พระเครื่อง

หลวงปู่ลือ ปุญโญพระอริยสงฆ์นามระบือ'พระลือผีย่าน'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลวงปู่ลือ ปุญโญพระอริยสงฆ์นามระบือ'พระลือผีย่าน' : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

   หลวงปู่ลือ ปุญโญพระอริยสงฆ์นามระบือ'พระลือผีย่าน'            "พระครูคัมภีร์ภาวนาจารย์" หรือ หลวงปู่ลือ ปุญโญ วัดป่านาทามวนาวาส อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร พระสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา เคร่งกัมมัฏฐาน ศิษย์สืบสายธรรมหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล, หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์พระป่า ท่านยังเป็นสหธรรมิกกับ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่ขาว อนาลโย, พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ, พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร และ พระอาจารย์ชา สุภัทโท

              หลวงปู่ลือ ถือกำเนิดในตระกูลใจทัศน์ เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๔ กันยายน ๒๔๖๖ ที่บ้านไร่ ต.ป่าไร่ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร อายุ 18 ปี บรรพชา ร่ำเรียนวิชาภาษาบาลี พ.ศ.๒๔๘๘ ขณะอายุ ๒๒ ปี ได้อุปสมบทและได้ญัตติเป็นภิกษุฝ่ายธรรมยุต มีหลวงพ่อดี วัดศิลามงคล เป็นผู้สอนกัมมัฏฐานให้เป็นท่านแรก หลังบวชได้ธุดงค์มากราบ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่มาพักจำพรรษายังวัดเกาะแก้วอัมพวัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม และขอปวารณาตัวเป็นศิษย์

              หลวงปู่ลือ เป็นผู้หยั่งรู้อนาคตได้ล่วงหน้า กรณีเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารโหม่งโลกที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๒๓ ครั้งนั้นมีพระเกจิกัมมัฏฐานรับนิมนต์ไปร่วมพิธีที่กรุงเทพฯ ร่วมโดยสารไป ๕ รูป ได้แก่ พระอาจารย์จวน พระอาจารย์วัน พระอาจารย์สิงห์ทอง พระอาจารย์บุญมา และพระอาจารย์สุพัฒน์ มรณภาพทั้งหมด เจ้าภาพได้นิมนต์หลวงปู่ลือ แต่ท่านไม่รับ หลังนิมิตเห็นไฟไหม้หางเครื่องบินลำดังกล่าว

              ในครั้งนั้นหลวงปู่ลือบอกว่า พระอาจารย์ทั้ง ๕ รูปที่มรณภาพจากเหตุการณ์เครื่องบินตกนั้น แต่ละท่านรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าเป็นอย่างดี แต่ก็ยินยอมให้เป็นไปตามวิบากกรรม จิตของพวกท่านนั้น ฝึกฝนกันมาอย่างดีแล้ว จะได้รับเพียงแค่ทุกขเวทนาทางร่างกายเท่านั้น เพราะจิตกับกายนั้นได้แยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง แตกดับไปก็แต่เฉพาะรูปขันธ์ทั้ง ๕ เท่านั้น 

              การมรณภาพของพระเถระทั้ง ๕ รูปนั้น เป็นการมรณภาพที่ถึงคราวที่ท่านจะต้องละสังขารแล้ว คือ หมดอายุขัยแต่เพียงเท่านี้ แต่เนื่องด้วยวิบากกรรมที่กระทำมาตั้งแต่ชาติปางก่อนจึงทำให้ต้องมรณภาพด้วยเหตุดังกล่าว เพราะอย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิตด้วยเหตุใดก็ตาม โดยเฉพาะการเสียชีวิตอย่างฉับพลัน เช่น อุบัติเหตุต่างๆ ย่อมมีทั้งกรณีของคนที่ถึงอายุขัยแล้วจริงๆ กับกรณีกรรมเก่ามาตัดรอน 

              การกำหนดสติระลึกรู้ในทุกสภาวะจิตที่ลมหายใจเข้า-ออก ดังเช่นครูบาอาจารย์แต่ละท่านที่มุ่งมั่นฝึกฝนกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาสก็ดี หากปฏิบัติได้เช่นนี้ย่

 

 

อมบ่งบอกถึงสภาวะ “จิตสุดท้าย” ได้อย่างแน่นอนว่า ภพภูมิของจิตที่จะไปถือกำเนิดขึ้นใหม่นั้น มีตั้งแต่ระดับ เทวดา พรหม จนไปถึงระดับของพระอริยะทั้ง ๔ ประเภท อันได้แก่ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และสูงสุดคือ พระอรหันต์ ที่พ้นแล้วซึ่งการเกิด แก่ เจ็บ ตาย
 
              “พระลือ ผีย่าน” จึงมิได้เป็นเพียงแค่ “ตำนาน” ที่ถูกเล่าขานกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงอิทธิปาฏิหาริย์ เพียงเพื่อระลึกถึงเมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่..หากเมื่อระลึกถึงหลวงปู่ลือครั้งใด ให้จดจำสิ่งที่ท่านมุ่งหมายย้ำเตือนบอกแก่ศิษย์ทุกคนว่า “อย่าละทิ้งภาวนา” เพราะนรกนั้นไปได้ง่ายมาก

              ชีวประวัติ และปฏิปทาของหลวงปู่ลือ ปุญโญ มิใช่เป็นเพียงแค่ปาฏิหาริย์! ที่เกิดขึ้นจากอำนาจจิตเท่านั้น แต่ยังหมายรวมไปถึง การปฏิบัติให้เห็นอย่างเคร่งครัดตามแนวทางแห่งธรรม อันเป็นคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทสรรพวิชาให้ท่านจนบังเกิดมรรคผล


อภิญญาของหลวงปู่ลือ

 

              มีสานุศิษย์ที่ได้ออกร่วมธุดงค์กับหลวงปู่ ได้กล่าวถึงอิทธิฤทธิ์อภิญญาของหลวงปู่ลืออีกว่า ขณะที่ธุดงค์จากที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งเป็นระยะทางยาวไกลมาก แต่หลวงปู่ก็สามารถไปถึงที่หมายก่อนใคร ซึ่งเชื่อกันว่า ท่านสามารถย่นระยะทางได้..?!

              สำหรับปาฏิหาริย์ของการย่นระยะทางนี้ สันนิษฐานว่า เป็นบุญบารมีเดิมที่ท่านสั่งสมมาแต่อดีตชาติที่หลวงปู่เกิดเป็นฤาษี เพราะฤาษีนั้นจะมีความชำนาญใน “กสิณ ๑๐” โดยอานุภาพของกสิณ จะทำให้เกิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มากมาย อย่างเช่น การย่นระยะทางนี้ ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า เป็นการใช้วาโยก

 

สิณ หรือกสิณลม เพราะเป็นการกำหนดให้ร่างกายมีความเบาราวกับลม ส่งผลให้สามารถเดินเหินได้อย่างรวดเร็วราวกับลอยไปในอากาศได้ อย่างไรก็ตาม ต้องมีกสิณอื่นๆ เข้ามาเสริม บางท่านบอกว่า ต้องใช้กสิณดินร่วมด้วย เพราะต้องย่นย่อผืนดินให้สั้นลง จึงจะถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็ว

              วัตถุมงคลของหลวงปู่ลือเป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดานักสะสมนิยมพระเครื่อง แต่ที่โดดเด่นมากคือ "เหรียญหลวงปู่ลือ รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๓๕"  ทางวัดได้จัดสร้างเพื่อฉลองอุโบสถ แจกจ่ายญาติโยมเป็นที่ระลึก เพื่อเป็นสิริมงคล ต่อมาผู้ที่นำวัตถุมงคลของหลวงปู่ติดตัวจำนวนมากได้ประสบการณ์อภินิหารของวัตถุมงคลหลวงปู่หลายครั้ง โดยเฉพาะด้านแคล้วคลาด มหาอุด คงกระพัน และโชคลาภ จึงมีการกล่าวขานกันมาปากต่อปากว่า “มีหลวงปู่ลือ ไม่มีตายโหง และไม่มีจน”


“ตายเย็นให้เผาเช้า ตายเช้าให้เผาเย็น”

 


              ๑๖ มีนาคม ๒๕๔๑ ตรงกับวันจันทร์ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๔ หลวงปู่ลือได้ละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ ๘๗ ปี พรรษาที่ ๖๕ ในวันนั้น ภายในวัดชุลมุนกันมาก เพราะไม่คาดคิดว่าหลวงปู่จะจากไปอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ท่านก็หายจากอาการเจ็บป่วยและกลับมาแข็งแรงเหมือนดังเดิมแล้ว ไม่นานนักบุคคลที่เกี่ยวข้องกับทางวัด ทั้งลูกศิษย์และหน่วยงานราชการ ตำบล อำเภอ ก็เดินทางกันมาที่วัดอย่างเนืองแน่น พร้อมทั้งเสนอข้อคิดเห็นต่างๆ นานาว่า "ควรจะเก็บสรีระสังขารของท่านเอาไว้ก่อน เพื่อให้สานุศิษย์ทั่วไปได้มีโอกาสมากราบสักการะ"

              แต่พระอาจารย์เชื่อมได้กล่าวกับทุกคนว่า หลวงปู่มีคำสั่งเสียไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งได้บันทึกเสียงของหลวงปู่ไว้ในเครื่องอัดเสียงเพื่อป้องเหตุวุ่นวายอันน่าจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งก็เป็นจริง เพราะหลายฝ่ายต่างมีความเห็นไม่ตรงกัน หลวงปู่ได้กล่าวไว้ในเครื่องอัดเสียงว่า ให้เผาทันทีหากท่านมรณภาพ และกำชับอย่างเด็ดขาดว่า

              “ตายเย็นให้เผาเช้า ตายเช้าให้เผาเย็น” ทว่า พระอาจารย์เชื่อมได้ทักท้วงกับหลวงปู่ว่า ถ้าเผาทันทีจะเป็นที่ครหาต่อพระลูกวัดและผู้คนทั่วไปได้ ท่านกล่าวว่า “เป็นเรื่องธรรมดาของโลกที่ย่อมจะมีคนติเตียน ตายแล้วจะเก็บไว้ทำไม จะมาหากินกับศพหรือ จะเป็นบาปเป็นกรรม สังขารก็เป็นไปตามวัฏสงสารมีเกิดมีดับไปตามธรรมชาติ เป็นสมมุติสงฆ์ปุถุชนธรรมดามิใช่ศพพระพุทธเจ้าจะเก็บเอาไว้ทำไม อย่ามาทะเลาะกันเหมือนสุนัขแย่งของกันกิน คนมีปัญญาเขาจะมาหัวเราะเยาะเอา อย่าไปเรี่ยไรเงินเขา เป็นพระจะเอาเงินไปทำอะไร” แต่สุดท้ายหลวงปู่ก็ได้อนุญาตให้ทำพิธีได้ไม่เกิน ๓ วัน

              ทุกวันที่ ๑๖ มีนาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันครบรอบมรณภาพของหลวงปู่ลือ ปุญโญ ทางวัดป่านาทามวนาวาส ได้จัดให้มีพิธีสรงน้ำอัฐธาตุของหลวงปู่ เพื่อเป็นการแสดงมุทิตาสักการะ เป็นประเพณีปฏิบัติสืบทอดกันมาถึงปัจจุบันเป็นปีที่ ๑๗ แต่เดิมบอกกล่าวกันเฉพาะบรรดาศิษย์ใกล้ชิด แต่ปัจจุบันขยายวงกว้างออกไป ทำให้มีประชาชนที่ทราบข่าวมาร่วมงานมากขึ้นทุกปี

              พระอาจารย์เชื่อม ปัญญาวโร เจ้าอาวาส บอกว่า ทางวัดไม่ได้จัดพิธีใหญ่โตอะไร ไม่มีกิจกรรมใดๆ ลูกศิษย์เจ้าประจำที่มาออกร้านให้ทานก็มากันเป็นประจำทุกปี พระฉันเสร็จสวดมนต์แล้วก็สรงน้ำอัฐิหลวงปู่ก็จบพิธี ทำกันมาแบบนี้เป็นประจำไม่เคยเปลี่ยน สาธุชนท่านใดที่ต้องการมาร่วมงานบุญสอบถามเส้นทางได้ที่ คุณอิฏฐวัตน์ ปิติสิงห์ ๐๘-๙๘๙๕-๕๘๖๕

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ