อิสราเอลโวย ..เฟซบุ๊คเป็นภัยความมั่นคง

 นายกิลาร์ด เออร์แดน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายในอิสราเอล กล่าวหาว่านายซักเคอร์เบิร์ก เป็นผู้รับผิดชอบต่อนโยบายของเฟซบุ๊ค และ เรียกร้องให้ประชาชนชาวอิสราเอลเข้าไปล้อมกรอบนายซักเคอร์เบิร์ค ในทุกครั้งที่พบ เพื่อเรียกร้องให้เขาตรวจสอบติดตามผลงานที่เขาสร้างขึ้นมา และสร้างรายได้ให้หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

   ที่ผ่านมาอิสราเอลกล่าวว่าเฟซบุ๊ค เคยถูกใช้เป็นเครื่องมือในการปลุกระดมการโจมตีต่ออิสราเอล และ รัฐบาลกำลังร่างกฏหมายฉบับใหม่เพื่อให้มีอำนาจสั่งการเฟซบุ๊ค ยูทูบ ทวิตเตอร์ และ สื่อสังคมออนไลน์แห่งอื่น ถอดข้อความที่พิจารณาแล้วว่าเป็นการปลุกระดมการก่อการร้ายออกไป

   นายเออร์แดนกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ แชนแนล ทู  ว่า "ทุกวันนี้ เฟซบุ๊ค ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำการปฏิวัติในเชิงบวกมายังสังคมโลกนั้น แต่สำหรับอิสราเอลแล้วนั้นเรามองว่าเฟซบุ๊คกลายเป็น ยักษ์ตัวประหลาด ตั้งแต่การก่อร่างสร้างตัวของกลุ่มดาเอช (รัฐอิสลาม) และการกระเพื่อมของคลื่นผู้ก่อการร้ายเกิดขึ้นมา

  “ทุกวันนี้เฟซบุ๊คก่อวินาศกรรม ต่องานของตำรวจอิสราเอล เพราะเมื่อมีการขอร้องไปยังเฟซบุ๊คในเรื่องเกี่ยวกับปฏิบัติการของตำรวจในพื้นที่ จูเดีย และ ซามาเรีย ในเขตปกครองตนเองเวสท์แบงก์ เฟซบุ๊คไม่เคยให้ความร่วมมือ” ทั้งยังตั้งเงื่อนไขไว้สูง ต่อการพิจารณาถอดข้อความปลุกระดมออกไปจากระบบ

   นับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่แล้ว ชาวปาเลสไตน์สังหารชาวอิสราเอลไปแล้ว 34 ราย และ นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันอีก 2 คน ในเหตุการณ์โจมตีตามท้องถนน ที่ส่วนใหญ่เหยื่อจะถูกแทงจนเสียชีวิต 

 

  ขณะที่กองกำลังอิสราเอลยิงสังหารชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 201 ราย โดยในจำนวนนี้ 137 รายเป็นบุคคลที่ทางการอิสราเอลระบุว่าเป็นคนร้าย ส่วนชาวปาเลสไตน์ที่เสียชีวิตรายอื่นเกิดขึ้นระหว่างการปะทะกับตำรวจระหว่างการชุมนุมประท้วง