พระเครื่อง

พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา กับวจี...“พระเครื่องและเสื้อเกราะสำคัญพอกัน”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แม้มีอุปสรรครออยู่มากมายบนเส้นทางสันติ แต่สำหรับ “พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา” ผบ.กรมทหารพรานที่ ๔๑ จ.ยะลา ในฐานะผู้ดูแลรับผิดชอบปฏิบัติการคืนรอยยิ้มให้พี่น้องประชาชนในอำเภอแห่งนี้ ก็ไม่เคยประหวั่นพรั่นพรึงกับขวากหนามนานัปการที่รออยู่เบื้องหน้า และพร้อมจะเดินไปสู

          “ขึ้นชื่อว่าเป็นทหารพรานต้องทำได้ทุกอย่าง เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน ในฐานะข้าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทหารพรานทุกคนพร้อมจะอุทิศชีวิตและปฏิบัติทุกอย่างเพื่อทำให้ผืนแผ่นดินปลายด้ามขวานปรากฏสันติสุขอีกครั้ง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้กับพ่อของแผ่นดิน” นี่คือความตั้งใจในการลงมาปฏิบัติภารกิจใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้ ของ พ.อ.คมกฤช 
 
          ท่ามกลาง “สงครามแย่งชิงประชาชน” นั้น พ.อ.คมกฤช บอกว่า การปฏิบัติหน้าที่ในสนามชายแดนภาคใต้ทุกแห่งล้วนเต็มไปด้วยความเสี่ยงทั้งนั้น เพราะฝ่ายตรงข้ามมีความมุ่งมั่นทำร้ายเจ้าหน้าที่เพื่อข่มขวัญประชาชน ด้วยเหตุนี้การปฏิบัติหน้าที่แห่งนี้ต้องมีทั้งบู๊และบุ๋น โดยช่วงที่ผ่านมาต้องปะทะกับคนร้ายระดับสำคัญชนิดนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น “มะซอบี ยะโก๊ะ” หรือ “คอลี” แกนนำหน่วยคอมมานโด ขบวนการบีอาร์เอ็น โคออดิเนท ซึ่งมีพื้นที่เคลื่อนไหวในเขต อ.บันนังสตา อ.ยะหา ซึ่งมีหมายจับ ป.วิ อาญา ของ สภ.บันนังสตา และ สภ.ยะหา สภ.ปะแต สภ.กรงปินัง รวม ๑๖ คดี
 
          นอกจากนี้ที่บันนังสตา ยังเป็นถิ่นที่อยู่ของ “มะแอ อภิบาลแบ” แกนนำก่อเหตุรุนแรงที่ติดทำเนียบของทางการ ชนิดเคยตั้งรางวัลนำจับถึง ๒ ล้านบาท อีกทั้งมีหมายยาวเป็นหางว่าว ก่อนสิ้นชื่อจากการเปิดฉากปะทะกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
 
          การปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มายาวนานหลายปี กระทั่ง เมื่อไม่นานมานี้ ในภารกิจติดตามเป้าหมายสำคัญคือ “หะยีสการียา หะยีสาเมาะ” แกนนำสำคัญของกลุ่มก่อความไม่สงบ ซึ่งลอบเข้ามาในพื้นที่ จึงได้นำกำลังออกติดตามปิดล้อมตรวจค้น แต่เป้าหมายไหวตัวทัน จึงเกิดการปะทะ ซึ่งภายหลังได้รู้ว่า ในกลุ่มดังกล่าวมี “มะแซ อุเซ็ง” แกนนำระดับสูงคนสำคัญของกลุ่มก่อความไม่สงบ
 
          “ผมมารู้ภายหลังว่า ในกลุ่มคนร้ายที่เราตามตัวครั้งนั้นมี มะแซ อุเซ็งรวมอยู่ด้วย โดยหลักฐานที่พบ คือ แปรงสีฟัน เมื่อนำไปตรวจดีเอ็นเอพบว่า ตรงกับของนายมะแซ รวมไปถึงพบบัตรประจำตัวประชาชนของบุตรชายนายมะแซ อุเซ็ง ตกอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย” พ.อ.คมกฤช กล่าว
 
          อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พ.อ.คมกฤช เคยนำผู้ใต้บังคับบัญชาเปิดฉากปะทะกับ มะแซ อุเซ็ง มาหนหนึ่งแล้ว ที่ อ.ธารโต จ.ยะลา แต่ครั้งล่าสุดไม่คาดคิดว่า แกนนำคนสำคัญของฝ่ายตรงข้ามจะลอบเข้ามาเคลื่อนไหวในเขตบันนังสตา ทั้งที่บ้านเกิดอยู่ในพื้นที่นราธิวาส การปฏิบัติหน้าที่ในดินแดนที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง และมีโอกาสเผชิญหน้ากับคนร้าย จนนำไปสู่การเปิดฉากปะทะซึ่งหน้าชนิดนับครั้งไม่ถ้วน
 
          สิ่งที่นายทหารรายนี้ท่องติดตัวเสมอคือ “ต้องพร้อมทุกนาที” เพราะในสนามชายแดนภาคใต้ ความไม่พร้อมคือ หนทางนำไปสู่อันตรายต่อชีวิต ที่ผ่านมาชีวิตผ่านพ้นวิฤติด้วยการเตรียมพร้อมมาแล้วหลายครั้ง เช่น เสื้อเกราะกันกระสุน หมวกนิรภัย อาวุธปืนประจำกายที่พร้อมใช้งานอยู่ทุกวินาที ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือของที่จำเป็นและต้องอยู่กับตัวทุกโมงยาม ส่วนวัตถุมงคลเป็นดั่งยาทิพย์เพิ่มความมั่นใจ
 
          “พระเครื่องและเสื้อเกราะมีความสำคัญพอๆ กัน พระเครื่องเป็นเกราะป้องกันใจ ช่วยสร้างขวัญเสริม และช่วยทลายความกลัว ส่วนเสื้อเกราะเป็นเกราะช่วยป้องกันกาย ซึ่งทั้ง ๒ อย่างช่วยรักษาลมหายใจผมมาหลายครั้ง อาวุธคู่กายก็ช่วยให้ผมตอบโต้คนร้ายได้ทันท่วงทีมาแล้วก็หลายหน แต่หากเราไม่รู้จักเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งร่างกาย จิตใจ อาวุธยุทโธปกรณ์ โอกาสที่เราจะตกเป็นเหยื่อสังเวยความรุนแรงย่อมมีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน” พ.อ.คมกฤช กล่าว
 
          นอกจากเสื้อเกราะคู่ชีพ และอาวุธประจำกายแล้ว ยังมี “กะลาตาเดียว” ที่พี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่เลี่ยมกรอบพลาสติก นำมามอบให้เมื่อหลายปีก่อน โดยพกติดตัวเป็นประจำทุกครั้งก่อนออกสนาม อีกทั้งยังมี เหรียญพระเจ้าตากสินมหาราช ที่มีผู้นำมามอบให้ ส่วนที่ขาดไม่ได้คือ “ครุฑ” วัดบางนา โดยเพื่อนนักธุรกิจยื่นให้ด้วยเห็นว่าเป็นทหารราชองครักษ์ ควรจะมีสิ่งที่เป็นดั่งสัญลักษณ์สำคัญในการทำหน้าที่ค้ำจุนราชบัลลังก์ วัตถุมงคลที่ติดตัวชุดนี้ได้มาจากชาวบ้าน และผ่านประสบการณ์ปะทะ เจอซุ่มยิง ระเบิดมานับครั้งไม่ถ้วน และก็ผ่านพ้นมาได้อย่างสวัสดิภาพ
 
          พ.อ.คมกฤช พูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า “ผมพกเครื่องรางที่รับจากผู้ใกล้ชิด โดยเฉพาะจากพี่น้องมุสลิม ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะให้ของดีกับใคร ทำให้รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้คือเกราะป้องกันชีวิตชั้นดี เพราะหากเขาไม่รัก ไม่เชื่อในตัวเรา คงไม่มอบสิ่งดีให้คุ้มครองเรา โดยส่วนตัวจึงเชื่อว่า ของจะดีได้ต้องเกิดจากการทำความดี เพราะสิ่งนี้จะเกราะคุ้มภัยช่วยให้เราฝ่าวิกฤติมาได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะเทวดาประจำตัวจะช่วยปกปักรักษาให้เรามีลมหายใจอยู่ได้ก็ต่อเมื่อเรารู้จักสร้างกรรมดี กลับกันหากทำในสิ่งที่ไม่เป็นมงคลต่อให้นิมนต์พระขึ้นคอนับร้อยองค์ก็คงไม่สามารถช่วยให้มีชีวิตยั่งยืนได้แน่นอน”

“ไล่ผี ในค่ายเสือพราน”
          ด้วยภารกิจของทหารพราน หรือทหารประจำถิ่น นอกจากจะต้องเข้าถึงมวลชน เพื่อสร้างรอยยิ้มให้เกิดกับชาวบ้านแล้ว การเตรียมพร้อมด้านร่างกาย รวมทั้งหมั่นฝึกทบทวนด้านอาวุธและยุทธวิธีเป็นสิ่งสำคัญ
 
          พ.อ.คมกฤช เล่าว่า ในช่วงไม่นานมานี้ได้เกิดเหตุที่หลายคนเรียกว่า “ผีเข้า” โดยเฉพาะทหารพรานหญิง ที่มีอาการกรีดร้อง คร่ำครวญโหยหวน จนไฟดับทั้งค่าย ไม่เป็นอันต้องฝึกฝน และต้องหยุดพักชนิดไม่สามารถทำการใดๆ ได้ ในนาทีนั้นด้วยฐานะผู้บังคับบัญชาจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้ลูกน้องเสียขวัญ และที่สำคัญต้องให้ภารกิจหน้าที่ของทหารพรานสามารถดำเนินต่อไปได้ จึงตัดสินใจนำครุฑที่ห้อยคอออกมาพร้อมกล่าวเสียงดังว่า
 
          “ทุกคนในที่นี้ล้วนมีภารกิจดูแลทุกข์สุขประชาชน หากยังเป็นอยู่เช่นนี้แล้วทหารพรานจะออกไปบำบัดทุก บำรุงสุขมวลชนได้อย่างไร”
 
          ไม่นานทุกอย่างก็กลับสู่ภาวะปกติ และกระทั่งบัดนี้ภายในค่ายไม่ปรากฏอาการที่เรียกว่า ทหารพรานถูกผีเข้าอีกเลย และทหารพรานทุกนายสามารถฝึกฝนและออกไปปฏิบัติภารกิจสร้างสันติสุขให้พี่น้องประชาชนได้ตามปกติ

 “พระเครื่องเป็นเกราะป้องกันใจ ช่วยสร้างขวัญเสริม และช่วยทลายความกลัว ส่วนเสื้อเกราะเป็นเกราะช่วยป้องกันกาย ซึ่งทั้ง ๒ อย่างช่วยรักษาลมหายใจผมมาหลายครั้ง”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ