โรคไตวายกับแผนจีน1

 

      ขอมีส่วนร่วมในการพิชิตโรคไตในวันโรคไตโลก ซึ่งปัจจุบันสถิติในการเป็นไตวายเรื้อรังจนต้องฟอกไตในบ้านเรามีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนน่าตกใจ จะมีช่องอะไรบ้างไหมที่สามารถห่างไกลจากโรคไต หรือหากเป็นแล้วจะมีช่องทางไหนบ้างช่วยรักษาให้หาย หรือไม่หายก็ช่วยชะลอเวลาเข้าสู่การฟอกไตให้ช้าลง

 

      จากการทำงานมาระยะหนึ่ง มีความรู้สึกว่า ศาสตร์การแพทย์แผนจีนมีหลักคิด หลักการรักษา มีประสบการณ์จริงในการรักษาผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังได้ผลที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง สามารถเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีของผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง แต่แน่นอนว่า ในกระบวนการรักษานั้น ต้องทำแบบองค์รวม ทั้งการกินยา ฝังเข็ม วิถีชีวิต อาหารการกิน การทำงานการพักผ่อน ความเครียดความกดดัน ควบคู่ไปด้วย

 

      ตั้งแต่ผู้เขียนออกหนังสือเรื่อง “ถนอมไต ยับยั้งสารพัดโรค” ได้มีผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังจำนวนหนึ่งไปรับการรักษาด้วยยาจีนและการฝังเข็ม ได้รับผลดีใจระดับที่แตกต่างกัน ตามสาเหตุของการเป็นโรคไต เช่น บางคนเป็นโรคไตจากการกินยามาก บางคนไตจากเบาหวาน บางคนไตจากความดันโลหิตสูง บางคนไตจากเกาต์ บางคนไตจากภูมแพ้ บางคนโรคไตจากพังผืดเกาะในช่องท้อง ทำให้ท่อไตตัน ปัสสาวะคั่งทำให้ไตบวม บางคนเป็นโณคไตพร้อมกับโรคเบาหวาน ความดัน เกาต์ ตับครบทุกโรค เป็นต้น ดังนั้น การรักษาโรคไต จึงมีความยากและความสลับซับซ้อน ต้องวิเคราะห์ตามความหนักเบาและสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไต จากนั้นจึงใช้ยาอย่างเหมาะสม แต่ขอบอกว่า การรักษาโรคไตปกติต้อง 2 ปีขึ้นไปอยู่แล้วตามความหนักเบา แต่โรคไตที่เกิดจากเบาหวานจะยากยิ่งกว่า ต้องกินยาต่อเนื่องยาวนาน มากกว่า 2 ปีขึ้นไป มีตัวอย่างผู้ป่วย 1 ราย ที่รักษาแล้วอาการไตวายเรื้อรังดีขึ้น

 

      ผู้ป่วยท่านนี้เป็นผู้หญิง อายุ 73 ปี เป็นพยาบาลเกษียณอายุ มารักษาที่คลินิกเมื่อ 3 กันยายน 56 ด้วยอาการ นอนไม่หลับเอามากๆ หาวบ่อย ความดันโลหิตสูง ปัสสาวะเป็นฟอง อึดอัดไม่สบายบริเวณเขตไต

 

      ผลเลือด ค่าคริตินิน 1.54 (ค่าปรกติ 0.51-0.95) ค่า อีจีเอฟอาร์ 40 (เป็นค่าการทำงานของไต ที่ปกติต้อง 90 ขึ้นไป)

 

      โปรตีนในปัสสาวะ 3 บวก เม็ดเลือดแดง 100 ขึ้น เพราะอะไรจึงเป็นโรคไควายเรื้อรังได้ เธอบอกว่าเมื่อ 2 ปีก่อน ปวดสะโพก ปวดขามากจนเดินไม่ได้ ไปหาหมอให้กินยาแก้ปวด ยาชนิดนี้ไม่หาย เปลี่ยนชนิดใหม่ 1 ชนิดไม่หายเพิ่ม 2-3 ชนิด ให้ยามาครั้งละ 3 เดือน แต่ยังไม่หายปวด พร้อมกับมีความดันสูง กินยาอะไรความดันก็ไม่ลง พอตรวจละเอียดอีกทีปรากฏว่า เกิดจากเส้นเลือดดำที่ขาอุดตัน หลังจากผ่าตัดทำบายพาสแล้ว อาการปวดสะโพก ปวดขาหายไป เดินได้ตามปกติ แต่ต้องกินยาละลายลิ่มเลือดอยู่ตลอด ความดันโลหิตลดลง ไม่นานก็สูงขึ้นอีก และตรวจพบสิ่งที่เป็นของแถมคือ โรคไต ผลเลือดอย่างที่บอกตอนต้น จึงสรุปว่า ผู้ป่วยท่านนี้เป็นโรคไตจากการกินยามาก ส่วนความดันโลหิตสูงจะมาจากเป็นโรคไตก่อนหรือเป็นโรคความดันแล้วทำให้เกิดเป็นโรคไต แต่เท่าที่ดูน่าจะมาจากโรคไตมากกว่า ความซับซ้อนของเธอจึงไม่ซับซ้อนมากเหมือนโรคไตที่มาจากเบาหวานและเกาต์

 

      หมอบอกว่ายังเป็นไม่มาก ให้ใส่ใจเรื่องอาหารการกิน คอยติดตามอาการและการพัฒนาของโรค เมื่อไรที่ค่าคริตินินสูงมากขึ้นแล้วค่อยมาฟอกไต ด้วยความที่มีความรู้เรื่องการแพทย์ อีกทั้งลูกสาวเป็นหมอฟัน ไม่อยากรอให้ถึงวันนั้น จะมีวิธีอื่นที่ชะลอการฟอกไตหรือกระทั่งหายได้ไหม จึงลองมาใช้วิธีกินยาจีนและฝังเข็มดู