กลุ่มเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก

         แม้ว่าปัจจุบันประเทศไทยเรา มีอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งปากมดลูกลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยพบบ่อยเป็นอันดับ 2 ในเพศหญิง จากเดิมที่เคยเป็นแชมป์อันดับหนึ่งมาเมื่อหลายสิบปีก่อน เคยพบผู้ป่วย 23.4 คนต่อประชากร 100,000 คนลดลงเหลือ 14.5 คนต่อประชากร 100,000 คน และมีแนวโน้มจะลดลงไปตามลำดับในไม่ช้านี้

         จากสถิติในปี พ.ศ. 2554 ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ มีผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งรายใหม่ทั้งหมด 57,806 คน ในจำนวนนี้เป็นมะเร็งปากมดลูกมากเป็นอันดับ 2 คือ 6,426 คน หรือทุกๆ วันจะมีหญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกรายใหม่วันละ 18 คน ในขณะที่แต่ละปีมีผู้หญิงไทยเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมปีละ 2,062 รายหรือเสียชีวิตวันละเกือบ 6 ราย เหตุผลที่จำนวนผู้ป่วยลดลงได้นั้น เกิดจากโครงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกฟรีทั่วประเทศที่ทำกันมา 10 ปีแล้ว อย่างไรก็ตามโรคนี้เป็นโรคที่ป้องกันได้ หากหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ

         สำหรับคุณผู้หญิงกลุ่มที่มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่าเค้า มี 8 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มแรก พวกที่มีการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีหรือไวรัสหูดซึ่งมีมากมายกว่า 150 สายพันธุ์ย่อย เชื้อไวรัสพวกนี้มีทั้งที่ทำให้เกิดอาการและไม่แสดงอาการอะไร มีทั้งที่ไม่ทำให้เป็นมะเร็งและเป็นสาเหตุของมะเร็ง แต่สายพันธุ์ที่พบว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งมีประมาณ 12 สายพันธุ์ย่อย ที่เมื่อมีการติดเชื้อมักไม่แสดงอาการและมักจะหายไปเองภายใน 1-2 ปี ที่พบว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกได้บ่อยคือสายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งเป็นสาเหตุหลักถึงร้อยละ 70 ของมะเร็งปากมดลูก กลุ่มที่ 2 พวกที่มีคู่นอนหลายคนหรือมีเซ็กส์มั่ว พวกนี้มีโอกาสได้รับเชื้อไวรัสเอชพีวีมากกว่าคนที่ไม่ส่ำส่อนทางเพศ ต่อด้วย กลุ่มที่ 3 พวกที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อยกว่า 18 ปี ตั้งครรภ์ครั้งแรกตั้งแต่อายุยังน้อย ก่อนอายุ 17 ปี พวกนี้มีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่าคนปกติ 2 เท่า กลุ่มที่ 4 คุณผู้หญิงที่กินยาคุมกำเนิดต่อเนื่องนานกว่า 5 ปี ตามด้วย กลุ่มที่ 5 คุณผู้หญิงที่มีบุตรมากกว่า 3 คน กลุ่มที่ 6 พวกที่มีภูมิต้านทานต่ำ มักเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีที่ร่างกายไม่มีภูมิต้านทาน ไม่สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อได้ กลุ่มที่ 7 พวกที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียคลาไมเดีย ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่งซึ่งมักไม่มีอาการ และกลุ่มสุดท้าย คุณผู้หญิงที่สูบบุหรี่ มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่าผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่ 2 เท่า จากการที่สารพิษในบุหรี่ทำให้ดีเอ็นเอของเซลล์ปากมดลูกเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็ง

         ใครตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็อย่าเพิ่งตระหนกตกใจจนเกินกว่าเหตุ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่และหมั่นไปตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นระยะ ไม่ต้องอายหมออายพยาบาล อย่าเข้าใจผิดไปหวังผลจากการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก วัคซีนเขาใช้กับเด็กผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสเอชพีวี แต่กลุ่มเสี่ยงดังกล่าวข้างต้นส่วนใหญ่ฉีดไปก็ไม่ได้ผล เพราะมักมีเพศสัมพันธ์กันไปเรียบร้อยแล้วครับ...ขอบอก

นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ