Lifestyle

‘เจมีส์ อิตาเลียน’ เสิร์ฟรสต้นตำรับ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์โฮมเมดเกิดจากความร่วมมือระหว่าง เจมี โอลิเวอร์ และ เจนนาโร คอนทาล รสชาติต้นตำรับสูตรเดียวกันทุกสาขา

      ‘เจมีส์ อิตาเลียน’ เสิร์ฟรสต้นตำรับ

    นอกจากจะปรับปรุงศูนย์การค้าให้ทันสมัยขึ้นจนกลายเป็นเมืองแห่งแฟชั่นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาแล้ว ในเรื่องของอาหารการกินศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ก็คัดสรรร้านอาหารมาอย่างดีเพื่อให้ถูกอกถูกใจลูกค้าที่แวะเวียนมาใช้บริการไม่ขาดสาย อย่างล่าสุดเปิดให้บริการ "เจมีส์ อิตาเลียน" ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์โฮมเมดเกิดจากความร่วมมือระหว่าง เจมี โอลิเวอร์ และ เจนนาโร คอนทาลโด โดยเปิดสาขาแรกที่เมืองออกซ์ฟอร์ด เมื่อปี 2551 ปัจจุบันมีสาขาในสหราชอาณาจักรกว่า 40 สาขา และมีสาขาทั่วโลกอีกกว่า 20 สาขา อาทิ ออสเตรเลีย ดูไบ บราซิล สิงคโปร์ บาหลี ฮ่องกง ฯลฯ

‘เจมีส์ อิตาเลียน’ เสิร์ฟรสต้นตำรับ

     ร้านทุกสาขาได้รับการออกแบบเพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นสะดวกสบายเหมือนนั่งรับประทานอาหารที่บ้าน อย่างที่สาขาสยามดิสคัฟเวอรี่ โดดเด่นด้วยการผสมผสานอย่างมีรสนิยม ระหว่างโต๊ะอาหารทำจากไม้ซุงที่ไม่ใช้แล้ว โต๊ะสังกะสีสไตล์อินดัสเตรียลชิก และเก้าอี้เลานจ์หุ้มเบาะสไตล์วินเทจ พื้นกระเบื้องตกแต่งเป็นสีเดียว มีลายดอกไม้วาดด้วยมือ และเพื่อเติมกลิ่นอายของความอบอุ่นที่โต๊ะอาหารจะมีแสงสว่างจากโคมไฟทองเหลือง มีการเลือกใช้เฉดสีเงาแนววินเทจ และประดับโคมไฟแก้วระย้า ขณะที่ด้านหน้าร้านเป็นครัวเปิดลูกค้าสามารถชมเชฟปรุงอาหารได้เพลินๆ หรือจะพักผ่อนหย่อนใจพร้อมจิบเครื่องดื่มเบาๆ ที่เจมีส์บาร์ก็ชิลไปอีกแบบ

‘เจมีส์ อิตาเลียน’ เสิร์ฟรสต้นตำรับ

 เคียว มีท แพลงก์

      ว่าด้วยเรื่องของอาหารกินกันบ้าง เจมีส์ อิตาเลียน มีรายการอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย ทุกเมนูล้วนพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่และคุณภาพดีเพื่อให้ได้รสชาติแบบต้นตำรับสูตรเดียวกันทุกสาขา เมนูไฮไลท์ที่มาแล้วไม่ควรพลาดก็อย่าง เคียว มีท แพลงก์ เซตอาหารเรียกน้ำย่อยยอดนิยมเหมาะสำหรับรับประทานร่วมกัน สำหรับเซตนี้จัดเต็มมาด้วยเนื้อวากิว และหมูสไลซ์จากหมู 3 สายพันธุ์ที่ให้รสชาติและรสสัมผัสแตกต่างกัน เสิร์ฟพร้อมมอสซาเรลลาชีสเนื้อนุ่มที่เพิ่มรสชาติด้วยพริกและน้ำมันมะกอก นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงอย่างขนมปังกรอบท็อปด้านบนด้วยมอสซาเรลลาชีสและซอสพริก เวลากินแนะนำให้ล้างปากระหว่างลิ้มรสเนื้อแต่ละชิ้นด้วยเครื่องเคียงที่เรียกว่า เรนโบว์ สลอว์ ทำจากแครอท บีทรูท บัตเตอร์นัทสวอท คลุกเคล้ากับน้ำมันมะกอก เลมอน และมิ้นท์นิดหน่อย เมนูนี้จัดเสิร์ฟอน่างกิ๊บเก๋บนถาดไม้แผ่นใหญ่มีกระป๋องซอสมะเขือเทศเป็นฐานรอง

‘เจมีส์ อิตาเลียน’ เสิร์ฟรสต้นตำรับ

 เบคด์ มัชรูม

      อีกเมนูแนะนำที่รับรองว่าคนรักชีสต้องติดใจ เบคด์ มัชรูม เมนูนี้ทางร้านเลือกใช้เห็ดกระดุมมาสไลด์เป็นชิ้นพอคำ นำไปปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยแล้วอบจนได้ที่่ ส่วนขอบด้านข้างเป็นขนมปังกรอบ ก่อนยกไปเสิร์ฟโรยหน้าด้วยพาเมซานซีสและใบไทม์ ตักรับประทานขณะร้อนๆ ทั้งอร่อย ทั้งหอมกรุ่นจนวางช้อนไม่ลงทีเดียว อีกเมนูที่เรียกได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ของทุกสาขาคือ ลิงกวีนี่กุ้ง ทางร้านทำเส้นสดใหม่ทุกวัน นำไปลวกจนนุ่มเด้งกำลังดีแล้วคลุกเคล้ากับซอสมะเขือเทศเชอร์รี่ กระเทียม พริกไทย พริกชี้ฟ้า และน้ำมันมะกอก ตามด้วยกุ้งลายเสือตัวโต และร็อกเก็ตนิดหน่อยก็พร้อมเสิร์ฟ แนะนำให้รับประทานตอนกำลังร้อนๆ เช่นกันเพราะจะช่วยเพิ่มรสความหนึบของเส้นพาสต้าได้เป็นอย่างดี

‘เจมีส์ อิตาเลียน’ เสิร์ฟรสต้นตำรับ

ลิงกวีนี่กุ้ง

‘เจมีส์ อิตาเลียน’ เสิร์ฟรสต้นตำรับ

ไก่อัลมาโตเน

     เมนูเด็ดที่มาแล้วต้องไม่พลาด ทางร้านแนะนำให้ลองชิม ไก่อัลมาโตเน เป็นอาหารจากแคว้นทัสคานี ทางร้านเลือกไก่สุขภาพดีที่เลี้ยงในฟาร์มเปิด โดยเลือกใช้ส่วนอกและต้นขานำไปย่างไว้ใต้ก้อนอิฐน้ำหนักของอิฐจะช่วยกดเนื้อไก่ให้ติดกับตะแกรงของเตาย่าง ทำให้ได้ไก่รสชาติหอมรมควันหนังกรุบกรอบที่ลองแล้วจะติดใจ  จากนั้นเพิ่มรสชาติเมนูเด็ดนี้ด้วยซอสเห็ดหลากหลายชนิด รสชาติออกครีมมี่ ท็อปด้านบนด้วยร็อกเก็ต พาเมซานชีส และเลมอนชั้นดีจากเมืองอามาลฟี่ ประเทศอิตาลี ถ้าจะให้ครบสูตรอาหารอิตาเลี่ยนคงต้องสั่งพิซซ่ามาลองสักหน่อย ทางร้านมีให้เลือกหลายหน้าทีเดียว แต่ที่แนะนำสำหรับมื้อพิเศษนี้เป็น ไวท์พิซซ่าหน้าเห็ดฟุงกี้ตัวแป้งพิซซ่าทำขึ้นอย่างประณีตพร้อมผสมชีสลงไปในตัวแป้ง โดยทุกขั้นตอนใช้มือทำทั้งหมดและใช้เวลาค่อนข้างนานเพื่อให้แน่ใจว่าแป้งได้ที่ จากนั้นแต่งหน้าด้วยเห็ดฟุงกี้ ท็อปด้วยร็อกเก็ตและพาเมซานชีส อบในเตาจนหอมกรุ่นได้ที่ รับประทานตอนกำลังร้อนๆ รับรองว่าคนรักชีสต้องขอเบิ้ลกันล่ะ

‘เจมีส์ อิตาเลียน’ เสิร์ฟรสต้นตำรับ

อามาลฟี่ เลมอน เมอร์แรง ชีสเค้ก

      นอกจากเมนูไฮไลท์ที่ยกมาเป็นตัวอย่างแล้ว ทางร้านยังมีจานอร่อยให้เลือกกันอีกเพียบ รวมถึงเมนูเด็กที่ครีเอทออกมาอย่างสวยงามทั้งยังนำผักมาประยุกต์เพื่อให้เด็กๆ ทานได้ง่ายขึ้นด้วย หรือหากอยากสั่งเบาๆ รองท้องจะเลือกสัั่งขนมอร่อยๆ ขึ้นชื่อของทางร้านอย่าง บราวนี่ พานาคอตต้าวานิลลาราดด้วยซอสมิกซ์เบอร์รี่ หรือ อามาลฟี่ เลมอน เมอร์แรง ชีสเค้ก เนื้อเนียนนุ่ม รับประทานคู่กับเครื่องดื่มนานาชนิดที่ทางร้านมีไว้บริการก็ได้

      นึกอยากรับประทานอาหารอิตาเลี่ยนวันไหนอย่าลืมแวะไป “เจมีส์ อิตาเลียน” ร้านตั้งอยู่ชั้นจี ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดบริการความอร่อยทุกวันตั้งแต่ 11 โมงเช้าจนถึง 4 ทุ่ม หรือจะยกหูไปสอบถามก่อนก็ได้ที่ 0-2255-5222

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ