ตั้งสติก่อนสตาร์ทแล้วอย่าลืมออนไลน์

เว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเว็บรายงานสภาพจราจรแบบอัจฉริยะ ที่กองบังคับการตำรวจจราจร กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับโปรแกรมระบบขนส่งและจราจร ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) พัฒนาขึ้น ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการการจัดการและเผยแพร่ข้อมูลจราจร

 พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เว็บตำรวจจราจรหรือ trafficpolice เปิดให้บริการอยู่แล้วตั้งแต่ปี 2543 แต่จะมุ่งให้บริการถาม-ตอบเกี่ยวกับกฎหมายจราจรเป็นหลัก เฉลี่ยมีผู้ใช้บริการ 1,500-2,000 คนต่อวัน

 “การนำข้อมูลส่วนกลางที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากกล้องซีซีทีวี ข้อมูลจากการรายงานผ่านวิทยุสื่อสารของตำรวจ มาประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์นั้น ถือเป็นข้อดีที่ข้อมูลจะส่งถึงมือประชาชน เพื่อวางแผนการเดินทาง”

 ข้อมูลสภาพจราจรที่รายงานบนเว็บ ได้จากกล้องซีซีทีวีรอบพื้นที่กรุงเทพฯ รวมถึงการรายงานจากการสื่อสารของตำรวจจราจร ที่จะถูกรวบรวมและส่งไปยังเนคเทค ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูล ตรวจสอบ (ในกรณีที่เป็นการแจ้งมาจากประชาชน) และกรอกข้อมูลที่ได้ลงไปในโปรแกรม จากนั้นส่งขึ้นหน้าเว็บไซต์ จึงเป็นข้อมูลตามเวลาจริง

 ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม นักวิจัยจากเนคเทค อธิบายว่า เว็บไซต์นำเสนอภาพการจราจรในมุมกว้างทั่วกรุงเทพฯ ในรูปแผนที่การจราจร โดยถนนแต่ละสายจะแสดงสัญลักษณ์ "สี" ที่ต่างกัน หากเป็นถนนสายสีเขียว แสดงว่า การจราจรคล่องตัว รถวิ่งได้สบาย แต่หากเป็นสีแดง อาจจะต้องคิดหนักเพราะการจราจรในถนนเส้นนั้นติดขัดหนาแน่น

 “ระบบดังกล่าวรองรับผู้เข้าใช้บริการ 5 หมื่นคนต่อชั่วโมง ฉะนั้นจำนวน 1-2 แสนคนต่อวันก็ไม่หวั่น ด้านขวามือของเว็บจะแสดงภาพจากกล้องซีซีทีวี สามารถเลือกเส้นทางที่จะดูได้ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว” นักวิจัยเนคเทค กล่าว

 ขณะเดียวกันด้านบนขวาของหน้าเว็บ จะแสดงระบบสืบค้นหาเส้นทางเป้าหมายเพียงพิมพ์ชื่อถนน หากต้องการใช้บริการแนะนำเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ก็พิมพ์สถานที่ต้นทางและปลายทาง จากนั้นระบบจะประมวลและวิเคราะห์เส้นทางที่เดินทางได้คล่องตัวมากที่สุด และนำเสนอเป็นขั้นตอนอย่างเข้าใจง่าย

 ปัจจุบัน กองบังคับการตำรวจจราจร ได้รับงบสนับสนุนอีกกว่า 300 ล้านบาทในการติดตั้งกล้องวงจรปิดซีซีทีวีเพิ่มอีกใน 77 ทางแยก และกล้องอิมเมจ โพรเซสซิ่ง (Image Processing) ที่สามารถนับจำนวนรถและให้สีแสดงความหนาแน่นของการจราจรอีก 152 ตัว จะติดตั้งเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มข้อมูลการจราจรให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

 พล.ต.ต.ภาณุ มองว่า เส้นทางจราจรแทบจะไม่มีการเปิดใหม่ ขณะที่ระบบรางหรือทางด่วนนั้นเป็นเส้นทางระยะสั้นๆ แสดงให้เห็นแนวโน้มของการจราจรที่จะติดขัดมากขึ้นในอนาคต ดังนั้นสิ่งที่ควรจะทำคือวางแผนการเดินทางล่วงหน้า และเว็บไซต์รายงานการจราจรก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาปัญหาจราจรติดขัด

 ดังนั้นประชาชนจำเป็นต้องฝึกวางแผนการเดินทางให้เป็นนิสัย ตรวจสอบข้อมูลจราจรก่อนทุกครั้งก่อนสตาร์ทรถ

สาลินีย์ ทับพิลา