Lifestyle

"ค่าเวลา"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศิลป์แห่งแผ่นดิน : โดย ศักดิ์สิริ มีสมสืบ

           ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน...ใครๆ ย่อมเคยได้ยินประโยคนี้

 

           ผมเองก็ยึดถือเป็นคติประจำใจ ไปพร้อมๆ กับอีกประโยคคือ “การทำงานคือการปฏิบัติธรรม” ซึ่งผมชอบเทียบเคียงคำพ้องเสียงสองคำนี้ “ปฏิบัติธรรม” และ “ปฏิบัติทำ”

           ยิ่งอายุมากขึ้นผมก็ยิ่งตระหนักในคุณค่าของเวลา เวลาในชีวิตที่เหลืออยู่นั้นน้อยนัก ผมต้องใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ตนรัก ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า แบบว่า ไม่มีเวลาให้ถอนใจ ไม่มีเวลาให้สำหรับความทุกข์เศร้าใดๆ อีกแล้ว

           ปี 2560 นี้ ผมจะมีอายุ 60ปี เพื่อนๆ รุ่นเดียวกันกระเซ้าว่า ถ้ามีชีวิตอยู่ถึงปีหน้าก็จะได้ “เบี้ยชรา” เดือนละ 600 บาท กับเพื่อนสนิทบางคนเวลาเจอกันหรือโทรศัพท์คุยกัน ประโยคแรกเราจะทักกันว่า “สวัสดี ยังมีชีวิตอยู่ไหม”

           ปี 2559 นี้ เป็นปีที่ผมจะเข้า “หลัก 6” ผมตั้งจิตอย่างมุ่งมั่น ที่จะใช้เวลาในชีวิตอย่างคุ้มค่า

           ผมคิดถึงคำพ้องเสียงสามคำคือ “ค่าเวลา” “ฆ่าเวลา” และ “ข้าเวลา”

           ในวัยหนุ่มสาวเรามักทำอะไร “ฆ่าเวลา” กัน ฆ่ามันจนมันตายตกไปตามกัน ผ่านเดือนผ่านปีมา จนเราเริ่มรู้สึกตัวว่าไม่ใช่เราฆ่ามันหรอก มันต่างหากที่ฆ่าเรา และเรานี่แหละเป็น “ข้าเวลา” เป็นขี้ข้าของเวลา เราคิดว่า เราใช้เวลา แต่ที่จริงคือเวลามันใช้เรา เรารับใช้มันจนเหนื่อยล้า อ่อนแรง กระทั่งถึงเวลาที่เราต้องตระหนักถึง “ค่า” ของมันอย่างจริงจัง

           ตระหนักไม่ได้หมายความว่าแบกหนัก เคร่งครัดไม่ได้หมายความว่าต้องเคร่งเครียด เพียงตั้งจิตแนวแน่ เลือกปล่อยวางบางสิ่งปลดทิ้งบางอย่างที่ไม่จำเป็น เลือกทำและไม่ทำในสิ่งที่เคยทำมา, ปล่อย และวาง กระทั่งความคิด กระทั่งคำพูด ใส่ใจต่อการกินละไม่กิน ไม่ยกไม่แบกของหนัก, ไม่เก็บ, สะสมในสิ่งที่ไม่ควรเก็บ แม้แต่อารมณ์ความรู้สึก, พักผ่อนให้เพียงพอทั้งกายและจิต ออกกำลังกายให้สมวัย และต้องออกกำลังใจ ทั้งออกกำลังสมองด้วย

           เพื่อนผมหลายคนหลังเกษียณราชการหักไปเข้าวัดเข้าวา บ้างก็เข้ารกเข้าพง เข้าป่า ทำไร่ทำสวนบ้าง เลี้ยงหมาเลี้ยงแมว ปลูกกล้วยไข่ ปลูกมะนาวในซีเมนต์ บ้างก็เดินทางไกลออกเที่ยวต่างประเทศ บ้างก็เดินทางใน บ้างก็เดินทางนอก ใช้ชีวิตที่เหลือกันไปตามวิถีของตน จะพูดว่า “เราใช้ชีวิต” หรือ “ชีวิตใช้เรา” ก็สุดแท้แต่ หรือจะพูดให้ “ตระหนัก” ก็ต้องว่า เราต่าง “เดินไปหาความตาย” ซึ่งอาจพูดยอกย้อนได้ว่า “ความตายเดินมาหาเรา” เราต่างไปงานศพกันบ่อย จนชินชากับความตาย(ของคนอื่น) แล้ว และเป็นธรรมดาของคนวัยเริ่มชราที่ต้องครุ่นคิดถึงความตาย โดยความตายอยู่ภายใต้กฎธรรมชาติ “อนิจจัง” ซึ่งพิพากษาโดย “เวลา”

 

           ตามประสานักเขียน อดไม่ได้ทีจะเล่นคำ

           “ค่าเวลา” “ฆ่าเวลา” “ข้าเวลา”

..

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ