สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) 17 ส.ค.นี้ กลายเป็นอีกหนึ่งเวทีที่ถูกจับตามอง เหตุเพราะคำสั่งคสช.เด้งฟ้าแลบ
เรื่องโดย มังคุด นสพ.กรุงเทพธุรกิจ หน้า 14 คอลัมน์ บนความเคลื่อนไหว ตีพิมพ์ 17 ส.ค. 61
งานครบรอบวันสถาปนา 19 ปี สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) 17 ส.ค.นี้ กลายเป็นอีกหนึ่งเวทีที่ถูกจับตามอง เหตุเพราะคำสั่งคสช.เด้งฟ้าแลบ พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร พ้นจากเก้าอี้เลขาธิการปปง.หลังดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการตัวจริงได้ไม่ถึง 2 เดือน โดยมีพล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รองเลขาธิการปปง. ซึ่งทาบโอนมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รักษาการแทนเลขาธิการไปจนกว่าจะได้ตัวผู้เหมาะสม แว่วว่า การมอบโล่ข้าราชการดีเด่นให้กับข้าราชการปปง.ประมาณ 10 นาย ซึ่งมีชื่อพล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ ในฐานะเลขาธิการปปง.รวมอยู่ด้วย แต่ทว่าเมื่อมีความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน จึงไม่แน่ใจว่า ผลรางวัลจะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย หรือไม่อย่างไร
คดีทุจริตออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน เนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ ในเขตอ.ภูเรือ จ.เลย ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่า เป็นการนำสค. 1 บินจากอ.ด่านซ้าย มายื่นขอออกเอกสารสิทธิ์ นส .3 ก. ในเขตป่าของอ.ภูเรือ ซึ่งคดีอาญาขาดอายุความไปแล้ว แต่เมื่อผลการตรวจสอบชัดเจนจนผู้ครอบครองคนปัจจุบันประสงค์จะมอบคืนที่ดิน พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการป.ป.ท. จึงนัดลงพื้นที่ จ.เลย เพื่อดำเนินการให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ คืนป่า 2,000 ไร่ ให้กลับคืนเป็นสมบัติของชาติต่อไป
27 ส.ค.นี้ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จัดการสัมมนาระดับชาติ เรื่องอัตลักษณ์บุคคลกับกระบวนการยุติธรรมและความมั่นคงของชาติ ภายในงาน ดร.ธันวดี สุเนตนันท์ และดร.วรพันธ์ คู่สกุลนิรันดร์ คณะที่ปรึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล จะนำเสนอนโยบายเรื่องการจัดทำระบบฐานข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลรูปแบบและแนวทางการบูรณาการข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลในประเทศไทย ประสบการณ์และความสำเร็จของต่างประเทศ
จำนวนผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ ขยับเพิ่มขึ้นจาก 350,000 คน ทะลุ 360,000 คนไปแล้ว การเพิ่มขึ้นแบบหยุดไม่อยู่ ส่งผลต่อการคุมขังซึ่งจะยากในการจำแนกและจัดโปรแกรมปรับปรุงพฤตินิสัย ฝึกอาชีพ และยังเป็นภาระต่อระบบงบประมาณค่าอาหารเลี้ยงนักโทษ ซึ่งสำนักงบประมาณยังจำกัดจำเขี่ย งบประมาณรายหัวอยู่ที่สองแสนคนเศษ แนวคิดที่จะผลักดันงานราชทัณฑ์ไปเป็นเรือนจำเอกชนจึงไม่ตอบโจทย์ เหตุเพราะจำนวนที่มากเกินความจุของเรือนจำ การจัดมาตรการผลักดันคนที่ไม่สมควรอยู่ในเรือนจำออกไปน่าจะเป็นทางออกที่เป็นไปได้มากกว่า เป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดี ซึ่งควรได้รับการปล่อยชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด กับกลุ่มผู้ต้องโทษจำคุกระยะสั้น โทษไม่เกิน 5 ปี ที่ควรได้รับโทษอาญาอื่น ร่วมกับการทำงานบริการสังคมอย่างเข้มงวด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง