คุณภาพดี-ราคาเหมาะสม

          มีคนบอกว่ากระแส “ฟู้ดทรัค” นั้นเริ่มแผ่ว หลังจากที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้คนในสังคมเมืองมาระยะหนึ่ง แต่พบว่ายังมีกิจการฟู้ดทรัคอีกหลายรายที่ยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้และอยู่ได้ดีเสียด้วย

          ฟู้ดทรัค (Food Truck) คือร้านอาหารรถเคลื่อนที่ ด้วยจุดเด่นที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก นอกจากจะมีทำเลหลักแล้ว ยังรับออกงานอีเวนท์ต่างๆ อย่างไม่ขาดสาย ทั้งมีมาตรฐานคุณภาพ รสชาติอร่อย และราคาที่สมเหตุสมผล ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้กิจการร้านอาหารประเภทนี้ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค... ไม่ใช่ดีแค่ตามกระแสเท่านั้น

          “เจี๊ยบ ผัด ปู” คือกิจการร้านอาหารประเภทฟู้ดทรัค ที่ทำมานานกว่า 7 ปีแล้ว โดยเริ่มต้นมาจากการเป็นร้านอาหารตั้งอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่เมื่อปรับรูปแบบใหม่เป็นฟู้ดทรัค พบว่ามียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปัจจุบันใช้กลยุทธ์การเข้าถึงผู้บริโภคในด้านราคาที่เข้าถึงได้และขยายกิจการด้วยการขายแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ “เจี๊ยบ ผัด ปู”

 

 

          “จตุพร พัฒนมงคล” หรือ “เจี๊ยบ” ผู้ก่อตั้งกิจการ “เจี๊ยบ ผัด ปู” เล่าว่า ทำเลหลักของตนเองอยู่ที่ตลาดนัดอินเตอร์โซน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต และยังรับออกงานต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีคนรู้จักเรามากขึ้น ก็จะชวนไปออกงานต่างๆ ขณะเดียวกันได้ขยายแฟรนไชส์ จนปัจจุบันมีรถรวม 6 คัน และภายในสิ้นเดือนนี้จะเพิ่มอีก 2 คัน ซึ่งแฟรนไชส์ เจี๊ยบ ผัด ปู ปัจจุบันถือว่าครอบคลุมในหลายๆ พื้นที่ มีทั้งที่ จ.ชัยนาท จ.ฉะเชิงเทรา และจ.ชัยภูมิ เป็นต้น แต่ละคันก็จะมีพื้นที่เป็นของตัวเอง ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะขยายแฟรนไชส์ออกไปอย่างต่อเนื่อง

          การตลาดจะโปรโมทผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะช่องทางสังคมออนไลน์ที่มีเพจเฟซบุ๊กในชื่อ “เจี๊ยบ ผัด ปู” และทางไลน์ : JeabPadPoo

          “ผมทำร้านอาหารมาก่อนที่อยุธยา มีเมนูหลักๆ ที่ลูกค้าติดใจคือผัดผงกะหรี่ ถือเป็นจานเด็ดของเราเลยก็ว่าได้ เป็นผัดผงกะหรี่ที่ค่อนข้างแห้งต่างจากทั่วไป และรสชาติกำลังดี จากนั้นเห็นช่องทางว่าหากสามารถเคลื่อนที่ได้น่าจะทำให้มียอดขายที่ดีขึ้น จึงเปลี่ยนมาใช้เป็นรถตู้ขนาดเล็กก่อน แต่ค่อนข้างมีปัญหาจึงเปลี่ยนมาเป็นในรูปแบบของฟู้ดทรัค ซึ่งก็พบว่าการที่เราวิ่งเข้าไปหาลูกค้าแทนที่จะมานั่งรอให้ลูกค้าเข้ามาเอง ก็ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นแตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด คือเพิ่มเป็น 2 เท่าตัว คือตอนนั้นจากวันละ 3 พันบาทก็เพิ่มเป็นวันละ 7-8 พันบาท ซึ่งที่ผมทำ 2 ปีแรกก็คืนทุนได้”

          สำหรับรถที่ใช้ในปัจจุบัน คุณเจี๊ยบบอกว่า เป็นคนออกแบบเอง ซึ่งจะแตกต่างจากรถที่ผลิตจากโรงงานทั่วไป คือจะเน้นที่การขายอาหารมากกว่าการเน้นที่ความสวยงามของตัวรถ โดยได้ติดต่อกับ ซูซูกิเองโดยตรง จึงทำให้มีต้นทุนที่ถูกกว่า ส่วนวัตถุดิบก็ซื้อกับแพที่มหาชัยโดยตรง ได้ต้นทุนวัตถุดิบในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ทำให้เราสามารถขายได้ในราคาที่สมเหตุสมผล

          “เจี๊ยบ ผัด ปู” จะมีเพียง 3 เมนูเท่านั้น คือ ผัดผงกะหรี่ปู หมึก ข้าวผัดปู และข้าวไข่เจียวปู รวมทั้งแฟรนไชส์ของทางร้านเองก็จะมีแค่ 3 เมนูนี้เช่นกัน โดยส่วนผสมของวัตถุดิบเราจะมีน้ำซอสที่ปรุงสำเร็จรูปแล้วให้ เมื่อซื้อไปก็ผัดได้ทันที

 

 

          สำหรับค่าแฟรนไชส์นั้น แรกเข้ามูลค่า 6 หมื่นบาท แบ่งจ่ายออกเป็น 2 งวด พร้อมรถป้ายแดง ซึ่งรถจะแยกผ่อนกับทางไฟแนนซ์ต่างหาก คนที่จะมาซื้อแฟรนไชส์กับผมจะต้องถามก่อนว่ามีตลาดรองรับหรือไม่ หากไม่มีก็จะมีเครือข่ายแนะนำให้ออกตลาดและออกงานอีเวนท์ในพื้นที่นั้นๆ โดยที่เรายังคงติดตามผลตอบรับของแฟรนไชส์ของเราด้วยว่ายอดขายเป็นอย่างไร ผลตอบรับของลูกค้าเป็นอย่างไร เพื่อนำมาปรับปรุงต่อไป

          เจ้าของกิจการ “เจี๊ยบ ผัด ปู” บอกด้วยว่า เน้นขายอาหารง่าย ราคาถูก ซึ่งจะทำให้ทางร้านสามารถกระจายตัวและทำตลาดได้ง่ายกว่ารายอื่น

          “เจ้าอื่นส่วนใหญ่ไม่ได้เน้นกระจายร้านค้าแต่เน้นที่ขายสินค้าของตนเอง ทั้งมีราคาที่ค่อนข้างสูงมาก ผู้บริโภคเข้าถึงยาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดฟู้ดทรัคอิ่มตัวและอิ่มตัวเร็วมาก แต่สำหรับตนเองจะใช้จุดนี้แหละคือจุดที่หลายๆ คนมองว่าฟู้ดทรัคมีไว้สำหรับถ่ายรูปเก๋ๆ เท่านั้น แต่ผมจะกระจายออกไปให้ได้มากที่สุด เพราะว่าราคาอาหารของร้านผมเป็นราคาที่แตะต้องได้ แม้จะไม่ได้สร้างกำไรให้เรามากมาย แต่ก็จะเน้นการขายที่ปริมาณมากๆ ซึ่งยอดขายก็ดีมากขึ้น”

          ขณะที่ “คุณฮั๊ว ขาหมูติดล้อ” คือแบรนด์ฟู้ดทรัคข้าวขาหมูสูตรโบราณ โดย “สาธิต นาควิเชียร” หรือ “กุ้ง” ที่ทำกิจการร่วมกับคุณแม่ “ลำไย นาควิเชียร” มีทำเลหลักอยู่ที่ “เวนิส ดี ไอริช” ย่านวัชรพล และรับวิ่งออกงานอีเวนท์ต่างๆ

          “กุ้ง” ผันตัวจากหนุ่มวิศวกร และมาเป็นเซลส์ขายของก่อนจะมาเปิดกิจการฟู้ทรัค “คุณฮั้ว ขาหมูติดล้อ” โดยเขาเล่าว่าการทำงานได้เงินเดือนสูงๆ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงตามไปด้วย จนรู้สึกเบื่อจึงมาเปิดกิจการเป็นของตัวเองและอยู่อย่างพอเพียงในแบบปัจจุบัน ซึ่งกิจการร้านอาหารสามารถเลี้ยงตัวอยู่ได้เอง มีรายได้เข้าต่อเนื่อง โดยตนเองไม่มีภาระหนี้สินอื่นใด

 

 

          กุ้งบอกว่าเปิดร้านอาหารมาได้ 3 ปีแล้ว แต่เริ่มต้นด้วยการขายไส้กรอกอีสานเรื่อยมาจนคิดว่าไม่ใช่ธุรกิจของเราโดยตรง จึงปรึกษากับคุณแม่ และมาลงตัวที่ข้าวขาหมู ซึ่งเป็นสูตรโบราณแบบไทยๆ ของพ่อและแม่ จากนั้นจึงเริ่มเรียนรู้และทำเองมาตลอด

          “ตอนนั้นกระแสฟู้ดทรัคยังไม่แรงนัก ผมได้แนวคิดเริ่มต้นมาจากการที่ได้เห็นในต่างประเทศเขาทำกันมาก่อน จึงเห็นว่าน่าสนใจดี ตอนนั้นในบ้านเรามีไม่กี่คัน จึงคิดว่าอาชีพนี้น่าสนใจเพราะเป็นอาชีพอิสระ เราอยากทำ และตอนนั้นก็คิดว่าอยากจะหยุดเมื่อไรก็ได้ อีกอย่างในเรื่องการตลาดจะเป็นการวิ่งเข้าหาลูกค้าโดยตรง โดยไม่ต้องรอลูกลูกค้าจะเข้ามาเมื่อไร ส่วนทำเลหลักตอนแรกเริ่มที่ตลาดรถโบราณ จนล่าสุดย้ายมาที่เวนิส ดี ไอริช ได้ปีกว่าแล้ว”

          ที่เวนิส ดี ไอริช นั้น แม้ว่ายอดขายจะไม่หวือหวา แต่อยู่แบบสบายๆ มีรายได้เข้ามาอย่างเดียวโดยไม่มีภาระหนี้อย่างอื่น เลยอยู่ได้โดยไม่ซีเรียสนัก แต่ก็จะเน้นการคงคุณภาพของอาหารของเราไว้ จึงทำให้ยอดขายเรายังอยู่ได้ ส่วนการมองไปในอนาคตนั้น เคยมองในเรื่องการขยายในรูปแบบแฟรนไชส์เหมือนกัน ซึ่งได้ปรึกษาเพื่อนว่าจะทำอย่างไรที่เราจะสามารถคงคุณภาพของข้าวขาหมูไว้ได้ แต่ตอนนี้ในส่วนของข้าวขาหมูเองคงจะเก็บไว้สำหรับเป็นกิจการของครอบครัว เพราะยังหาวิธีการคุมสูตรและคุณภาพไม่ได้

          แต่หากจะขยายจริงๆ จะเป็นฟู้ดทรัคอีกคัน ขายก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นสูตรโบราณ ซึ่งเป็นสูตรของคุณแม่เช่นกัน และคิดว่านี่น่าจะเป็นทางเลือก

          เจ้าของกิจการ “คุณฮั้ว ขาหมูติดล้อ” บอกด้วยว่า กระแสฟู้ดทรัคในระยะหลังมานี้ยอมรับว่าเริ่มซบเซาลง แต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของแต่ละรายด้วย ซึ่งร้านผมอยู่ได้ ขณะที่คนใหม่ๆ เข้ามาเขามองว่านี่เป็นเทรนด์ และนำอาหารจังก์ฟู้ดเข้ามา อีกทั้งกำหนดราคาค่อนข้างสูง ทำให้ผู้บริโภคที่เข้ามาในตอนแรกก็เริ่มกลัว ขณะเดียวกันคุณภาพก็ไม่ได้สมเหตุสมผลกับราคาที่จำหน่ายเลย

 

 

          “คือแม้ว่าราคาจำหน่ายจะสูง หากอาหารดีมีคุณภาพดี รสชาติดี ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าราคาแพงแล้วยังคุณภาพไม่ดีด้วย นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผมเคยพบเห็นมานะ ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คนคิดว่าฟู้ดทรัค ขายอาหารแพง จึงเริ่มเป็นกระแสมา และตอนนี้ฟู้ดทรัคในกรุงเทพฯ มี 200-300 คัน แย่งตลาดกันค่อนข้างมาก รายใหม่ๆ ที่จะเข้ามาอาจจะยากถ้าชื่อไม่คุ้น แต่สำหรับผมต้องยึดตลาดหลักไว้ก่อน และออกงานอีเวนท์ต่างๆ ต่อเนื่อง”

          กุ้งบอกด้วยว่า ปัจจัยที่ทำให้ร้านคุณฮั๊ว ขาหมูติดล้อ ยังคงยืนหยัดอยู่ในแวดวงฟู้ดทรัคได้นั้น คือการที่เราพยายามรักษาในเรื่องราคาให้เหมาะสมและมีคุณภาพ ซึ่งการกำหนดราคาเองก็สำคัญและควรกำหนดราคาให้เหมาะสมกับพื้นที่ด้วย โดยข้าวขาหมูร้านตนเริ่มต้นที่ราคาจานละ 50 บาท เน้นให้สามารถทานอิ่มได้ในจานเดียว และด้วยการคงคุณภาพมาตรฐานรสชาติเดียว ซึ่งค่อนข้างเน้นในเรื่องคุณภาพ อย่างข้าวก็จะใช้ข้าวหอมมะลิ ขณะเดียวกันก็จะเน้นความเป็นกันเองกับลูกค้าด้วย