เยี่ยมเพื่อนชื่อ'อิสตันบูล' : คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง
ยุโรปเที่ยวล่าสุดฉันปักหมุดสะเปะสะปะ กวาดสายตาดูโดยรวมแล้วจะเรียกว่ายุโรปเรื่อยเปื่อยก็คงไม่ผิด
แต่ไม่ว่าจะระหกระเหเร่ร่อนไปมุมไหนของยุโรป ก็ต้องตั้งต้นที่ตุรกีก่อน เพราะเมื่อบินด้วยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ (0-22310300-7) ไม่ว่าจะยุโรปหย่อมไหนก็ต้องไปออกตัวที่นครอิสตันบูล (Istanbul)
ตุรกี เมื่อหลายปีก่อนทำฉันวิงเวียนกับการขอวีซ่าไปหลายวัน เมื่อเวลา 8 โมงเช้า ยังเช้าไม่พอสำหรับการยื่นขอวีซ่า แต่หลังจากที่สถานทูตตุรกีประกาศยกเลิกการทำวีซ่าของคนไทย อนุญาตให้เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวได้เลย นักท่องเที่ยวไทยดีใจกันถล่มทลายเชียวล่ะ แต่คนดีใจที่สุดคงเป็นฉัน เพราะชีวิตเราต้องผ่านไปผ่านมาแถวตุรกีแทบทุกปี ถ้าไม่มีเรื่องวีซ่าเป็นอุปสรรคซะอย่าง หลังจากนี้จะแวะเที่ยวกี่ทีก็ไม่มีปัญหา
การเดินทางอันย้อนแย้งเริ่มต้นขึ้นในวันที่ยุโรปกำลังสะบัดร้อนสะบัดหนาว จะร้อนก็ไม่ร้อนซะทีเดียว จะหนาวก็ยังไม่ถึงขั้นนั้น เรื่องเสื้อผ้าเลยต้องเผื่อไว้รับมือทั้งร้อนและหนาว
เป็นเที่ยวที่สนองความใจดีของตุรกี ด้วยการแวะทักทายอิสตันบูลให้พอหายคิดถึง ซึ่งไม่ว่าระยะวันในอิสตันบูลจะสั้นยาวแค่ไหน ยังไงก็ต้องไปตั้งหลักแถว จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Square) ทุกอย่างจะง่ายดายที่สุด ไม่ว่าหาที่พัก ออกตัวเที่ยว หรือหาทัวร์ทั่วตุรกี เที่ยวนี้ได้ที่พักแถวนี้เหมือนเคย หลังจากคลิกไปค้นในเว็บไซต์อโกดา (www.agoda.com) จึงพบว่ายังมีเรือนพักหน้าตาดีมีสไตล์อีกหลายแห่งในละแวกนี้ที่รอการไปเยี่ยมเยือนจากฉัน
ต่อให้ใครไม่คุ้นกับอิสตันบูล การเข้าถึงเนื้อถึงตัวอิสตันบูลก็ไม่ใช่เรื่องยาก จากสนามบินเดินตามป้ายตัว M ไปเรื่อยๆ ประเดี๋ยวเดียวก็ถึงสถานีเมโทรที่อยู่ใต้ถุนสนามบิน รถเมโทรสาย M1 สีแดงจอดคอยท่าอยู่ที่นั่น แต่ถ้าตั้งใจจะไปตั้งหลักแถวจัตุรัสสุลต่านอาห์เมต รถใต้ดินสายนี้ไปไม่ถึง ต้องลงที่สถานี Zeytinburnu http://wikitravel.org/en/Istanbul/Western_Suburbs จากนั้นเปลี่ยนไปใช้บริการรถรางสีน้ำเงิน ซึ่งจะผ่านทั้งจัตุรัสสุลต่านอาห์เมตและจัตุรัสทักซิม ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมไปพักกัน
ฉันหย่อนตัวลงที่จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต มุมนี้ยังคงอบอุ่นเสมอสำหรับนักเดินทาง ต่อให้ตุรกีจะประท้วงกันดุเดือดแค่ไหน ที่นี่ก็ไม่เคยไร้ร้างนักท่องโลก แทบจะเรียกว่าเป็นมุมที่ทุกคนต้องพาสองเท้ามาเจิมเลยก็ว่าได้
ลานกว้างแห่งนี้เขาเรียก ฮิปโปโดรม เป็นศูนย์กลางของย่านเมืองเก่า และแวดล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวระดับแถวหน้าของอิสตันบูลที่มากองรวมกันในละแวกนี้ทั้งสิ้น เฉพาะจัตุรัสแห่งนี้ก็มากมายไปด้วยที่มาที่ไป เพราะเคยเป็นทั้งสนามกีฬา ใช้แข่งรถม้า และเป็นลานต่อสู้ระหว่างคนกับคน รวมถึงเวลามีเทศกาลงานประเพณีสำคัญๆ เขาจะมาจัดหรือเฉลิมฉลองกันที่นี่
เสาโอเบลิสก์โบราณที่เดินทางมาจากอียิปต์ยังคงอยู่ที่เดิม แม้จะตั้งประดับนครอิสตันบูลมาแล้วกว่า 1,650 ปี แต่รอบๆ เสายังคงมีภาษาอียิปต์ที่เอื้อยเอ่ยถึงชัยชนะจากการทำสงครามของฟาโรต์ และรอบๆ เสายังคงมีผู้คนจากทั่วโลกไปก้มๆ เงยๆ เพ่งมองเสานี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่มุมที่ดูเหมือนชำรุดไปเยอะ น่าจะเป็นเสาบรอนซ์รูปงูเก่าแก่กว่า 2,500 ปี นี่ก็เดินทางมาจากประเทศกรีซเหมือนกัน
มาถึงมุมนี้ของอิสตันบูลแล้ว เหมือนเป็นเมนูบังคับของอิสตันบูลยังไงไม่ทราบ ออเดิร์ฟเบาๆ ด้วยจัตุรัสเสร็จแล้วต้องตามด้วยเมนคอร์สอย่าง มัสยิดสุลต่านอาห์เมต หรือ มัสยิดสีฟ้า (Blue Mosque) ไม่ว่าจะกรุ๊ปทัวร์หรือกรุ๊ปตัว
คนนิยมสะสมของใหญ่มาที่นี่คุณจะได้เก็บอีกหนึ่งแต้ม เพราะมัสยิดสุลต่านอาห์เมตมีไซส์และทรวดทรงใหญ่ที่สุดในตุรกี เรื่องอายุอานามก็ไม่ใช่น้อยเกือบ 400 ปีแล้ว แถมสวยงามไม่เป็นรองสุเหร่าสวยๆ ของโลกนี้ เช่นสุเหร่าที่อาบูดาบี สุเหร่าประจำนครมัสกัตแห่งโอมาน
คนจะเข้าชมด้านในของที่นี่ต้องทำการบ้านหน่อย เพราะปกติเขาจะไม่อนุญาตให้เข้าชมช่วงที่ได้เวลาละหมาดของชาวเมือง แต่ถึงแม้ไม่ได้มาละหมาด เขาก็ชอบมานั่งเล่นกันแถวๆ นี้ พวกนักศึกษาก็มักมานั่งติวหนังสือ คนเฒ่าคนแก่ก็มานั่งสนทนากันเรื่องบ้านเมืองเรื่องปากท้อง โดยเฉพาะตรงบริเวณทางเดินที่เชื่อมไปหาวิหารเซนต์โซเฟีย (St. Sophia) ที่ไม่ว่าเช้าสายบ่ายค่ำ ก็จะมีชาวเมืองมานั่งเล่น นั่งเพลินกันเสมอ
วิหารเซนต์โซเฟีย ที่คนตุรกีเขาเรียกกันว่า อายาโซเฟีย (Aya Sofya) ถูกยกให้เป็นสมบัติอันล้ำค่าอีกชิ้นหนึ่งของอิสตันบูล ยืนเชิดหน้าข่มความสวยสุเหร่าสุลต่านอาห์เมตอยู่ไม่ไกลกัน ในสายตานักท่องโลก ที่นี่คือเพชรเม็ดงามที่ประดับนครอิสตันบูลเลยก็ว่าได้ ว่ากันอย่างไม่เอนเอียงใดๆ มัสยิดสุลต่านอาห์เมตอาจชวนให้รู้สึกว่า ที่นี่ช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน แต่อายาโซเฟียนั้น อาจไม่สวยสมบูรณ์นัก ทว่า เข้มขลัง บางส่วนกระเบื้องหลุดลอก ถลอกปอกเปิก แต่ฉันหลงใหลบรรยากาศแบบนี้เหลือเกิน ทั้งกลิ่น แสง และความอับชื้น ทั้งหมดคือความไม่สมบูรณ์แบบที่งดงามอย่างประหลาด
พูดก็พูดเถอะ ในบรรดา 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ที่ผ่านการคัดตัวแบบโหวตนั้น มีหลายชิ้นที่ฉันเองคิดว่า ยังไม่ใช่ พูดแบบบ้านๆ คือ ยังมหัศจรรย์ไม่พอ วิธีการโหวตด้วยเอสเอ็มเอสและพลังคลิกนั้น ไม่ศักดิ์สิทธิ์พอ นั่นแหละทำให้อายาโซเฟียหลุดร่วงไม่เห็นฝุ่น
ฉันไม่มีสายตาของนักประวัติศาสตร์ และสายตาของนักโบราณคดี เป็นเพียงแค่นักทัศนศึกษาโลกธรรมดาๆ ที่ใคร่รู้ใคร่เห็นสถานที่อันแออัดไปด้วยเรื่องราว นั่นทำให้กลายเป็นพวกมนุษย์ที่แหงนคอมองเพดานและผนังได้อย่างไม่รู้เบื่อ
ออกจากวิหารเซนต์โซเฟียมาแบบอิ่มๆ ไม่รู้อิ่มอะไร รู้แต่ว่าวิหารเซนต์โซเฟียคือต้นเหตุแห่งความอิ่ม เลยไปนั่งสลายความอิ่มแถวริมทะเล แล้วก็พบว่า ยิ่งเย็นย่ำยิ่งมีผู้คนออกมานั่งเอ้อระเหยอยู่แถวสวนกลางเมืองและเดินเล่นแถวริม ทะเลมาร์มารา กันให้ว่อนไปหมด
ราตรีดึงดูดผู้คนให้ออกมานั่งตากสายลมและแสงไฟริมทะเลมาร์มารา อิสตันบูลดูกระปรี้กระเปร่ากว่ากลางวันเหมือนเคย แม้กระทั่งมัสยิดสุลต่านอาห์เมต และวิหารเซนต์โซเฟียยังดูเย้ายวนขึ้นเมื่อถูกห่มด้วยแสงนีออน
ทะเลมาร์มารา คือพยานที่ 1 มัสยิดสุลต่านอาห์เมตคือพยานที่ 2 และวิหารเซนต์โซเฟียช่วยเป็นสักขีพยานที่ 3 จากนี้ไปฉันประกาศตัวเป็นเพื่อนสนิทกับอิสตันบูล และคงจะแวะมาเยี่ยมเยือนสารทุกข์สุกดิบเพื่อนคนนี้ทุกปี
ไม่ถึงกับเป็นเพื่อนซี้ แต่นึกถึงเพื่อนคนนี้อยู่ตลอด เป็นแบบนั้นเสมอ
.....................
(เยี่ยมเพื่อนชื่อ'อิสตันบูล' : คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง