ข่าว

เยี่ยมชมแหล่งปั้นดีไซเนอร์ไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 กันแล้วสำหรับ สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ หรือ ซี.ไอ.ดี.ไอ ชนาพัฒน์ แหล่งผลิตดีไซเนอร์ไทยสู่ระดับสากล ซึ่งปั้นดีไซเนอร์ไปแจ้งเกิดในวงการแฟชั่นทั้งในเมืองไทยและระดับสากลมาแล้วนักต่อนัก แต่กลับไม่ค่อยมีคนรู้จักสถาบันแห่งนี้สักเท่า

 สถาบันแห่งนี้มีจุดเด่นในเรื่องของสถานที่ตั้ง ซึ่งทำการเรียนการสอนอยู่ภายในเจดีย์ของวัดธรรมมงคล สุขุมวิท 101 ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2543 ตามดำริของ พระเทพเจติยาจารย์ หรือ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล ด้วยต้องการยกระดับนักออกแบบไทย ให้เทียบเคียงได้ในระดับนานาชาติ และสามารถสร้างสินค้าแบรนด์ไทยไปขายยังต่างประเทศ นำเงินตรากลับเข้าประเทศเพื่อช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศให้ดียิ่งขึ้น

 ดร.สาคร กล่าวถึงสถานที่ตั้งของสถาบันว่า ตั้งแต่ที่มารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ คิดอยู่เสมอว่าอยากจะย้ายสถาบันแห่งนี้ออกไปจากวัด ด้วยเล็งเห็นถึงความไม่เหมาะสม ที่จะให้วัดเป็นสถานศึกษาของเหล่านักออกแบบ แต่เมื่อคิดได้ว่า ศิลปวัฒนธรรมของโลกมักจะรวมตัวอยู่ 2 สถานที่ คือ วัง และ วัด ประกอบกับการเรียนการสอนภายในวัด ถือเป็นจุดเด่นของทางสถาบันที่ไม่มีสถาบันออกแบบที่ใดในโลก ทำการเรียนการสอนในนี้ จึงกลายเป็นเหตุผลให้ ซี.ไอ.ดี.ไอ ยังคงทำการเรียนการสอนในวัดเช่นเดิม

 สถาบันแห่งนี้นำหลักสูตรซึ่งรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการของประเทศอิตาลีมาใช้ ทั้งยังสอนโดยคณาจารย์ชาวยุโรปที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการดีไซน์ทั้ง 2 สาขา โดยเรียนทั้งหมด 2 ปี 4 เทอม และก่อนจบนักเรียนทุกสาขาจะต้องออกแบบผลิตภัณฑ์ในสาขาที่เรียนมา เพื่อทำการโชว์ให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นกัน ที่สำคัญสถาบันแห่งนี้จะเน้นภาคปฏิบัติและความปฏิสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับนักเรียนเป็นหลักด้วย

 "ใหม่" ฉัตรมณี แต้สุนทรไพเราะ นักเรียนแฟชั่นดีไซน์กำลังจะขึ้นปี 2 เล่าว่า ส่วนตัวเป็นคนชอบแฟชั่นอยู่แล้ว แต่ตอนเรียนปริญญาตรีไม่ได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ หลังจากเรียนจบจึงอยากจะเดินตามฝันที่หวังเอาไว้ และรู้จักสถาบันแห่งนี้จากเพื่อนที่เคยเรียนอยู่จนได้รับทุนไปศึกษาต่อที่ประเทศอิตาลี จึงตัดสินใจมาเรียนที่สถาบันแห่งนี้

 "แรกๆ ก็แปลกใจทำไมสถาบันออกแบบถึงอยู่ในวัด แต่พอได้มาเห็นสถานที่ บรรยากาศการเรียนการสอน และศึกษาหลักสูตรของที่นี่แล้ว ก็รู้สึกว่าไม่ได้แตกต่างจากสถาบันออกแบบที่อิตาลีเลย แล้วหลวงพ่อก็ช่วยเหลือในเรื่องของค่าเรียนส่วนหนึ่งด้วย ตอนแรกที่มาเรียนยากมาก เพราะไม่มีพื้นฐานเรื่องเสื้อผ้าเลย เริ่มเรียนรู้ใหม่หมดตั้งแต่เย็บจักร เนา สอย จนตอนนี้ทำเป็นเกือบทุกอย่างแล้ว แล้วก็ยังได้เรียนรู้เทคนิคในการตัดเย็บอีกหลายอย่าง เพราะอาจารย์ดูแลนักเรียนทุกคนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเพื่อนๆ ในห้องก็ช่วยเหลือกันทุกคน ไม่ทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยวเลย" ใหม่เล่าอย่างภูมิใจ

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ