ไมโครซอฟท์พ่ายคดีบังคับลูกค้าอัพเกรดวินโดส์ 10

   ซีแอตเติล ไทมส์ รายงานว่าเทอรี โกล์ดสไตน์ ชาวเมืองเซาซัลลิโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้รับเงินชดเชยความเสียหายจากไมโครซอฟท์ หลังจากที่เธอชนะคดีที่ยื่นฟ้องต่อศาลว่าไมโครซอฟท์บังคับให้ตนเองอัพเกรดระบบปฏิบัติการ (โอเอส ) เป็นวินโดวส์ 10 และไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเธอได้

   โกลด์สไตน์ บอกว่าเมื่ออัพเกรดโอเอสไปแล้ว ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเธอมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ส่อแววว่าจะหยุดทำงานหลายต่อหลายครั้ง และ ในที่สุดก็ทำงานไม่ได้หลายวันเลยทีเดียว ซึ่งแม้แผนกบริการลูกค้าของไมโครซอฟท์จะเสนอช่วยแก้ปัญหาให้กับเธอ แต่โกลด์สไตน์กลับตัดสินใจยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายของบริษัทยักษ์ใหญ่แทน โดยเรียกค่าชดเชยความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซื้อคอมพิวเตอร์ชุดใหม่เป็นเงิน 10,000 ดอลลาร์

  ในทีแรกไมโครซอฟท์ก็มีท่าทีว่าจะแก้ต่างและสู้คดีในชั้นศาล แต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้กลับตัดสินใจยุติไม่ต่อสู้ในคดีนี้อีกต่อไป  ซึ่งทางโฆษกของไมโครซอฟท์เปิดเผยกับซีแอตเติล ไทมส์ ว่าบริษัทยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และการที่ยุติการต่อสู้คดีในชั้นศาลนั้นเป็นไปเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นต่อไปในกระบวนการสู้คดี

  แม้เงิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐจะไม่ใช่เงินจำนวนมหาศาลที่ทำให้ไมโครซอฟท์สะเทือน แต่ผู้เชี่ยวชาญในเว็บไซต์เอกซ์ตรีมเทค ตั้งข้อสังเกตุว่ากรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างที่ทางไมโครซอฟท์จะต้องนำกลับไปพิจารณาถึงความเหมาะสมของการวางนโยบายการอัพเกรดโอเอสและส่วนเพิ่มเติมโอเอสต่างๆของบริษัท

   ในการเปิดตัววินโดวส์ 10 นั้น ไมโครซอฟท์นำเสนอมาพร้อมกับการอัพเกรดโอเอสจาก วินโดวส์ 7  วินโดวส์ 8 และ 8.1 ได้พรี  แต่เป็นไปในแนวทางการบังคับให้ผู้ใช้งาน “ต้องอัพเกรด” โอเอสใหม่ ในช่วงที่ไมโครซอฟท์เปิดให้อัพเกรดได้ฟรี ทั้งที่ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้อาจจะไม่สามารถรองรับโอเอสรุ่นล่าสุดได้อย่างเต็มที่

   ทั้งยังระบุด้วยว่าไมโครซอฟท์ควรให้ทางเลือกกับผู้ใช้ ในการตั้งใจเปลี่ยนโอเอสใหม่ แทนที่จะเป็นการยัดเยียด หรือบังคับเช่นนี้

   ซึ่งผู้ใช้ที่ต้องการอัพเกรดโอเอสเป็นวินโดวส์ 10 นั้นยังมีเวลาให้อัพเกรดได้ฟรีอีกราว 1 เดือน ก่อนที่ไมโครซอฟท์จะเปิดขายวินโดวส์ 10 ทั้งในรูปแบบการดาวน์โหลด และ ในแพกเกจยูเอสบี  เริ่มต้นที่ราคา 119 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับวินโดวส์ 10 โฮม (Windows 10 Home)  สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ต้องการฟังก์ชั่นมากมายนัก และ ราคา 199 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับวินโดวส์ 10 โปร (Windows 10 Pro) ที่มีฟังก์ชั่นครบครันกว่ามาก

   ผู้เชี่ยวชาญยังมองด้วยว่าปัญหาสำคัญของไมโครซอฟท์คือการไม่แยแสต่อการสูญเสยจำนวนลูกค้าของบริษัท เนื่องจากในเวลานี้ไมโครซอฟท์ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่น และ ความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า แม้ว่าเวลานี้จะเป็นเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจำหน่ายซอฟท์แวร์ของบริษัท