พระเครื่อง

พระบรมฯเสด็จฯเก็บพระอัฐิ‘สมเด็จพระสังฆราช’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'สมเด็จพระบรมฯ' เสด็จพระราชดำเนิน เก็บพระอัฐิ สมเด็จพระสังฆราชฯ ที่พระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาส เพื่อนำไปประดิษฐานที่ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร

 

           เมื่อเวลา 07.08 น. วันที่ 17 ธันวาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการเก็บพระอัฐิ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ณ พระเมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส ในการนี้้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยเสด็จด้วย

           สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ขึ้นพระเมรุ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะพระอัฐิ ทรงสรงพระอัฐิ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสำหรับพระอัฐิบูชาพระสงฆ์ ทรงทอดผ้าไตรบนผ้าคลุมพระอัฐิที่พระจิตกาธาน พระสงฆ์สดับปกรณ์จนครบ 6 รูป ทรงเก็บพระอัฐิทีละองค์ จุ่มน้ำพระสุคนธ์ลงในขันลงยา แล้วทรงวางที่พาน 3 พาน ทรงรวบผ้าห่อพระอัฐิบรรจุลงในพระโกศ บรรจุในพระเจดีย์ศิลา 3 เจดีย์

           จากนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระเจดีย์ศิลาบรรจุพระอัฐิลงจากพระเมรุไปประดิษฐานบนโต๊ะหมู่ในพลับพลาอิศริยาภรณ์ เสด็จฯ ไปประทับพระเก้าอี้บนพลับพลาอิศริยาภรณ์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะพระอัฐิแล้วทรงประเคนพัดที่ระลึกงานพระเมรุแก่พระสงฆ์สามหาบ ทรงประเคนสำรับภัตตาหารแด่พระผู้เป็นประธานสงฆ์ แล้วประทับพระเก้าอี้

           พระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงถวายตู้สังเค็ดที่ระลึกงานพระเมรุ ทรงหลั่งทักษิโณทก จากนั้นเจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ 10 รูป ขึ้นนั่งยังอาสนสงฆ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ถวายพัดรองที่ระลึกงานพระเมรุ พระสงฆ์สวดมาติกา แล้วทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

           สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระเจดีย์ศิลาบรรจุพระอัฐิลงจากพลับพลาอิศริยาภรณ์ ไปขึ้นรถยนต์พระประเทียบเพื่อไปประดิษฐานยังตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จพระราชดำเนินตามพระอัฐิ ทรงยืนส่งเสด็จที่หน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินกลับ

           เมื่อเวลา 08.17 น. เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระเจดีย์ศิลาบรรจุพระอัฐิ ไปถึงตำหนักเพ็ชร โดยมีคณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ พุทธศาสนิกชนจำนวนมากรอรับพระอัฐิ จนกระทั่งเวลา 09.00 น. ทางวัดบวรนิเวศวิหาร จึงได้เปิดให้ศิษยานุศิษย์ พุทธศาสนิกชน นับหมื่นคนที่มาต่อแถวเข้าสักการะพระอัฐิ

           พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร แถลงว่า จะเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระอัฐิ ณ ตำหนักเพ็ชร ได้ตั้งแต่วันที่ 17-19 ธันวาคม โดยวันนี้ (17 ธ.ค). เปิดให้สักการะได้ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. วันที่ 18 ธันวาคม เปิดให้สักการะได้ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. ส่วนวันที่ 19 ธันวาคม จะเปิดให้สักการะพระอัฐิเฉพาะช่วงเช้า เนื่องจากในเวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จในการพิธีพระราชกุศลพระอัฐิ (ฉลองพระอัฐิ) แล้วเชิญพระอัฐิ ขึ้นประดิษฐาน ณ ตำหนักเดิม ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นที่ประดิษฐานพระอัฐิของเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารทุกองค์ รวม 5 องค์ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราช เป็นเจ้าอาวาส รูปที่ 6

           พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวว่า หลังจากนั้น ในวันที่ 20 ธันวาคม เวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงปฏิบัติพระกรณียกิจแทนพระองค์ ในการเชิญผอบพระสรีรางคาร (เถ้าถ่านที่ปะปนกับกระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อยของศพที่เผาแล้ว) บรรจุยังพระวิหารเก๋ง หลังจากนี้ประชาชนสามารถมาสักการะพระสรีรางคารที่วิหารเก๋งได้ทุกวัน ส่วนพระอัฐิจะเปิดให้ประชาชนสักการะได้ในคราวที่เชิญพระอัฐิมาบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานที่พระอุโบสถทุกวันที่ 2 สิงหาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันทำบุญอดีตเจ้าอาวาส และวันที่ 24 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์สมเด็จพระสังฆราช

           พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้แบ่งพระอัฐิไปประดิษฐานที่วัดเทวสังฆาราม จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นวัดที่สมเด็จพระสังฆราชทรงบรรพชาและอุปสมบท และวัดญาณสังวราราม จ.ชลบุรี วัดที่พระองค์ทรงสร้างไว้ ทั้งนี้ ยังมีอีกหลายวัดที่ต้องการพระอัฐินำไปประดิษฐานไว้ ทั้งวัดในประเทศไทย และต่างประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับกรรมการวัด และต้องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตก่อน

           พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา จัดได้สมพระเกียรติมาก นับเป็นประวัติศาสตร์ของโลกก็ว่าได้ ที่มีประมุขสงฆ์จาก 13 ประเทศ 19 รูป เดินทางมาร่วมในพระราชพิธี และมีพุทธศาสนิกชนและประชาชนมาร่วมส่งเสด็จเป็นหมื่นๆ คน มีภาพคนเรือนหมื่น เดินตามขบวนแห่พระโกศพระศพไปถึงวัดเทพศิรินทราวาส แสดงให้เห็นถึงศรัทธาของประชาชนที่มีอย่างล้นหลามต่อสมเด็จพระสังฆราช ถือว่าพระองค์ท่านทรงเป็นพระของประชาชนอยู่ในหัวใจของประชาชนคนไทยรวมถึงชาวต่างประเทศด้วย อย่างวันเคลื่อนพระศพ พื้นที่บนทางเท้าหน้าวัดบวรนิเวศวิหารมีชาวต่างประเทศโดยเฉพาะชาวอินโดนีเซีย กว่า 300 คน พากันมาจับจองพื้นที่ตั้งแต่เวลา 04.00 น.

           “ยอมรับว่าหนังสือที่ระลึก “บวรธรรมบพิตร” ฉบับพระประวัติ และฉบับประมวลพระรูป ที่ทางวัดได้จัดพิมพ์ไว้แจก 3 แสนเล่น ไม่เพียงพอ ทางวัดจึงเตรียมจัดพิมพ์เพิ่ม โดยได้รับการสนับสนุนจากญาติโยมเป็นเจ้าภาพจัดพิมพ์อีกครั้ง อย่างละ 5 หมื่นเล่ม” พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ