีเอส เข้าสู่ตลาด ด้วยความพร้อมทางด้านตัวรถพอควร ตั้งแต่เปิดตัว เสียงที่พูดถึงรถคันนี้ก็คือ ออปชั่น ที่ค่อนข้างสมบูรณ์เมื่อเทียบกับรถในตลาดเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมการทรงตัว (SCS) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS) และระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) เบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง (AVH) ระบบทำความสะอาดจานเบรก (BDC) ระบบเพิ่มแรงดันไฮดรอลิกเบรกให้เหมาะสม (OHBV) ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (MSR) ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBA) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (TPMS) เบรกมือไฟฟ้า ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้าง

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบพุชสตาร์ท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ กล้องมองหลัง บลูทูธ ยูเอสบี จอทัชสกรีน 8 นิ้ว รวมถึง inkaNet (อินคาเน็ต) ซึ่งมีการทำงาน 12 ฟังก์ชัน เช่น การโทรออก-รับสายโทรศัพท์ สัญญาณไวไฟที่ปล่อยออกมาให้ทุกคนในรถได้ก้มหน้ากันเต็มที่ ยกเว้นคนขับ ระบบนำทาง ระบบแสดงสถานะรถยนต์ ระบบเลขาส่วนตัวติดต่อคอลเซ็นเตอร์ ระบบเตือนการโจรกรรมผ่านโทรศัพท์ที่จะแจ้งทุกครั้งที่รถมีการสตาร์ทเครื่องยนต์ รวมถึงสามารถติดตามตำแหน่งรถยนต์ได้ บริการพวกนี้ ทางเอ็มจีรับผิดชอบให้ลูกค้า 5 ปี แต่ถ้าคิดเป็นค่าใช้จ่าย เอ็มจีบอกว่าประมาณ 2 หมื่นบาท

เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้าที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 2,500-4,000 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ คลัทช์คู่ 6 สปีด โดยเอ็มจีบอกว่าอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.อยู่ที่ 8.2 วิินาที

เครื่องยนต์ตอบสนองดี พละกำลังที่ดีทีเดียว ตอบสนองได้ค่อนข้างรวดเร็ว ช่วยให้การขับขี่ในเมืองมีความคล่องตัว และทำความเร็วได้ดีบนถนน

เกียร์ให้อารมณ์ที่ขับสนุก ไม่ได้เนียนเรียบทุกจังหวะ โดยเฉพาะช่วงการออกตัว หรือที่ความเร็วต่ำๆ ที่มีอาการกระตุกให้รู้สึกได้บ้าง แต่ไม่เป็นปัญหาอะไรกับการขับขี่ ทางกลับกันบางคนอาจจะชอบ เพราะจะได้อารมณ์สปอร์ตนิดๆ และยิ่งอยู่กับมันสักพัก เมื่อจับจังหวะได้ ก็จะรู้สึกสนุก

ส่วนเมื่อความเร็วกลางๆ จนถึงติดลมบนแล้ว การเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหล นุ่มนวล

จีเอส รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 นั้นมี 2 รุ่นย่อย คือ 2.0TX AWD ค่าตัว 1.31 ล้านบาท เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ โดยปกติจะขับ 2 ล้อหน้า เพื่อความประหยัด และก็จะเปลี่ยนเป็น 4 ล้อ เมื่อระบบจับได้ว่ามีความต้องการแรงขับเคลื่อนของล้อหลังด้วย แต่ถ้าอยากให้มันทำงานตลอด ก็มีปุ่มล็อกระบบขับเคลื่อน 4 ล้อมาให้

ส่วนอีกรุ่นหนึ่งคือ 2.0TD 2WD ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 1.21 ล้านบาท ส่วนคันที่อยู่ในมือผมเป็น 2.0TX AWD

การทรงตัวของรถทำได้น่าพอใจ หรือจะบอกว่าแปลกใจก็ได้ เพราะเกินความคาดหมาย เกาะถนนดี ทั้งทางตรง และทางโค้ง รวมไปถึงการขับขี่บนถนนเปียก จีเอสนิ่งไว้ใจได้เลย แม้จะใช้ความเร็วพอควร แต่ก็ยังรู้สึกว่าขับสบายๆ ไม่เกร็ง ไม่ลุ้น และแน่นอน ไม่ต้องลุ้นกับน้ำที่ท่วมขังเพราะความสูงที่มากกว่ารถเก๋ง

ต้องยกความดีให้ระบบช่วงล่าง ที่ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แมคเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังอิสระมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง รวมถึงยาง และระบบการถ่ายทอดกำลังของ AWD

ส่วนการขับขี่บนทางแห้งไม่ต้องห่วงครับ ช่วงล่างดี จัดการกับเส้นทางต่างๆ ได้ดี ทางตรงนิ่ง ทางโค้งก็ไม่ออกอาการลื่นไถล ทำออกมาได้ดีครับ และที่ความเร็วสูงๆ เห็นจุดเด่นอีกอย่างคือ เป็นรถที่ค่อนข้างเงียบ การเก็บเส่ียงในห้องโดยสารทำได้ดี พวงมาลัยไฟฟ้าขับขี่สบายๆ ในเมือง น้ำหนักเบา เมื่อขับเร็วๆ น้ำหนักเพิ่มขึ้นในระดับที่ดี ความแม่นยำยังขาดอยู่เล็กน้อย

ไม่เป็นปัญหาต่อการควบคุม แต่ถ้าเติมเข้ามาได้ จะยิ่งเพิ่มอารมณ์สปอร์ตซึ่งมีอยู่แล้วให้สนุกยิ่งขึ้นครับ