หลวงพ่อทองวัดไร่กล้วยยอดพระดีศรีราชาจ.ชลบุรี

                ศรีราชา เป็นอำเภอหนึ่งของ จ.ชลบุรี ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลตะวันออกของอ่าวไทย โดยมีภูเขาโอบล้อม และมี "เกาะลอย" ที่ยื่นออกไปในทะเล นั่นเป็นวิวทิวทัศน์ที่ใครต่อใครหากนึกถึง "ศรีราชา" ก็ต้องมีภาพนี้อยู่ในมโนภาพเป็นแน่แท้
   
                ภายในชุมชนเล็กๆ ที่เรียกว่าชุมชน “ไร่กล้วย” อยู่ด้านหลัง โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ได้ปรากฏนามของพระเกจิอาจารย์ผู้เปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของชาวไร่กล้วย พระผู้ทรงรัตตัญญูท่านนี้มีนามว่า หลวงปู่ทอง ปัญญาทีโป

                พระครูสุทธิคุณรังสี หรือ หลวงพ่อทอง ปัจจุบันท่านมีสิริอายุ ๙๒ ปี ท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่มีอาวุโสสูงที่สุดใน อ.ศรีราชา เดิมท่านชื่อ “ทองแดง” นามสกุล "ก้านบัว" โยมบิดาชื่อ "สี" โยมมารดาชื่อ "ไผ่" พื้นเพเดิมเป็นชาว อ.พนัสนิคม
 
                ในวัยหนุ่มท่านเป็นผู้ที่มีความรักชาติและกล้าหาญ จึงได้สมัครเข้ารับราชการทหารเป็นเวลา ๒ ปี ก่อนที่จะเข้าอุปสมบทที่วัดเนินสังข์ โดยมีพระครูสังวรศรีลาจารย์ (เจียม) วัดหลวงพรหมาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาเที่ยง วัดกลาง เป็นพระกรรมวาจารย์ พระอาจารย์วัดไร่หลักทอง เป็น พระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ปัญญาทีโป” แปลว่า “ผู้มีปัญญาเป็นแสงสว่าง”
 
                เมื่อบวชแล้วท่านมีความเคร่งครัดในพระวินัยอย่างมาก ตั้งใจศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า จนซึ้งในรสพระธรรม สุดท้ายจากที่ตั้งใจจะบวชเพื่อทดแทนคุณบิดามารดา พระภิกษุทองขณะนั้นได้ปวารณาตนบวชไม่สึก ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
   
                หลวงปู่ได้เดินทางไปเรียนกรรมฐานกับอาจารย์ทั้งพระคณาจารย์และฆราวาส หลายต่อหลายท่าน อาทิ อาจารย์แจ่ม ปั้นมีรส เป็นอาจารย์ฆราวาสที่เก่งด้านปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน และเป็นผู้สร้าง วัดรังษีสุทาวาส (ไร่กล้วย)
   
                เมื่อสร้างวัดเสร็จ อาจารย์แจ่ม ได้นิมนต์ท่านครองวัดสืบมาจนถึงปัจจุบัน
   
                ท่านเป็นผู้มีบุคลิกน่าเกรงขาม จนหลายคนไม่กล้าเข้ากราบนมัสการท่าน แต่ที่จริงแล้ว ลึกๆ ท่านเป็นพระเถระผู้มีเมตตาเป็นที่สุด
    
                ท่านเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า...ตอนที่มาบวชแรกๆ ท่านไม่ได้คิดจะให้ตนเองมีชื่อเสียงโด่งดังในด้านการปลุกเสก หรือเป็นพระเกจิอาจารย์แต่อย่างใด แต่ว่าคำว่า “พระ” นั้นต้องเป็นที่พึ่งให้ชาวบ้านได้ทุกอย่าง เช่น จุนเจิม รดน้ำมนต์ พ่นน้ำมัน ก็หนีไม่พ้นพระอยู่วันยังค่ำ เขาหนีร้อนมาพึ่งเย็น ก็ต้องช่วยเขา เป็นกำลังใจให้เขา
 
                ท่านจึงตัดสินใจเรียนรู้ศาสตร์อื่น ควบคู่กับการปฏิบัติธรรม อาทิ โหราศาสตร์, การแพทย์แผนโบราณ และการสร้างวัตถุมงคล เครื่องราง
    
                โดยเฉพาะ "เครื่องราง" ท่านได้ดั้นด้นเดินทางไปเรียนกับ  หลวงพ่ออินเทวดา วัดลาด จ.จันทบุรี ซึ่งกำลังโด่งดังในยุคนั้น
    
                เชื่อกันว่าเครื่องรางของหลวงปู่ทองที่ทำแจกจะให้ผลส่งเสริมทางด้านเมตตา ค้าขาย เป็นอย่างยิ่ง
    
                ต่อมาเมื่อปี ๒๕๕๖ ท่านได้รับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศ และผ้าไตร ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาส พระอารามหลวง ชั้นเอก เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๖
   
                การได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ของหลวงปู่ เป็น “พระครูสุทธิคุณรังสี” ในครั้งนี้เป็นเครื่องแสดงถึงว่า หลวงปู่เป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมด้วยวัตรปฏิบัติ ทั้งด้านบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะ ในการสนับสนุนงานศาสนาศึกษา การเผยแผ่พระพุทธศาสนา งานสาธารณูปการ งานด้านการศึกษาสงเคราะห์ อันเป็นประโยชน์แก่คณะสงฆ์และเยาวชน ตลอดจนประชาชนทั้งหลายทั่วไป โดยไม่ได้ใช้งบประมาณจากทางราชการ แต่อาศัยการบริจาคของประชาชน
   
                วัตถุมงคลของท่าน ที่กำลังเป็นที่นิยม คือ เหรียญรูปเหมือน รุ่นแรก ปี ๒๕๑๐ ซึ่งปัจจุบันได้รับการบรรจุในรายการประกวดพระเครื่อง ใน จ.ชลบุรี, พระปิดตา หลัง “อัง” รุ่นแรก,เหรียญรูปเหมือน รุ่น ๒ ปี ๒๕๑๖, เหรียญเลื่อสมณศักดิ์, พระปิดตายันต์ยุ่งปัญญาทีโป, ปลัดขิกฟ้าผ่า เป็นต้น
   
                ขณะนี้หลวงปู่กำลังก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ เพื่อแทนศาลาการเปรียญหลังเก่า ที่ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า ๑๖ ล้านบาท เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เนื่องในวันสำคัญต่างๆ และใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม บำเพ็ญกุศลของพุทธศาสนิกชน และพระภิกษุสามเณร
   
                ดังนั้นหลวงปู่จึงดำริสร้าง “พระกริ่งปัญญาทีโป” เพื่อหารายได้ในการก่อสร้างดังกล่าว พุทธศาสนิกท่านใด สนใจร่วมทำบุญ และกราบพระสุปฏิปันโน อย่าง "หลวงปู่ทอง" ขอเชิญได้ที่ วัดไร่กล้วย ตามอัธยาศัย