“สุกี้เรือนเพชร” ยังคงเด็ดที่ “น้ำจิ้ม”

 

หนึ่งในตำนานอาหารอร่อยที่อยู่คู่ลิ้นคนไทยมานาน เรียกว่าถ้าเอ่ยชื่อร้าน “เรือนเพชรสุกี้” เชื่อเหลือเกินว่าชาวกรุงเทพฯ ที่มีอายุเฉียดๆ ครึ่งศตวรรษขึ้นไป น้อยนักที่จะพลาดลิ้มรสอาหารจีนประเภทลวกจิ้มซึ่งยึดหัวหาดบนถนนเพชรบุรีมาเกือบ 60 ปี “อู๋” กิตติพันธ์  เลิศธนพันธุ์ ทายาทรุ่น 3 ของ สิงพร เลิศธนพันธุ์ ผู้ก่อตั้งเรือนเพชรสุกี้ เล่าให้ฟังในวันเปิดสาขาใหม่ที่เซ็นทรัลพลาซา บางนา ว่า เรือนเพชรสุกี้ เติบโตตามยุคสมัยไม่ได้ก้าวกระโดดหรือมีการเปลี่ยนแปลงแบบหวือหวา ส่วนหนึ่งด้วยความเป็นธุรกิจในครอบครัว เน้นการบริหารแบบธุรกิจเล็กๆ โดยถือว่าพนักงานเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวในห้องแถวเล็กๆ ขนาด 2-3 คูหา กระทั่งมาถึงวันนี้มีการขยับขยายสาขาเข้าสู่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เหตุผลหลักก็เพื่อต้องการก้าวเข้าหาลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมบริโภคอาหารสุขภาพ

บรรยากาศภายในร้าน

สลัดผลไม้กุ้งทอดตะกร้าเผือก

ภายในร้านได้รับการตกแต่งให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความโปร่ง โล่ง เน้นสีสว่าง แต่ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ และที่ขาดไม่ได้คือ ตัวอักษรภาษาจีนมีความหมายเป็นมงคล และในฐานะที่คลุกคลีกกับร้านอาหารแห่งนี้มาทั้งชีวิต “อู๋” กิติพันธ์ เล่าว่า นอกจากเมนูสุกี้แล้วยังมีอาหารจีนและอาหารไทยประเภทจานเดียวให้เลือกชิมอีกหลากหลายประเภท ทั้งแบบจานกินเล่น, จานหลัก, ต้มยำ-แกงจืด, ผัด-ทอด-นึ่ง, เครื่องดื่มร้อน-เย็นและของหวาน  ส่วนที่ขาดไม่ได้เลยคือ อาหารแนะนำซึ่งถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของเรือนเพชรสุกี้ที่จะขาดไม่ได้ อย่าง น่องไก่เหล้าแดง, น่องไก่เรือนเพชร, เป็ดย่างเรือนเพชร, ออส่วนกระทะร้อน สลัดผลไม้กุ้งทอดตะกร้าเผือก และอื่นๆ อีกนับร้อยรายการ และที่สำคัญในรายที่เกิดอยากทานสุกี้ตามลำพังทางร้านก็มีบริการแบบย่อส่วนลงมาเป็นชามจะกินแบบน้ำหรือแบบแห้งสามารถเลือกได้ตามใจชอบในราคาไม่ถึงร้อย

ชุดสุกี้

ในส่วนของ “สุกี้สูตรเฉพาะของเรือนเพชร” ถ้าผู้ที่ยังไม่เคยชิม วันนี้เรามีความอยากอวด “น้ำจิ้ม” มากกว่าเนื้อหนังมังสาของบรรดาสัตว์ใหญ่สัตว์น้อย กุ้ง หอย ปู ปลา และบรรดาพืชผักต่างๆ เพราะความสดใหม่คงไม่ต่างจากแบรนด์อื่นๆ ไม่ต้องเสียเวลา มาว่ากันด้วยเรื่อง “น้ำจิ้ม” แบ่งออกเป็นสองส่วนแน่นอนว่าต้องเป็นสูตรความอร่อยแบบโบราณที่เจ้าของรุ่นแรกปรุงขึ้นเพื่อเป็นเอกลักษณ์ของร้านเท่านั้น โดยส่วนแรกคือ “น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว” เสิร์ฟมาบนจานเนื้อสัตว์ไม่ว่าลูกค้าจะสั่งประเภทใดในทุกจานต้องมีน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวท็อปปิ้งมาพร้อมด้วยไข่ไก่หนึ่งฟอง สำหรับใช้คลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนจะนำเนื้อสัตว์หย่อนลงในหม้อสุกี้ บรรยายถึงตรงนี้มีเทคนิกเป็นเคล็ดลับความอร่อยอีกนิดหนึ่ง...ควรตักน้ำซุปร้อนๆ ราดลงบนจานล้างน้ำจิ้มที่ยังค้างๆ อยู่ ลงในหม้อด้วย นัยว่าเพื่อรสชาติอันเข้มข้นยิ่งขึ้น จากนั้นมาถึงส่วนที่สอง “น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้” อันนี้ทายาทรุ่นสาม บอกว่าก็เป็นอีกหนึ่งสูตรโบราณเช่นกัน พอลองชิมแล้วสัมผัสได้ถึงรสชาติเข้มข้นมีความเผ็ดนำรสเค็มเล็กๆ ตามไม่ทิ้งความหวานเจืออยู่นิดๆ กลิ่นหอมเต้าหู้ยี้น้อยๆ พอราดลงบนชิ้นเนื้อนุ่มที่ผ่านการลวกสุกกำลังดี ยิ่งทวีความกลมกล่อมได้เต็มคำ

 ปอเปี๊ยะพระจันทร์

 แมงกะพรุนน้ำมันงา

อย่างที่เล่ามาว่านอกจากสุกี้ยังมีอาหารให้กินอีกหลายอย่าง ในหมวดกินเล่นก็มี “ปอเปี๊ยะพระจันทร์” จานนี้จะกินเพียวๆ หรือ ราดด้วยน้ำจิ้มบ๊วยช่วยเพิ่มรสชาติได้ตามความถนัด แต่แนะนำว่าควรจัดการซะให้เรียบร้อยตั้งแต่ยังร้อนๆ จะได้อรรถรสกว่าวางทิ้งไว้จนเย็นแล้วค่อยหยิบใส่ปาก มาที่จานกินเล่นอีกหนึ่ง “แมงกะพรุนน้ำมันงา” กรุบๆ กรอบๆ ตามสไตล์อาหารจีนมันๆ เค็มๆ คีบใส่ปากได้เพลินๆ ไม่หนักท้องและไม่เสียพื้นที่กระเพาะ สาวกลัวความอ้วนควรสั่งมาชิม

 บะหมี่ขาห่านอบหม้อดิน

ถึงจะไม่ขึ้นลิสต์ติดท็อปไฟว์ในรายการอาหารแนะนำ แต่ถ้าลูกค้าที่นิยมชมชอบขาห่าน ต้องจานนี้ “บะหมี่ขาห่านอบหม้อดิน” มิเช่นนั้นอาจได้ชื่อว่ายังมาไม่ถึงเรือนเพชรสุกี้ ความเด่นของจานนี้แน่นอนว่าต้องอยูที่ขาห่านถึงชิ้นจะโตสักหน่อยแต่ด้วยความที่นุ่มล่อนแค่ใส่ปากก็พร้อมที่จะยุ่ยไม่ต้องเสียแรงเสียอารมณ์ใการเลาะเนื้อกิน และอย่างที่คุยไว้แต่เนิ่นว่าร้านนี้ถนัดปรุงอาหารจีน ดังนั้นจานที่ขอเอ่ยถึงต่อมาคือ “กระเพาะปลาน้ำแดง” ตามความเชื่อของชาวจีนว่ากันว่ากระเพาะนอกจากจะช่วยบำรุงร่างกายแล้ว ยังช่วยให้เจริญอาหารอีกด้วย ดูจากชิ้นกระเพาะปลาก็พอรู้ได้ว่ามาจากถุงลมของปลาทะเลไซส์ใหญ่แน่ๆ เมื่อตักใส่ปากเคี้ยวได้เต็มคำดีนัก บวกกับความชำนาญในการปรุงอาหารมานานหลายสิบปี จานนี้แม้ตั้งทิ้งไว้จนเย็นก็ยังไม่คืนตัว...ถ้าตักจานนี้่ใส่ปากจนหมดแล้วยังอยากกินอาหารอื่นๆ ต่ออีก ก็อย่าได้แปลกใจไปเลย

กระเพาะปลาน้ำแดง

เมื่อกินคาวต้องกินหวาน...ที่ร้าน “เรือนเพชรสุกี้” ก็มีรายการของหวานให้เลือกกินล้างปากตามสไตล์คนไทยอีกเช่นกัน ถ้าเมนูตลอดกาลต้องยกให้กับจาน “ไอศกรีมข้าวเหนียวเสิร์ฟคู่กับมะม่วงสุก” ส่วนที่ “อู๋” กิตติพันธ์ ให้การการันตีก็มี “ไอศกรีมกะทิราดซุปข้าวโพด” หนุ่มแบงก์ซึ่งแบ่งเวลามาช่วยกิจการครอบครัวกระซิบว่าอย่าพลาดลองชิมเด็ดขาด!!!

เรือนเพชรสุกี้ สาขา เซ็นทรัลพลาซา บางนา เปิดให้บริการแล้วที่บริเวณ ชั้น 5 ฟู้ด บาล์โคนี่่ หากมีข้อสงสัยหรืออยากได้คิวจองโต๊ะของโทรศัพท์ไปปรึกษา “อู๋” กิตติพันธ์ 08-3718-1644, หรือที่สมบูรณ์ 08-1810-6650