ตามรอยพ่อไป “โลซาน”

 
          แค่ครึ่งชั่วโมงจากเจนีวาโดยรถไฟ ฉันก็นั่งโคลงเคลงจิบวิวงามๆ มาถึง เมืองโลซาน จนได้

 

 

          ก็คงเหมือนกับคนไทยหลายคนที่อยากมาเที่ยวเมืองนี้ของ สวิตเซอร์แลนด์  เพราะเป็นเมืองที่ไม่ได้มีวิวสวยๆ และอากาศดีๆ เอาไว้คอยต้อนรับเราเท่านั้น แต่เมืองนี้ยังมีเรื่องราวของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในหลวงรัชกาลที่ 8 และในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้ตามรอยกันด้วย เรียกว่าใครอยากตามรอยพ่อ จึงปักหมุดเมืองโลซานกันไว้ทั้งนั้น

          ที่จริงเที่ยวนี้ฉันเริ่มออกสตาร์ทเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์กันในเมืองเชิงเทือกเขาแอลป์อย่างเจนีวาก่อน ทำให้รู้สึกว่าเป็นการออกตัวเที่ยวที่สวยและสดชื่นจริงๆ จากเจนีวาเลยนั่งรถไฟข้ามเมืองไปเที่ยวเมืองใกล้ๆ อย่างโลซานกันต่อ

 

 

          พอมาถึงโลซานแทนที่จะพุ่งไปหาเมืองเก่าประจำเมืองเหมือนอย่างทุกครั้ง ฉันกลับเลือกนั่งรถไฟใต้ดินไปสูดอากาศดีๆ แถวริมทะเลสาบที่ย่านอุชชีก่อนอย่างที่เคยบอกไปว่าข้อดีของการใช้สวิสพาสก็คือนอกจากเราจะนั่งรถไฟได้ไม่จำกัดแล้ว เรายังนั่งเมโทร รถราง รถบัสได้ฟรีตลอด ก็เลยเที่ยวในสวิสอย่างสบายๆ จากสถานีรถไฟกลางนั่งรถรางแค่อึดใจเดียวก็ถึงอุชชี ย่านอุชชี มีทางเดินเลียบทะเลสาบประมาณ 1 กิโลเมตร มองเห็นวิวทิวทัศน์อย่างสบายตา บังเอิญวันที่ไปฟ้ายังขมุกขมัวอยู่ เทือกเขาแอลป์เลยซ่อนตัวอยู่หลังทิวเมฆ ริมฝั่งทะเลสาบจะมีพ่อแม่หอบลูกจูงหลานมาเดินเล่นกัน เอาขนมปังมาให้นก บางคนก็มาจ๊อกกิ้ง ปั่นจักรยาน และยังมีคาเฟ่และร้านอาหารตั้งเรียงรายเต็มไปหมด บรรยากาศสบายๆ จึงหาได้จากแถวนี้

          ใกล้ๆ กับท่าเรืออุชชี เป็นชาโต ดิ อุชชี เดิมทีที่นี่เป็นปราสาท สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ทุกวันนี้ถูกดัดแปลงให้เป็นโรงแรมหรู ใครอยากพักตามที่พักเก่าแก่แต่หรูหราริมทะเลสาบ จะลองพักที่นี่ก็ได้ ที่จริงชาโต ดิ อุชชี ยังมีความสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ที่นี่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ในการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างตุรกี และกรีซช่วงปี 1923

 

 

 

          จากอุชชีคราวนี้ไม่โอ้เอ้ นั่งรถรางต่อเข้าไปหาเมืองเก่าของโลซาน ไปดูสิที่เขาว่าเมืองเก่าที่นี่สวยและคลาสสิกกว่าเมืองเก่าเจนีวา ไม่รู้จริงรึเปล่า แค่เดินไม่กี่ก้าวออกจากรถราง ก็ดูท่าว่าขี้ปากนักท่องโลกจะเป็นจริง เพราะที่เห็นอยู่ข้างหน้าเวลานี้คือ มหาวิหารแห่งเมืองโลซาน อันยิ่งใหญ่ ข้างๆ เป็นวิวทิวทัศน์ของเมืองเก่าที่สวยเข้าตากรรมการจริงๆ

          มหาวิหารแห่งนี้สร้างในช่วงปลายศตวรรษที่ 12 แต่กว่าจะแล้วเสร็จใช้เวลาประมาณ 45 ปี ซึ่งก็ยังไม่ได้สวยสมบูรณ์อย่างที่เห็นตอนนี้ แต่ค่อยๆ เพิ่มเติมเสริมแต่งไปเรื่อยๆ และในช่วงที่มีการปฏิรูปศาสนาราวๆ ปี 1536 มหาวิหารแห่งนี้ถูกรื้อปรับปรุงอีกหลายจุด และบูรณะขึ้นใหม่อีกหลายครั้งหลายครา สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของมหาวิหารแห่งนี้คือ ภาพวาดสีที่อยู่บนเพดานและโดม ซึ่งในอดีตถูกปิดทับเอาไว้ เพิ่งมาบูรณะเสร็จสิ้นในราวปี 2007 นี่เอง นอกจากนี้ยังมีรูปแกะสลักอีกมากมายที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว

 

 

          ตรงข้ามกับมหาวิหารแห่งนี้เป็น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ไม่เพียงบอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองโลซาน แต่ยังมีของเก่าแก่โบราณที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยาน รถม้า แผนที่ ภาพเขียน

          ที่นี่ทำให้ได้เห็นภาพของโลซานอันงดงามในอดีต ทั้งในย่านเมืองเก่าที่มองเห็นมหาวิหารและวิถีชีวิตของผู้คน รวมถึงเขตอุชชีซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมง มีเรือจอดเรียงรายแน่นท่าเรือ นอกจากนี้ยังแสดงถึงภาพการที่โลซานเคยถูกกรุงเบิร์นยึดครองเป็นเวลานานจนได้รับอิสรภาพ

 

 

 

          ที่จริงโลซานยังมีพิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่งที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์ภาพถ่าย พิพิธภัณฑ์โอลิมปิกที่อยู่แถวอุชชี แต่ความที่อยากเห็นเมืองเก่าของโลซานมากกว่า ออกจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เลยพุ่งไปหาเมืองเก่า

          จากจัตุรัสมหาวิหารที่อยู่บนเนินเขา ที่นี่เขาทำบันไดไม้ให้นักท่องเที่ยวและชาวเมืองเอาไว้เดินลงเขา พอไต่ลงไปถึงใจกลางเมืองเก่าก็พบว่า จัตุรัสกลางเมืองโลซาน สวยงามอย่างที่หลายคนว่าไว้

 

 

 

          นอกจากจะถูกห้อมล้อมอาคารเก่าแก่แล้ว บริเวณนี้ยังมีน้ำพุ คาเฟ่และศาลาว่าการประจำเมือง ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 17 ทุกวันนี้ด้านล่างของศาลาว่าการจะเป็นตลาดข้าวสาลี มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ส่วนด้านบนมีหอระฆัง เวลาเกิดเหตุไม่ชอบมาพากล จะทำหน้าที่เตือนภัยให้ชาวเมืองรับรู้

          และด้วยความที่โลซานเป็นเมืองมหาวิทยาลัย ถ้าเตร็ดเตร่อยู่แถวจัตุรัสก็จะเห็นน้องๆ นักศึกษาเดินเหินไปมากันอย่างคึกคัก อะไรไม่น่าสนุกเท่าทั่วทั้งย่านเมืองเก่าเนี่ยเป็นแหล่งช็อปชั้นดีเชียวล่ะ

 

 

          ร้านรวงที่อยู่แถวนี้มีแต่ของสวย ของเก๋ ประดับตู้กระจกกันทั้งนั้น ขนาดไม่ใช่นักช็อปตัวแม่เห็นแล้วยังอดใจไม่ไหว ขอโฉบเข้าไปสำรวจของฮิพๆ เก๋ๆ หน่อยเอาเข้าจริงๆ แล้ว ในบรรดาหัวเมืองต่างๆ ของสวิตเซอร์แลนด์ ต้องบอกว่าโลซานน่าจะเป็นเมืองที่คนไทยคุ้นเคยมากที่สุดก็ว่าได้ เพราะเมืองนี้ทั้งสมเด็จย่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และในหลวงของเรา เคยประทับอยู่ที่เมืองนี้ คนไทยจำนวนไม่น้อยจึงอยากจะตามรอยมาดู วิลล่าวัฒนา ตำหนักที่พระองค์เคยประทับอยู่

          หากอยากตามรอยเสด็จกันจริงๆ ยังมีอีกหลายมุมที่น่าไป ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนชั้นมัธยมและมหาวิทยาลัยที่ในหลวงรัชกาล 8 และรัชกาลที่ 9 รวมถึงสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เคยทรงศึกษา

          ยังมีอพาร์ตเมนต์ที่พระองค์เคยประทับ รวมถึงย่านริมทะเลสาบที่พระองค์ทรงเคยมาเดินเล่นและทรงเรือใบ

 

 

          บางคนยังไปตามหาตลาดนัดที่สมเด็จย่าทรงเคยไปจ่ายตลาด ไปโรงแรมที่สมเด็จย่าเคยประทับ

          สิ่งเหล่านี้นี่เองที่ทำให้โลซานกลายเป็นเมืองที่สำคัญเสมอสำหรับนักเดินทางชาวไทย
  
          หากคุณเองก็อยากตามรอยพ่อไปสวิตเซอร์แลนด์ โปรดคัดชื่อของเมืองโลซานเอาไว้ในลิสต์ เชื่อเถอะว่าจะต้องเก็บเกี่ยวความประทับใจกลับบ้านแน่นอน