แปลก!ฉายหนังกลางแปลงให้ผีดู

 

      9 ก.พ.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานฉายหนังกลางแปลงของทีมงาน "บุญเชิดภาพยนตร์" ได้ทำการติดตั้งจอหนังกลางแปลงเพื่อเตรียมฉายภาพยนตร์ที่จัดขึ้นในเวลากลางคืน ภายในสุสานมูลนิธิพิจิตรสามัคคี ซึ่งมีบริเวณติดกับวัดมูลเหล็ก ตำบลคลองคะเชนทร์ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร โดยการฉายภาพยนตร์กลางแปลงครั้งนี้เป็นการฉายภาพยนตร์ ซึ่งถือว่าแปลกที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากเป็นการฉายให้กับวิญญาณบรรพบุรุษที่มีการบรรจุร่างของบรรพบุรุษภายในสุสาน กว่า 300 หลุม ซึ่งการฉายจะกำหนดฉายภาพยนตร์ในคืนวันชิวอิก ซึ่งเป็นวันเที่ยวของเทศของเทศกาลตรุษจีน มีการจัดงานต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีเกือบ 50 ปีแล้ว เพื่อเป็นการสร้างความบันเทิงให้กับวิญญาณบรรพบุรุษตามความเชื่อ

 

 

      โดยบรรยากาศภายในงานมีพิธีกราบไหว้แป๊ะกง หรือเจ้าที่ การเผากระดาษเงินกระดาษทอง และการบอกกล่าววิญญาณของบรรพบุรุษให้รับทราบว่าจะมีการจัดฉายภาพยนตร์ ให้ได้ชม การประกาศของโฆษกเพื่อเชิญชวนผู้ชมและแนะนำภาพยนตร์ที่จัดฉายตามวิธีการแบบดั้งเดิม

 

      สำหรับในปีนี้มีการฉายภาพยนตร์ 3 เรื่อง ได้แก่ ภาพยนตร์ป่วงเซียง ซึ่งเป็นภาพยนตร์สำหรับไหว้เจ้าที่และวิญาณบรรพบุรุษ จากนั้นเป็นการฉายภาพยนตร์ทั่วไป โดยปีนี้มีการฉายภาพยนตร์เรื่อง The Expendables 3 โคตรมหากาฬ ทีมเอ็กซ์เพ็นดิเบิลส์ 3  ซึ่งเป็นภาพยนต์แอคชั่นสุดมันส์ที่แสดงโดยซุปเปอร์สตาร์มากมาย และภาพยนตร์เรื่อง ไซอิ๋ว 3D เริ่มฉายภาพยนตร์ตั้งแต่เวลา 19.00 -24.00 น.ซึ่งตลอดการชมจะมีเฉพาะกรรมการและชาวบ้านที่ทราบข่าวและมาเที่ยวชมไม่เกิน 20 คนท่ามกลางความหนาวเย็นของอุณหภูมิที่ลดลงเหลือเพียง 15 องศาเซลเซียส เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจากการแปรปรวนของสภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดพิจิตร

 

 

      นายอนุศิษฐ์ หลิมศิริวงศ์ รองประธานมูลนิธิพิจิตรสามัคคีกุศลสถานสงเคราะห์ ฝ่ายสุสาน กล่าวว่า การจัดฉายหนังกลางแปลงเพื่อให้วิญญาณบรรพบุรุษได้ชมมีการจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยจัดครั้งแรกเมื่อประมาณปี 2510 หรือเกือบ 50 ปี ที่แล้ว โดยทุกปีจะมีการจัดภาพยนตร์เพื่อเป็นการสร้างความบันเทิงให้กับวิญาณของบรรพบุรุษภายในสุสานซึ่งมีหลุมฝังบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นคหบดี และคนมีชื่อเสียงที่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีนของจังหวัดพิจิตร ตามความเชื่อว่าการฉายภาพยนตร์เป็นการสร้างความบันเทิงให้กับดวงวิญญาณบรรพบุรุษในวันชิวอิก หรือวันเที่ยวในเทศกาลตรุษจีน

 

 

      ด้านนายบุญเชิด คุ่ยคร้าม เจ้าของและผู้จัดการบุญเชิดภาพยนตร์ กล่าวว่า ตนเดินทางมาฉายภาพยนตร์ให้กับวิญญาณบรรพบุรุษชมมากว่า 40 ปี แล้ว ตั้งแต่เป็นลูกน้องของเจ้าของเดิมจนมามีทีมงานเป็นของตนเองหลังจากเจ้าของเดิมเลิกกิจการไปเนื่องจากความนิยมของหนังกลางแปลงลดลงยอมรับว่ารู้สึกวังเวง ขนลุกทุกครั้งที่มาฉายภาพยนตร์เนื่องจากความเงียบและความเย็นภายในสุสาน

 

 

      โดยเฉพาะการเก็บของหลังฉายหนังเสร็จซึ่งจะมีแค่ตนเองและลูกน้องไม่กี่คน แต่ก็รู้สุกดีใจที่ได้มีโอกาสมาสร้างความสุขให้กับดวงวิญญาณของบรรพบุรุษชาวจีนแม้ตนเองจะไม่มีเชื้อสายจีนก็ตามและรู้สุกภูมิใจที่ได้ร่วมสืบสานสิ่งที่ถือว่าเป็นประเพณีของลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีนที่แสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ และถือว่าเป็นการรักษาการฉายหนังกลางซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองรักให้คงอยู่เนื่องจากปัจจุบันหาชมได้ยาก