Lifestyle

2555น้ำจะมาหรือนาจะแล้ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พอแล้วรวย : 2555 น้ำจะมาหรือนาจะแล้ง : โดย ... อาจารย์ยักษ์ มหาลัยคอกหมู

          ปีนี้ 2555 กระแสการทำนายสภาพอากาศแยกขั้วเป็นสองทาง ฝั่งหนึ่งว่าน้ำมาก อีกฝั่งว่าน้ำน้อยกว่าปีกลาย โดยฝั่งที่ว่าน้ำมากมักเป็นกลุ่มที่เข็ดขยาดจากน้ำท่วมปีที่แล้ว กลุ่มที่มองว่าน้ำจะน้อยส่วนใหญ่เป็นภาครัฐและภาควิชาการ เหตุผลคือดูจากสถิติที่ผ่านๆ มา ซึ่งเขาสรุปแล้วว่าปีที่แล้วปริมาณน้ำมากกว่ามาตรฐานเฉลี่ย 30 ปีอยู่ 30% ปีนี้ไม่น่าจะถึงดูแล้วฝนน่าจะตกมากกว่าค่าเฉลี่ยแค่ 20% ไม่มากเหมือนปีที่ผ่านมา 

          อีกกลุ่มที่เชื่อว่า ปีนี้จะหนักกว่าปีกลาย มีทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักสังเกตการณ์ ผู้เชี่ยวชาญอนาคตศาสตร์ ไปจนถึงโหร หมอดู ซึ่งหากดูจากประมาณการเกิดพายุในทะเลแปซิฟิกปีที่แล้วคาดการณ์ไว้ 28 ลูก มาปีนี้เมื่อต้นปีตัวเลขออกมาที่ 30 กว่าลูก ซึ่งปีที่แล้วพายุเอาหางเฉียดเข้ามา 5 ลูก ยังเละตุ้มเป๊ะทั้งประเทศ ปีนี้อาจารย์ยักษ์ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าโดนหางๆ 5 ลูกเหมือนปีที่แล้ว แต่เผอิญพุ่งเข้าตรงๆ ลูกนึง ประเทศเราจะเป็นยังไง 

          มองไปรอบๆ ตัว ตอนนี้ทุกฝ่ายเริ่มขยับกันแล้ว บ้างลอกคลอง ขุดทางน้ำผ่าน บ้างไปตรวจสอบปริมาณน้ำในเขื่อน พอเห็นว่าน้ำยังอยู่ระดับสูงก็อยากให้ปล่อยๆ ลงมาบ้าง นัยว่าเกรงจะบริหารน้ำผิดพลาด บกพร่อง ปล่อยน้ำเขื่อนมาลดนาไร่เหมือนปีที่ผ่านมา น้ำเหนือเขื่อนปีนี้เลยพร่องเอาไว้ตั้งแต่ต้นปี 

          อาจารย์ยักษ์อยากลองเดาๆ ไปข้างด้านดีว่า พายุปีนี้จะพาน้ำมาน้อยกว่าปีที่แล้ว หากเผอิญพายุที่เข้ามานั้นดันพาน้ำมาตกด้านล่างของเขื่อนเกือบทั้งหมด นั่นหมายความว่าพื้นที่รับน้ำในเขื่อนที่พร่องรอเอาไว้จะไม่ได้ใช้งาน ฝนที่ตกลงมาก็จะพาน้ำลงมาท่วมเหมือนเดิม และเหนือเขื่อนขึ้นไปก็จะยังแล้ง หากเป็นดังนี้ก็หมายความว่า ที่ทำนายกันไว้นั้นถูกทั้งคู่ เพราะเหนือเขื่อนขึ้นไปนาก็แล้ง พอไล่จากเขื่อนลงมาน้ำก็ท่วม 

          ทว่า ประเด็นที่แสดงความกังวลใจนี้ก็เป็นประเด็นของธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดเดาได้ เพราะเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ ผิดกับอีกเรื่องที่ทำให้กังวลใจมากกว่า นั่นคือ เมื่ออาจารย์ยักษ์ดูการบริหารจัดการน้ำของปีนี้ ตั้งแต่นครสวรรค์ลงมาจนถึงอยุธยา กรุงเทพฯ พื้นที่ริมแม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน ไล่ลงมาจนถึงปลายน้ำ การป้องกันน้ำท่วมของทุกพื้นที่ทำเหมือนกันหมดคือ “ตั้งกำแพงกั้นน้ำ” โดยคิดตามหลักง่ายๆ ว่าน้ำผ่านหน้าบ้านฉัน ถ้าฉันกันไว้ได้ น้ำย่อมไหลผ่านไป แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะสบประมาทน้ำมากไปหน่อย เพราะปีที่ผ่านมาใครๆ ก็รู้ว่า น้องน้ำนั้นทั้งดื้อและบ้าพลังทลายกำแพงเสียนักต่อนัก 

          แม้ประสบการณ์จะมีให้เห็นมากมาย แต่อาจารย์ยักษ์เชื่อว่าปีนี้คนจะไม่เชื่อ และยังทำผิดพลาดซ้ำเดิมอีก ยิ่งกว่านั้นจะพยายามท้าทายธรรมชาติด้วยเชื่อว่าเทคโนโลยีของมนุษย์นั้นแน่กว่า ปีนี้เราคงได้เห็นความทุ่มเทเพื่อท้าทาย กำแพงคงจะสูงไปอีก จาก 3 เมตร 5 เมตร เป็น 7 เมตร 8 เมตร เหมือนกับว่ามนุษย์จะขอแก้มือที่แพ้ไปปีที่แล้ว 

          แสดงว่าปีนี้ ต้องวัดพลังระหว่างน้ำที่หลากกับกำแพงกั้นซ้ายบ้างขวาบ้าง ตลอดระยะทางมาจนถึงที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา น้องน้ำจะโดนบีบทุกทาง จนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพุ่งเข้าใส่ กำแพงสูงแค่ไหนอาจารย์ยักษ์คิดว่าทานไม่อยู่ เพราะจากนครสวรรค์ไล่มาอยุธยาไม่มีใครยอมปล่อยให้ออกข้างทางเลย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน ชุมชน โรงงาน โรงพยาบาล โรงเรียน อบต. อบจ. ฯลฯ สถานที่ก่อสร้างทุกแห่งไม่ยอมให้น้ำไหลผ่าน แต่พร้อมใจกับบล็อกน้ำให้ยกสูงขึ้น หวังให้ผ่านไปเร็วๆ  

          ดังนั้น เหตุการณ์ปีนี้ที่ไม่ต้องเป็นหมอดูก็ทำนายได้ คือปีนี้ก็จะยังไม่มีใครเอาอยู่เหมือนเดิม แถมจะหนักหนาสาหัส เพราะความไม่เชื่อ ดื้อรั้น ไม่ฟังบรรพบุรุษ การตัดสินใจแก้ปัญหาแบบตัวใครตัวมัน ไม่ยอมมองทั้งระบบ น้ำมาปีนี้จะเป็นอย่างไร...  

          อาจารย์ยักษ์ไม่อยากจะนึก ส่วนเครือข่ายพวกเรากสิกรรมธรรมชาตินั้น เตรียมพร้อมเอาภูมิปัญญาจัดการน้ำมาแบ่งปันกันเรียนรู้ เพราะเราเชื่อว่า บรรพบุรุษท่านทำไว้ดีแล้ว ใครสนใจติดตามฉบับหน้า อาจารย์ยักษ์จะมาบอกว่าแต่ละภาคนั้นเขามีการจัดการอยู่กับน้ำกันอย่างไร

 

 

----------

(หมายเหตุ : พอแล้วรวย : 2555 น้ำจะมาหรือนาจะแล้ง : โดย ... อาจารย์ยักษ์ มหาลัยคอกหมู)

----------

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ