Lifestyle

พลิกที่นา 7 ไร่หันมาเลี้ยงหมู เพียง 2 ปีรายได้ปีละเป็นล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทำมาหากิน : พลิกที่นา 7 ไร่หันมาเลี้ยงหมู เพียง 2 ปีรายได้ปีละเป็นล้าน : โดย...โต๊ะข่าวเกษตร

 
                    ครั้งหนึ่งของครอบครัว “จันทรา พิมพ์โพชา” เกษตรกร ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ที่ยึดอาชีพทำนาในพื้นที่กว่า 80 ไร่ แต่รายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง บางปีประสบกับภาวะขาดทุน ฐานะความเป็นอยู่ในสภาพยากจน เหมือนกับชาวนาส่วนใหญ่ แต่หลังจากที่ตัดสินใจเลี้ยงหมูได้เพียง 2 ปี มีรายได้ปีละถึงหลักล้านบาท ทำให้วันนี้ครอบครัวมีฐานะที่ดีขึ้นตามลำดับ
 
                    จันทราบอกว่า เกิดในครอบครัวเกษตรกร ที่ยึดอาชีพทำนามาตลอด มีพื้นที่นอกเขตชลประทาน 80 ไร่ การทำนาต้องอาศัยน้ำฝนจากธรรมชาติ ทำให้ผลผลิตออกมาไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากบางปีก็แห้งแล้ง บางปีน้ำท่วม ส่งผลให้รายได้ไม่แน่นอน บางปีขาดทุน สิ่งที่ตามรายได้กับรายจ่ายไม่สมดุล ขณะที่ลูกอีก 2 คนกำลังโตต้องใช้เงินมากขึ้น จึงหารือกับสามีว่าจะทำอาชีพอะไรที่จะทำให้ครอบครัวมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในระหว่างนั้นสังเกตเห็นเพื่อนบ้านหลายคนหันมายึดอาชีพเลี้ยงหมูภายในโรงเรือนระบบปิด ดูสะอาดและสวยงาม บางคนขยายโรงเรือนเลี้ยงหมูจาก 1 เป็น 2 ถึง 3 โรงเรือนภายในระยะเวลาไม่กี่ปีและรายได้ดีด้วย คิดจะเลี้ยงบ้างแต่มีปัญหาด้านเงินลงทุน
 
                    ในที่สุดตัดสินใจไปปรึกษาเพื่อนบ้าน ทราบว่า เพื่อนบ้านที่เลี้ยงหมู ร่วมกับโครงการส่งเสริมพนมสารคามของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ในรูปแบบของเกษตรพันธสัญญา หรือ คอนแทรคฟาร์มมิ่ง และเพื่อนบ้านแนะให้ไปปรึกษาและติดต่อสอบถามข้อมูลทางซีพีเอฟ แนะนำการเลี้ยงในรูปแบบ ‘ฝากเลี้ยง’ พร้อมพาไปดูฟาร์มหมู พอมองเห็นโอกาสความเป็นไปได้ในอาชีพใหม่ จึงตัดสินใจแบ่งพื้นที่นา 7 ไร่ เริ่มเลี้ยงหมูขุน 1 โรงเรือน จำนวน 700 ตัวในปี 2548
 
                    "ตอนแรกก็ยอมรับว่ากลัวปัญหาที่จะตามมา คือ เราไม่มีทุนพอที่จะลงทุนสร้างโรงเรือน ไม่มีประสบการณ์และความรู้ในการเลี้ยงหมูที่ถูกต้อง ก็เป็นความโชคดีที่เราได้เลือกมาร่วมธุรกิจกับซีพีเอฟ เพราะเขาเอาใส่ใจเราดีมาก มีสัตวแพทย์และสัตวบาลมาถ่ายทอดความรู้ สอนเทคนิคการเลี้ยง มีตัวแทนคอยให้คำปรึกษาช่วยให้เราสามารถมีเงินกู้จากธนาคารในการเริ่มต้นอาชีพได้” จันทรา กล่าว
 
                    เธอ บอกว่า หลังจากที่เลี้ยงหมู 2 ปี ครอบครัวตัดสินใจสร้างโรงเรือนเลี้ยงหมูเพิ่มอีก 1 หลัง เนื่องจากมีรายได้ที่ชัดเจน ที่สำคัญหมูที่เลี้ยงในรูปแบบของคอนแทรคฟาร์มมิ่งมีการประกันรายได้ ไม่มีความเสี่ยงใดๆ เพราะทางซีพีเอฟเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ทั้งเรื่องการหาพันธุ์หมู วัตถุดิบอาหาร และการหาตลาด จุดนี้ทำให้มีเงินเก็บและสามารถผ่อนชำระหนี้เงินกู้ยืมจากการลงทุนทั้ง 2 โรงเรือน ปัจจุบันเหลือหนี้ไม่กี่หมื่นบาท และผ่อนได้สบายๆ เพราะปัจจุบันครอบครัวมีรายได้ปีละหลักล้านบาท
 
                    “บางคนก็บอกว่า การทำเกษตรแบบเกษตรพันธสัญญา บริษัทจะเอาเปรียบเรา พอเข้ามาจริงๆ ไม่ใช่เลย เพราะทางบริษัทมอบความรู้และเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เช่น มูลหมู มาทำระบบไบโอแก๊ส ที่ช่วยให้ฟาร์มลดปัญหามลภาวะทางอากาศที่เกิดจากกลิ่นของมูลสุกร เราอยู่กับชุมชนรอบข้างได้ แก๊สที่ได้มาใช้ปั่นกระแสไฟฟ้า เพื่อใช้ภายในฟาร์มและในครัวเรือน ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของฟาร์มได้ถึง 50% จากเดิมเสียค่าไฟเดือนละ 1 หมื่นบาท ปัจจุบันเสียค่าไฟเพียง 5,000-6,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น ถือว่าเราตัดสินใจถูกต้อง” เธอ กล่าวอย่างมั่นใจ
 
                    นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของเกษตรกร ที่ตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพที่ถูกทาง จนประสบผลสำเร็จ ทำคุณภาพชีวิตของสมาชิกครอบครัวดีขึ้นตามลำดับ และกำลังจะกลายเป็นเกษตรกรที่ร่ำรวยในไม่ช้านี้
 
 
 
 
------------------------
 
(ทำมาหากิน : พลิกที่นา 7 ไร่หันมาเลี้ยงหมู เพียง 2 ปีรายได้ปีละเป็นล้าน : โดย...โต๊ะข่าวเกษตร)
 
 
 
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ