'อยู่มานาน กาลเวลาพาสุข'นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์

 

          หนึ่งนิทรรศการที่คนไทยรอคอยกับภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งในปีนี้พระราชทานชื่อนิทรรศการว่า “อยู่มานาน กาลเวลามีสุข” ซึ่งเมื่อวันก่อนได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดนิทรรศการอย่างเป็นทางการ ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยมีคณะผู้จัดงาน อย่าง อมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ เฝ้าฯ รับเสด็จ

 

          สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบรรยายถึงภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในหลายภาพด้วยกันอย่างภาพเค้กที่ทรงถ่ายเก็บไว้ทุกก้อน ด้วยในปีนี้เป็นปีมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 ปี หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมถึงต่างประเทศที่เสด็จฯ ไปเยือนต่างทูลเกล้าฯ ถวายเค้กวันคล้ายวันประสูติซึ่งทรงเล่าว่าได้รับเค้กก้อนแรกเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2557 แต่ละหน่วยงานก็รังสรรค์เค้กออกมาแตกต่างกัน สวยไปคนละแบบก็ทรงถ่ายเก็บไว้ และตั้งพระทัยว่าจะถ่ายเก็บไว้จนถึงวันที่ 22 ธันวาคมนี้ เพราะจะครบปีพอดี ซึ่งตอนนี้มีเค้กอยู่ 117 ภาพ 

 

 

 

          "ส่วนภาพนี้ (ภาพดร.สุเมธ ตันติเวชกุลที่ยืนอยู่ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์เรียงกันมาเป็นปีที่ 4) ต้องถือว่าเป็นพระเอก เพราะถ่ายมาเรื่อยๆ หลายปีจนได้ภาพอย่างที่เห็น และปีนี้ก็ขอให้มาร่วมงานด้วยจะได้ถ่ายภาพเก็บไว้อีก ส่วนภาพนี้ (ตัวเงินตัวทอง) มีอยู่ทุกแห่งไม่รู้จะเชิญเขาออกไปอย่างไร แต่เวลาเจอก็อย่าเข้าไปใกล้เขา เพราะฟันเขาสกปรกถ้าโดนกัดต้องมีปัญหา เหมือนกับงูเหลือมที่โดนกัดไม่อันตรายแต่ก็ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะฟันสกปรกเช่นกัน 

 

          ภาพกะเหรี่ยงเล่นลาวกระทบไม้ ภาพนี้ต้องเรียกว่ากะเหรี่ยงกระทบไม้ เพราะกะเหรี่ยงเป็นคนเล่น การละเล่นนี้เล่นกันทั่วในเอเชียมีประเพณีการใช้ไม้ไผ่มากระทบกัน ซึ่งในภาพเล่นกันเป็นวงใหญ่ไม่ใช่ไม้ไผ่สองอันอย่างที่เห็นบ่อยๆ แล้วไม่ถูกหนีบถือว่าเก่ง ภาพนี้ถ่ายเมื่อไปอมก๋อย ไปทำงานศูนย์การพัฒนา ทำเองไม่ได้ใหญ่โตอะไร ส่วนภาพเมฆจะถ่ายเยอะมาก ไม่ว่าไปไหนจะถ่ายรูปเมฆ เห็นเป็นรูปต่างๆ เวลาถ่ายก็จะนึกถึงเพลงสากลที่ชื่อ Both side now เมฆทำให้มีฝนตก มีหิมะตก" 

 

 

          พร้อมกันนี้ทรงเล่าถึงที่มาของการถ่ายภาพเต่าว่า เป็นเต่าทรงเลี้ยงพันธุ์นี้หายากมาก พอออกมามี 15 ตัวเป็นคอกแรกแล้วกำลังคิดว่าจะตั้งชื่อให้เต่าพวกนี้ กำลังคิดอยู่ว่าจะตั้งชื่ออะไรหรือจะให้ส่งประกวดดี สุดท้ายเป็นชื่อเลข 1-15 แทนเพราะไม่แน่ใจว่าตั้งชื่อให้แล้วจะจำได้หรือไม่ว่าตัวไหนชื่ออะไร (ทรงสรวล) ส่วนภาพถ่ายฝีพระหัตถ์รูปหอยทากและใบไม้ ทรงถ่ายจากในวังสระปทุม ตรัสเล่าว่าในช่วนหน้าฝนมีหอยเหล่านี้มากมีตัวใหญ่ๆ ตัวยาวๆ เวลามาเดินตอนเช้าก็ต้องระวังเพราะเกรงจะเหยียบ และถ้าเหยียบแล้วเสียงดังกร๊อบน่าหวาดเสียว หรืออย่างกิ้งกือก็มีเยอะออกมาวิ่งตอนเช้าไม่ได้เป็นอันวิ่งเพราะนับกิ้งกือได้ 425 ตัว มัวแต่นับเลยไม่ได้วิ่ง 

 

          ภายหลังทรงบรรยายเสร็จแล้ว เสด็จฯ ไปทรงเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ พร้อมทรงจำหน่ายหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “อยู่มานาน กาลเวลามีสุข” ซึ่งทรงพระนิพนธ์คำนำไว้ตอนหนึ่งว่า อยู่มาถึงตอนนี้ถือว่าอยู่มานาน ผู้รับราชการอย่างข้าพเจ้าก็ต้องเกษียณอายุเป็นธรรมดา ทำให้ต้องปรับตัวปรับใจอยู่บ้าง สุขภาพจะให้ดีเท่าแต่ก่อนก็เป็นไปไม่ได้ แต่กาลเวลาที่ผ่านมาก็ช่วยทำให้รู้จักคนมากขึ้น ได้เพื่อนดีๆ ได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่นและได้ชิมของที่ไม่เคยมาก่อน ได้ทำงานที่คิดว่าคุ้มค่า คือทำให้ตัวเองและผู้อื่นมีความสบายมากขึ้น มีความทุกข์น้อยลง สิิ่งเหล่านี้ถือว่าได้มาจากกาลเวลาที่อยู่นาน มีประสบการณ์ที่ช่วยในการรับรู้และแยกแยะสิ่งที่รู้ด้วยอินทรีย์ (Sense) ทั้ง 5  หรือทั้ง 6 (แล้วแต่จะคิด) และนำพาให้เกิดสุข ขอแบ่งปันความสุขนี้แก่ทุกท่านด้วยภาพในบ้าน นอกบ้านทั้งในประเทศและนอกประเทศ ขอขอบคุณด้วยใจจริง 

     

 

          นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2558 หัวข้อ “อยู่มานาน กาลเวลามีสุข” เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสได้ร่วมตามรอยเสด็จฯ และชื่นชมพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จนถึงวันที่ 6 มีนาคม 2559 ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร