Lifestyle

'ภูมิคุ้มกันบำบัด'ทางเลือกใหม่พิชิตมะเร็ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ภูมิคุ้มกันบำบัด”ทางเลือกใหม่พิชิตมะเร็ง

 
          ปัจจุบัน “มะเร็ง” เป็นโรคร้ายอันดับต้นๆ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากมาย องค์การอนามัยโลกได้รายงานพบผู้ป่วยรายใหม่ทั่วโลกมากถึงปีละ 14 ล้านคน และเสียชีวิต 9-10 ล้านคนต่อปี สำหรับในไทยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า มะเร็งยังเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของคนไทย โดยเสีียชีวิตปีละกว่า 67,000 คน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 8 คน จากแนวโน้มการเสียชีวิตจากมะเร็งที่เพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ทั่วโลกตื่นตัวและพยายามหาทางพิชิตโรคร้ายนี้
 
          ทั้งนี้ แม้ว่าการผ่าตัด การฉายรังสี และเคมีบำบัด จะเป็นวิธีการรักษาโรคมะเร็งที่วงการแพทย์ปัจจุบันยอมรับว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ด้วยผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรงต่อผู้ป่วย เช่น คลื่นไส้ ผมร่วง และการกดภูมิคุ้มกัน ทำให้ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาการพิชิตมะเร็งด้วยระบบภูมิคุ้มกันบำบัดได้กลายเป็นที่จับตามองของนักวิจัยทั้งในและต่างประเทศ ในฐานะมิติใหม่ของการรักษาในอนาคต กระทั่งสหรัฐฯ เองยังเห็นถึงความเป็นไปได้ที่การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดจะเข้ามาแทนที่การรักษามะเร็งด้วยการทำเคมีบำบัด จนยอมทุ่มงบพันล้านวิจัยเรื่องนี้ให้สำเร็จภายใน 4 ปี
 
          สำหรับในประเทศไทย คณะนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งนำโดย ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัย “โอเปอเรชั่น บีไอเอ็ม” ที่ได้ศึกษาวิจัยวิธีพิชิตเซลล์มะเร็งด้วย “ภูมิคุ้มกันบำบัด” (Natural Immunotherapy) จนประสบความสำเร็จในปี 2008 โดยมีผลพิสูจน์ชัดเจนรับรองโดยศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
 
          ศ.ดร.พิเชษฐ์ อธิบายว่า การรักษาโรคด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด คือการเข้าไปกระตุ้นเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานหรือยับยั้งการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันให้อยู่ในภาวะสมดุลไม่มากไม่น้อยเกินไป เรียกว่าเป็นการใช้กลไกธรรมชาติหรือเม็ดเลือดขาวที่มีอยู่ราว 20,000-55,000 ล้านเม็ด ซึ่งเป็นกองทัพยิ่งใหญ่ที่ธรรมชาติสร้างมาให้เราต่อสู้กับโรคด้วยตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายใช้กลไกธรรมชาติที่มีต่อสู้กับโรคด้วยตัวเอง การวิจัยในห้องปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องกว่า 39 ปี ได้ค้นพบว่าสารกลุ่ม Xanthones ที่มีสรรพคุณสูงสุดในมังคุดคือ GM-1 มีคุณสมบัติเพิ่มความสามารถของเม็ดเลือดขาวในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมได้ดี ยิ่งเมื่อนำมาเสริมฤทธิ์ด้วยสารสกัดจากพืชและผลไม้อีก 4 ชนิด คือ ถั่วเหลือง งาดำ ฝรั่ง และบัวบก ยังพบว่ามีประสิทธิภาพสูงมากขึ้นในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด Th1, Th9, Th17 และ Interleukin-18 (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Th17 เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า) ซึ่งทำหน้าที่เสมือนกองทหารสื่อสาร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเซลล์มะเร็งของเม็ดเลือดขาวกลุ่มเพชฌฆาต Cytotoxic T-Cell อย่างเห็นได้ชัด
 
          “จากความสำเร็จดังกล่าวนับเป็นทางเลือกใหม่ของการพิชิตเซลล์มะเร็งด้วยพืชไทย คณะนักวิจัยของเราจึงพร้อมที่จะช่วยเหลือคนไทยต่อสู้มะเร็งด้วยวิธีธรรมชาติ เปิดตัวโครงการ “APCO Cancer MoonShot 2017 by Natural Immunotherapy” เปิดรับสมัครผู้ป่วยมะเร็งที่ไม่ประสงค์ใช้เคมีบำบัดและรังสีบำบัด จำนวน 30 คน ได้ดูแลสุขภาพด้วยวิธี “ภูมิคุ้มกันบำบัด” โดยไม่มีค่าใช้จ่ายต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งเริ่มประกาศผลการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการในเดือนกรกฎาคม 2016 ก่อนสรุปผลทั้งหมดในต้นปี 2017 ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสมัครได้ที่ www.apco.co.th หรือโทร. 1154” หัวหน้าคณะนักวิจัยกล่าว
logoline

ข่าวที่น่าสนใจ