พระเครื่อง

ตะกรุด 'ใบลานบังปืน' หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วัดพวงมาลัย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ด้านตะวันตก ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ แห่งราชวงศ์จักรี ระหว่าง พ.ศ.๒๔๑๕-๒๔๓๐ โดย ท่านสัสดีพ่วง และภรรยา นางมาลัย ได้มีจิตศรัทธาถวายที่ดินให้สร้างเป็นวัด ชื่อว่า วัดพ่วงมาลัยสุนทราราม ต

 เมื่อสร้างวัดเสร็จแล้ว ได้นิมนต์ พระครูวินัยธรรม (หลวงพ่อแก้ว พรหมสโร) มาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ซึ่งขณะนั้นท่านเป็นเจ้าอธิการวัดช่องลม ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม

 หลวงพ่อแก้ว เป็นพระธุดงค์ที่มีความเชี่ยวชาญทางสายวิปัสสนากัมมัฏฐาน มีคนนับถือมาก เชื่อกันว่าท่านสำเร็จญาณวิเศษ สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ต่างๆ ได้ทั้งปัจจุบัน อดีต และอนาคต

 หลวงพ่อแก้ว เป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่อง ตะกรุด ที่ทำจาก ใบลาน รวมทั้งเหรียญ ผ้ายันต์ และลูกอม มีผู้นิยมกันมาก เลื่องลือกันว่า ด้านคงกระพันชาตรีดีเป็นเลิศ ปัจจุบันแต่ละอย่างล้วนมีราคาแพงมาก

 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตะกรุดใบลาน ที่หลวงพ่อเจาะจงทำให้บรรดาลูกศิษย์ และญาติโยมใกล้ชิด ที่เคารพนับถือท่านเป็นการเฉพาะ

 ตะกรุด ของท่านจะยึดถือเอา ใบลาน เป็นหลักในการทำ โดยท่านเจาะจงจะต้องนำมาจาก ต้นตาล ที่ขึ้นอยู่ที่ ปากคลองบางปืน เท่านั้น (ปัจจุบัน บ้านบางปืน อยู่ที่หมู่ ๖ ต.นางตะเคียน  อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม)

 โดยใบลานที่ได้นี้จะเป็น ยอดใบลานเดือน ๕ เป็นใบลานอ่อน ตากแห้งม้วนไม่แตก ต้นตาลที่ว่านี้ จะขึ้นโดดเดี่ยวกลางทุ่งบ้านบางปืน

 สาเหตุที่ต้องใช้ ใบลานปากคลองบางปืน หลวงพ่อแก้ว บอกว่า เพราะชื่อ "บางปืน" ที่กร่อนเป็น "บังปืน" ให้ความหมายในการข่มนาม ใช้ชื่อในการสะกดลงอักขระเลขยันต์ เพื่อบ่งบอกให้ เทพ เทวดา ฟ้าดิน ได้รับรู้ว่า ของของท่านใช้ดีทางไหน

 เป็นอุปเท่ห์ในการลงวิชาอาคม อันเป็นเคล็ดลับของการลงเครื่องรางของขลังประการหนึ่ง คือ การข่มนามแจ้งเทพ

 ในสมัยนั้น ดงใบลานของบางปืน การคมนาคมลำบากยากยิ่ง ไม่ง่ายเหมือนอย่างสมัยนี้ เมื่อท่านสั่งให้ลูกศิษย์เดินทางไปตัด ใบลานจากบ้านบางปืน มักมีผู้ถามหลวงพ่อว่า ทำไมถึงต้องไปเอาไกลขนาดนั้น

 หลวงพ่อตอบว่า "อยากได้ของดีก็ต้องรี่ไปเอา ไกลแค่ไหนถ้าไม่ไป ก็ไม่ได้ของดี"
 เมื่อได้ ใบลาน จาก บางปืน มาแล้ว ท่านจะตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดประมาณ ๕-๖ นิ้ว แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้ง จากนั้นจึงนำมาลงอักขระบนใบลาน ด้วยตัวขอม อ่านได้ว่า "ภู ภิ ภู ภะ" ล้อมรอบด้วยตัว "มิ" ไว้ตรงกลาง ประกอบด้วยอักขระหนุนตามสมควร 

 สำหรับคาถาในการอาราธนาตะกรุดใบลานบังปืน ให้ตั้งนะโม ๓ จบ เอาตะกรุดจบที่หน้าผาก แล้วว่าคาถา ดังนี้

 "ภูภิ ภูภะ อะมิ อุทถัง อัดโธ นะโมพุทธายะ"  เมื่อคาดเข้าติดตัว ให้ว่าคาถาเวลาผูกปมเชือก ดังนี้ "ภูภิ ภูภะ อะมิ มิมังกายะพัทธนัง อธิษฐานมิ"

  ถ้าเป็นตะกรุดลูกเล็กๆ เเบนๆ จะเรียกว่า ตะกรุดพิสมร
 ส่วนดอกยาวขึ้นมาหน่อย ป้อมๆ อ้วนๆ ลักษณะเหมือนกลองเพลวัด จะเรียกว่า ตะกรุดลูกกลอง
 ถ้าดอกยาวๆ มีทั้งถักเชือก และไม่ถักเชือก เป็นใบลานเปล่าๆ ลงอักขระแล้วม้วน มีที่ปิดทองเก่าก็มี แต่พบเห็นได้น้อย โดยมากจะเสียหายหมด เรียกว่า ตะกรุดใบลาน

 ตะกรุดทั้งหมดนี้ เรียกรวมๆ กันว่า ตะกรุดใบลานบังปืน
 ม้วนด้วยคาถาหัวใจเสือสมิง “ภู ภิ ภู ภะ”  ด้วยเวลาค่ำคืนดึกสงัด
ปราศจากเสียงหวีดร้องของเหล่าสรรพสัตว์ ถือเป็นฤกษ์มหาอุตม์
 ตะกรุดใบลานบังปืน ของ หลวงพ่อแก้ว จะพันด้วยด้ายสายสิญจ์ ไม่ใช่การถักลาย การพันเเบบนี้ ผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่า หลวงพ่อจะพันด้วยตัวท่านเอง ระหว่างการพันด้าย ท่านจะบริกรรมคาถาไปด้วย ให้สังเกตจะเป็นการพันแบบง่ายๆ แล้วจึงนำมาจุ่มรักในภายหลัง

 ตะกรุดใบลานบังปืน ของหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย คนสมัยก่อนยกให้เป็นสุดยอดนิยมเครื่องราง ๑ใน ๑๐ ชนิด ประกอบด้วย...หมากทุยวัดหนัง เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ-หลวงปู่เพิ่ม ไม้ครูหลวงปู่ภู มีดหมอหลวงพ่อเดิม ตะกรุดพิสมรหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ครั่งหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง  ราหูหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง แหวนพิรอด หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ลูกแร่หลวงปู่จัน วัดบางไผ่ หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน "...ทุกสิ่งเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา ติดกายยามยาตรา ภัยมิกล้ามาแพ้วพาน" ... นับเป็นความรู้ที่ควรค่าต่อการศึกษา และจดจำ

"อนุวัต บูรณสัจจะ (วัต ท่าพระจันทร์)"


ประวัติโดยสังเขป หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย  ท่านเกิดเมื่อปีมะแม

 พ.ศ. ๒๓๙๓ ที่ ต.บางแค อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม (ข้อมูลบางแห่งระบุว่า ปีมะแม ตรงกับ พ.ศ. ๒๓๙๐ และวันเดือนปีเกิดของหลวงพ่อแก้ว น่าจะเป็นวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย ปีระกา ตรงกับพ.ศ. ๒๓๙๒ มีพี่น้องทั้งหมด ๓ คน เป็นผู้ชายทั้งหมด ท่านเป็นลูกคนกลาง

 ในวัยเด็ก หลวงพ่อแก้วได้ศึกษาวิชาจากบิดา ซึ่งเคยเป็นทหารวังหน้า และเป็นผู้มีวิชาแก่กล้าเชี่ยวชาญในคาถาอาคมมาก

 หลวงพ่อแก้ว บรรพชาเป็นสามเณร ตั้งแต่อายุได้ ๑๐ ปี ที่วัดบางแคใหญ่  และได้อุปสมบทที่วัดเดียวกัน โดยมี หลวงพ่อเพ็ง วัดบางแคใหญ่ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังอุปสมบทได้ ๑ พรรษา ได้ย้ายไปอยู่กับพระอาจารย์เกตุ ผู้เป็นพี่ชาย และได้อุปสมบทอยู่ที่ วัดทองนพคุณ ต.บางจาก อ.เมือง จ.เพชรบุรี

   ต่อมาท่านได้ย้ายมาอยู่ที่วัดช่องลม อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม และได้รับนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดพวงมาลัย จนถึง พ.ศ.๒๔๖๑ ท่านได้มรณภาพ สิริรวมอายุได้ ๖๙ ปี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ