Lifestyle

สักครั้งกับ “ชิบะ”สัมผัสประสบการณ์ไม่รู้จบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์....  ชิค&ชิล  เรื่อง/ ภาพ....  มิสกลิ่นหอม  



          มนุษย์เรา หากมีมุมมองอะไรใหม่ๆ เข้ามา ชีวิตก็มีรสชาติและสีสันขึ้นทันที เฉกเช่นการเปิดประสบการณ์กับสถานที่ท่องเที่ยวใน จังหวัดชิบะ (Chiba) ประเทศญี่ปุ่น ที่มีมุมพิเศษให้สายตาได้โฟกัสและบันทึกลงเมมโมรีของสมองอย่างไม่จำกัด

          ครั้งแรกกับการทำความรู้จักจังหวัดชิบะ ผ่านการเชิญชวนของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ และ Chiba Convention Bureau ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ทราบว่าจังหวัดนี้มีเมืองเอกชื่อเดียวกันคือ “ชิบะ” และมีพี่น้องอีกหลายเมือง

 

สักครั้งกับ “ชิบะ”สัมผัสประสบการณ์ไม่รู้จบ

          เจ้าของบ้านอวดเราว่านอกจากความทันสมัยที่มีแล้ว ยังมีแหล่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเก่าแก่ รวมถึง ทะเล แม่น้ำ ภูเขา ที่มองแล้วสบายตา ขณะที่อากาศก็เย็นสบายกายในฤดูร้อน และอบอุ่นในฤดูหนาว

          เนื่องจากเดินทางด้วยเครื่องบิน ฉะนั้น เมืองแรกในจังหวัดชิบะที่เราสัมผัสคือ นาริตะ เพราะเป็นที่ตั้งของ ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ และจากสนามบินใช้เวลาเพียง 10 นาที ก็ถึงจุดชมวิว ซากุระ โนะ ยามะ อยู่ในสวนสาธารณะ ซึ่งมีต้นซากุระเรียงรายบนเนินเขา และจะอวดกลีบสีชมพูให้ชมโฉม ช่วงเดือนเมษายน
ไม่ไกลจากสนามบิน พบว่า หลายจุดในเมืองนาริตะมีความเจริญเข้าไปสอดแทรกทั้งบ้านเรือนและอาคารสูงใหญ่ ในขณะเดียวกัน หลายพื้นที่ก็ยังคงความเก่าแก่ เช่น วัดนาริตะซัน ชินโชจิ ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี ถึงหน้าวัดต้องสะดุดตากับประตูสูงใหญ่ เมื่อเดินเข้าไปพบอาคารไม้สไตล์ญี่ปุ่น รวมถึงเจดีย์และสวนที่ถูกจัดอย่างสวยงาม

 

สักครั้งกับ “ชิบะ”สัมผัสประสบการณ์ไม่รู้จบ

          ก่อนเดินถึงวัด ตลอดเส้นทางมีบ้านเรือนแบบสมัยก่อนรวมถึงร้านค้าต่างๆ อาทิ “โยเนยะ” เป็นร้านขนมญี่ปุ่น ต้นตำรับวุ้นถั่วแดงไส้เกาลัด อายุกว่า 100 ปี ชิมแล้วก็อร่อยดี ด้านหลังมีพิพิธภัณฑ์ให้ชมประวัติความเป็นมาของขนมด้วย, ร้าน “คาวาโตโย นาริตะ” ที่ขายแต่เมนูปลาไหล อาทิ ข้าวหน้าปลาไหล ซึ่งเป็นอาหารเลื่องชื่อ ไฮไลท์นอกจากรสชาติ ยังอยู่ที่การทำปลาไหลให้ลูกค้าชมกันสดๆ แถมด้วยกลิ่นหอมๆ จากการย่างไฟ

          จากนั้นไปต่อที่เมืองซาวาระ ซึ่งไม่แออัดเรื่องการจราจร จะเดินหรือเช่ารถจักรยานปั่นชมเมืองก็ได้ ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ แต่ไม่เล็กเรื่องมนต์เสน่ห์ มี บ้านเรือนแบบสมัยเอโดะ (ค.ศ.1603- 1868) ให้เห็นจำนวนไม่น้อย จึงสัมผัสได้ถึงวิถีชีวิตของคนสมัยนั้น มีสายน้ำโทเนะและโอโนะพาดผ่าน ปัจจุบันมีให้บริการ ล่องเรือชมวิว โดยระหว่างคลองในเมือง เชื่อมต่อด้วยสะพานหลายแห่ง เช่น สะพานโทโยบาชิ ที่มีน้ำตกน้ำไหลออกจากสะพานในทุกครึ่งชั่วโมง

 

สักครั้งกับ “ชิบะ”สัมผัสประสบการณ์ไม่รู้จบ

          การเดินทางครั้งนี้ยังมีโอกาสไปอีกหลายเมือง ซึ่งรวมถึงเมืองโจชิ ได้ชมประภาคาร อินุโบซากิ อายุเกือบ 150 ปี ที่นี่เราเดินทอดน่องกินลมชมวิว ซึ่งมองเห็นทะเลแบบพานอรามา เคล้าเสียงคลื่นซัดชายฝั่งผสมกับคลื่นลม ที่เมืองแห่งนี้ยังมีท่าเรือที่จับปลาได้มากที่สุดในญี่ปุ่นด้วย จึงไม่แปลกที่ลิ้นของเราจะได้สัมผัสความหวานของอาหารทะเลสดๆ

          ด้าน เมืองอะซะฮิ มี วัดริวฟุคุจิ ตั้งอยู่กลางแมกไม้ มีน้ำตกอยู่ภายในเขตวัด ว่ากันว่า คนไทยนิยมไปวัดแห่งนี้ สิ่งที่ยังจำได้ดีคือภาพของต้นไม้ที่ขึ้นหนาแน่นตามธรรมชาติบริเวณรอบวัด ท่ามกลางเสียงนกร้องเซ็งแซ่และเสียงใบไม้สีกันไปมา ทำให้สัมผัสได้ถึงธรรมชาติอย่างแท้จริง

 

สักครั้งกับ “ชิบะ”สัมผัสประสบการณ์ไม่รู้จบ

          มุมที่มีเสน่ห์อีกแห่งในชิบะ คือ ฟาร์มคุณแม่ เป็นฟาร์มขนาดใหญ่มากและอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว ที่นี่นอกจากความเขียวขจีบนผืนภูเขา ยังมีสีสันจากทุ่งดอกไม้พันธุ์ต่างๆ โดยช่วงที่ไปเป็นช่วงที่ดอกพิทูเนียสีชมพูบานสะพรั่ง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆ อีกมาก อาทิ รีดนมวัว เก็บผลไม้ โชว์ของสัตว์น้อยน่ารัก รวมถึงมุมพักผ่อนสำหรับครอบครัว เป็นต้น

          ต่อด้วยเรื่องผลไม้ ว่ากันว่าถ้ามาชิบะ สักครั้งต้องชิม เมลอน พันธุ์ทาคามิ อันเลื่องชื่อ เนื้อสีเขียวใสปนเหลืองของมัน มีความกึ่งนุ่มกึ่งกรอบ รสชาติหวานหอม เจ้าของแนะนำให้กินคู่กับไอศกรีมเมลอนนมสด ชิมแล้วก็ละมุนลิ้นไปอีกแบบ และยังได้กินบลูเบอร์รี่สดๆ จากต้น หลังจากสวมบทเป็นเกษตรกร ไปเก็บบลูเบอร์รี่ที่ ดรากอน ฟาร์ม ซึ่งให้เวลา 30 นาที เหมาจ่าย 800 เยน เจ้าของฟาร์มยืนยันไม่มีการฉีดยาฆ่าแมลง และมีกล่องให้เก็บกลับบ้านแต่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ก่อนต่อด้วยซูชิ ที่ร้าน ซากาเอะ ซูชิ ในเมืองชิบะ โดยเชฟของร้านนี้เป็นเชฟที่สอนวิธีการปั้นซูชิให้เชฟทั่วโลกด้วย

 

สักครั้งกับ “ชิบะ”สัมผัสประสบการณ์ไม่รู้จบ

          ปิดท้ายทริปนี้ เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวคือการช็อปปิ้ง นอกจากเอาท์เลทขนาดใหญ่ มิตสึอิ เอาท์เลท พาร์ค ที่เมืองคิซาระสึ ที่รวมแบรนด์ดังไว้มากมาย ทางด้าน จุดพักรถ อุมิโฮตารุ ก็มีอาหารและของฝากให้เลือกช็อปเช่นกัน แต่ที่นี่อยู่กลางอ่าวโตเกียว วิวสวยแค่ไหนคงไม่ต้องบรรยาย จากความนิยม ที่นี่ถูกจัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวฮิตติดอันดับ 3 ของชิบะ รองจากอันดับ 1 โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ซึ่งใกล้กันมี โตเกียวดิสนีย์ ซี อยู่ที่เมืองอุระยะซุ ส่วนอันดับ 2 คือ วัดนาริตะซัน ชินโชจิ

          มนต์เสน่ห์ของชิบะยังมีอีกมากมาย เล่าเท่าไหร่ก็คงจบลงได้ยาก ความหมายและความพิเศษจะชัดเจนขึ้นกว่านี้ หากไปเยือนด้วยตัวเอง

 

สักครั้งกับ “ชิบะ”สัมผัสประสบการณ์ไม่รู้จบ

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ