โรคไทรอยด์เป็นพิษ

               ต่อมไทรอยด์มีลักษณะเป็นรูปผีเสื้อ อยู่บริเวณคอด้านหน้า มีหน้าที่ผลิตไทรอยด์ฮอร์โมน ซึ่งไทรอยด์ฮอร์โมนจะเข้าสู่กระแสเลือดไปสู่ทุกอวัยวะในร่างกาย ไทรอยด์เป็นพิษเป็นสภาวะที่ร่างกายมีไทรอยด์ฮอร์โมนมากเกินไป
               อาการของไทรอยด์เป็นพิษ ได้แก่ ใจสั่น มือสั่น เหงื่อออกมาก นอนไม่หลับหงุดหงิดง่าย กล้ามเนื้ออ่อนแรง นํ้าหนักลดในขณะที่รับประทานอาหารได้ดี ผู้ป่วยบางรายอาจมีตาโปน
๐ สาเหตุของไทรอยด์เป็นพิษ
               สาเหตุที่พบบ่อยคือ ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากผิดปกติ เรียกว่าโรค Graves’disease เกิดจากการที่ร่างกายผลิตสารภูมิคุ้มกันมากระตุ้นต่อมไทรอยด์ทำให้ต่อมโตขึ้นและผลิตฮอร์โมนมากขึ้น
               อีกสาเหตุที่ต่อมผลิตฮอร์โมนมากคือ ผู้ป่วยมีก้อนของต่อมไทรอยด์มานานก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ (toxic multinodular goiter) ทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์ได้ สาเหตุอื่นๆ ของไทรอยด์เป็นพิษคือ โรคไทรอยด์อักเสบ ซึ่งอาจเกิดจากไวรัสบางชนิดหรือเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยเอง
๐ การวินิจฉัยไทรอยด์เป็นพิษ
               ทำโดยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจวัดระดับไทรอยด์ฮอร์โมน และบางครั้งอาจทำการตรวจไทรอยด์ สแกน
๐ การรักษา
               ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรคไทรอยด์เป็นพิษ อายุของผู้ป่วย โรคประจำตัวที่พบร่วมกันความรุนแรงของโรค ยาลดระดับไทรอยด์ฮอร์โมน methimazole การใช้ยาต่อเนื่อง 18 เดือน ทำให้ผู้ป่วยส่วนหนึ่งมีระยะสงบของโรคเป็นเวลานาน
๐ รังสีไอโอดีน
               เป็นการรักษาที่ทำให้สามารถควบคุมอาการของโรคได้ง่าย ให้โดยการรับประทาน รังสีจะเข้าไปจับเฉพาะเนื้อไทรอยด์ ระดับไทรอยด์ฮอร์โมนจะลดลงขนาดต่อมไทรอยด์ก็จะเล็กลงด้วย หลังการรักษาผู้ป่วยส่วนมากจะเข้าสู่ระยะไทรอยด์ทำงานตํ่า ซึ่งเป็นเป้าหมายการรักษา ผู้ป่วยจะได้รับไทรอยด์ฮอร์โมนทดแทน
๐ การผ่าตัด
               โดยการตัดเนื้อต่อมไทรอยด์ส่วนมากออก หรือตัดต่อมไทรอยด์ออกทั้งหมด
๐ การรักษาตามอาการ
               ใช้ยากลุ่ม beta blocker ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ลดอาการมือสั่น ในโรคไทรอยด์อักเสบจากเชื้อไวรัสผู้ป่วยอาจมีไข้เจ็บที่คอ การใช้ยาต้านการอักเสบกลุ่ม NSAID และสเตียรอยด์จะช่วยลดอาการได้
               ผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษส่วนมากโรคมักไม่หายขาด ในระยะที่โรคสงบผู้ป่วยส่วนมากควรได้รับการตรวจติดตามอย่างน้อยทุก 6-12 เดือน ไทรอยด์เป็นพิษที่ไม่ได้รับการรักษา หรือการติดตามที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น หัวใจวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะได้
โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ 
โทร.0-2675-5000