ข่าว

“ไอซ์เดีย” ไอศกรีมออกแบบได้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ขายความคิดสร้างสรรค์-เสิร์ฟความแตกต่าง

 

เรื่อง : อนัญชนา สาระคู

          หากมองกันแบบผ่านๆ บอกได้คำเดียวว่า นี่คือ “ทุเรียน” ชัดๆ คือทุเรียนที่แกะออกมาเป็นพูๆ มีทั้งเนื้อทุเรียนและเปลือก หรือถ้าจะลองแงะดู ก็จะมีเม็ดทุเรียนอยู่ด้านในอีกด้วย
          แต่เดี๋ยวก่อน... การจะบอกว่าเป็นทุเรียนทันทีเลย ก็คงไม่ใช่ หรือบอกว่าไม่ใช่ทุเรียน ก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะนี่ คือ “ไอศกรีมทุเรียน” ซึ่งมีส่วนผสมของทุเรียนพันธุ์ไทยแท้ๆ เพิ่มเติมด้วยความคิดสร้างสรรค์ ใส่ความแปลกใหม่เข้าไป ก็สามารถดึงดูดความสนใจจากบรรดาสาวกผู้ชื่นชอบทุเรียน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มากทีเดียว
          ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะสิ่งที่เห็น คือไอศกรีมที่สามารถกินได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เนื้อ เม็ด และเปลือกทุเรียน จะสั่งมานั่งกินแบบเก๋ๆ ภายในร้าน หรือจะซื้อกลับบ้าน กินทุเรียนแบบสบายใจโดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นว่าจะรบกวนคนอื่น ก็ทำได้เช่นกัน

“ไอซ์เดีย” ไอศกรีมออกแบบได้

          ถามว่า... แล้วจะซื้อกินที่ไหนได้ ก็บอกเลยว่าต้องที่ร้าน “ไอซ์เดีย-Icedea” ซึ่งมีเพียงสาขาเดียวเท่านั้น คือที่ชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (หอศิลป์กรุงเทพฯ) ฝั่งตรงข้ามมาบุญครองเซ็นเตอร์ หรือในอนาคตก็อาจจะหาได้ตามเอาท์เลทขนาดย่อมๆ ของทางร้านไอซ์เดีย บางแห่งเท่านั้น หรืออีกทีก็ในต่างประเทศเลย เพราะรสชาติและรูปแบบสไตล์นี้ การจะหาลิ้มชิมรสกันนอกเหนือจากร้านไอซ์เดีย คงไม่มี
          และขณะนี้ ทางเจ้าของความคิดสร้างสรรค์ไอศกรีมทุเรียน กำลังอยู่ระหว่างการจดทรัพย์สินทางปัญญา คือลิขสิทธิ์ศิลปกรรม ลิขสิทธิ์ศิลปกรรมประยุกต์ ที่เป็นการนำเอาศิลปกรรมต้นแบบที่สร้างขึ้นมาประยุกต์ใช้ และอนุสิทธิบัตร กระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์
          ร้าน “Icedea” หรือ Idea in Ice cream-ความคิดสร้างสรรค์ในไอศกรีม ชื่อร้านบอกความชัดเจนแบบตรงไปตรงมา แต่ก็ได้สร้างความแตกต่าง ภายใต้การแข่งขันของร้านไอศกรีมในปัจจุบันที่มีค่อนข้างสูง และไม่ได้แข่งขันกันเฉพาะร้านไอศกรีมเท่านั้น ยังหมายถึงร้านขนมหวาน แบรนด์จากเมืองนอกก็ยังมีอีกเพียบ

“ไอซ์เดีย” ไอศกรีมออกแบบได้
          โดย “พริมา จักรพันธุ์ ณ อยุธยา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอซ์เดีย จำกัด พ่วงด้วยตำแหน่ง นักออกแบบไอศกรีม บอกให้ฟังว่า ตั้งแต่เปิดตัว ไอศกรีมทุเรียน ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมากจนผลิตไม่ทัน และยังทำให้ทางร้านได้ฐานลูกค้าที่กว้างมากขึ้นนอกเหนือจากกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่เข้ามา ยังรวมถึงกลุ่มผู้ใหญ่ที่ชอบทุเรียนกันอยู่แล้ว เมื่อมาที่ร้าน ก็ยังเปิดใจรับกับเมนูไอศกรีมในแบบอื่นๆ ได้ด้วย เพราะมองเป็นเรื่องสนุกและสามารถกินได้ ซึ่งเมนูไอศกรีมทุเรียน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเพิ่มกำลังการผลิต และเจรจาการส่งออก
          ส่วนที่มาของแนวคิดการผลิตไอศกรีมทุเรียนนั้น เธอเล่าว่า เริ่มจากการที่กลุ่มลูกค้าหลักของทางร้าน ซึ่งจะเป็นนักท่องเที่ยวเสียส่วนใหญ่ มีทั้งจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง และไต้หวัน เมื่อมาที่ร้านก็มักจะถามหาไอศกรีมทุเรียนกันมาก เมื่อต้นปีที่ผ่านมาจึงคิดว่า พอถึงหน้าทุเรียนก็จะทำไอศกรีมทุเรียนออกมา
          “แน่นอนว่าไอศกรีมในแบบของร้านไอซ์เดียนั้นหมายถึงว่าจะต้องมีไอเดียสอดแทรกเข้าไป จึงเริ่มต้นจากการคิดว่าจะทำรูปแบบไหนดี จึงมาลงเอยที่หน้าตาเป็นแบบทุเรียนเลย เพราะว่าเมนูอื่นๆ ของทางร้านก็จะมีเมนูที่ทำเหมือนอาหารคาวมาแล้ว คือทำมาเต็มที่ตลอด จึงสรุปหน้าตาของไอศกรีมทุเรียนให้มีรูปแบบเป็นเหมือนทุเรียนเลย และเป็นทุเรียนที่มีทั้งเปลือกและเม็ดด้วย”
          นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดต่อยอดไปอีก คือเรามีความตั้งใจที่จะให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านได้ด้วย จึงคิดทำแพ็กเกจให้สอดคล้องเหมือนกับทุเรียนแกะแล้วและแพ็กอยู่ในถาดรองที่มีพลาสติกหุ้ม ซึ่งเป็นแบบที่วางขายกันตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป จึงใส่ไอเดียเข้าไปให้สุดๆ ด้วยการเติมบาร์โค้ดลงไปบนกล่องแพ็กเกจไอศกรีมด้วย
          ส่วนช่องทางจำหน่ายปัจจุบัน จะมีเฉพาะที่ร้านไอซ์เดีย ซึ่งมีสาขาเดียว หรือถ้าจะสั่งซื้อ 12 ชิ้นขึ้นไปก็ส่งให้ได้ ซึ่งช่องทางสั่งซื้อจะเป็นทางแฟนเพจของเฟซบุ๊กในชื่อเดียวกับชื่อร้านเป็นหลัก
          “การผลิตไอศกรีมทุเรียนตอนนี้คือผลิตวันต่อวัน และเรากำลังเพิ่มการผลิต ด้วยการลงทุนเพิ่มเครื่องจักร เพราะกำลังการผลิตยังไม่เพียงพอที่จะไปวางขายช่องทางอื่น แม้ว่าจะมีคนอื่นมาติดต่อให้ไปวางจำหน่ายในพื้นที่อื่นก็ตาม คือเสนอให้เราไปออกร้านขายไอศกรีม ส่วนการส่งออกไปต่างประเทศ ขณะนี้มีคนสนใจติดต่อเข้ามาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้จะเน้นไปที่การเพิ่มกำลังการผลิตก่อน ให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือหลักพันชิ้นต่อวันก็น่าจะสามารถทำได้ และเมื่อกำลังการผลิตเพียงพอก็จะขยายไปในช่องทางอื่นๆ ได้”
          ที่มองไว้เรื่องการขยายช่องทางจำหน่ายนั้น คือจะมองในส่วนของการเปิดเอาท์เลท ที่มีสเกลขนาดเล็ก เน้นให้ลูกค้าได้ซื้อกลับบ้าน และมองพื้นที่ต่างจังหวัดมากกว่า ส่วนการส่งออกก็เริ่มพูดคุยติดต่อกันไปแล้วบ้าง เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และฮ่องกง ที่แสดงความสนใจเข้ามา แต่ก็ยอมรับว่าการขนส่งไอศกรีม ค่อนข้างมีข้อจำกัดอยู่บ้างในเรื่องการควบคุมอุณหภูมิ และการที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม บางประเทศก็จะต้องมีใบรับรองเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นม ก็ต้องมีการขอใบรับรอง โดยในต่างประเทศ มองในเรื่องการขยายในรูปแบบแฟรนไชส์
          ทั้งนี้ ก่อนจะมาเป็นร้านไอซ์เดียนั้น “พริมา” บอกว่า ได้ใช้หลักการออกแบบ ตามที่เรียนจบมาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ด้านภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนความรู้ด้านการทำธุรกิจ มาศึกษาเพิ่มเติมเอง ขณะที่มีครอบครัวเป็นที่ปรึกษา
          โดยเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เริ่มต้นด้วยการรับออกแบบให้ลูกค้าทั่วไป รับออกแบบไอศกรีม ให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ร้านของลูกค้า หรืองานอีเวนท์ต่างๆ จนเมื่อปี 2552 ทางหอศิลป์เห็นว่าผลงานของเราเป็นงานศิลปะ ก็เลยชวนมาทำเอ็กซิบิชั่นในพื้นที่ของหอศิลป์ด้วย จึงคิดทำเป็นคอนเซ็ปต์ไอศกรีมโชว์รูม จัดแสดงผลงานการออกแบบที่เราออกแบบให้แก่ลูกค้า
          “ไปๆ มาๆ ปรากฏว่าลูกค้าเห็นผลงานที่เราออกแบบจากงานอีเวนท์ต่างๆ ซึ่งก็มีหน้าตาค่อนข้างแปลก และดูน่ากิน อยากกินในแบบนี้บ้าง ตอนหลังจึงคิดได้ว่า ไอศกรีมหน้าตาแปลกๆ ลักษณะนี้น่าจะไปได้ และไม่เฉพาะออกงานอีเวนท์เท่านั้น จึงมาเปิดร้านเป็นของตัวเอง และดีไซน์เมนู ตามโจทย์ของลูกค้าของเรา”
          เจ้าของร้านไอซ์เดีย เล่าว่า กลุ่มเป้าหมายของเราคือกลุ่มคนที่ชอบถ่ายรูป จึงมาคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะดึงดูดให้เขามา และอยากถ่ายรูปโปรดักส์ของเรา และแชร์ภาพนั้นออกไป จึงมาลงเอยที่ไอศกรีมเมนูหน้าตาแปลกๆ แบบนี้ ส่วนตัวเองเป็นนักออกแบบไอศกรีม ก็จะออกแบบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับไอศกรีม ตั้งแต่รสชาติ หน้าตา และแพ็กเกจจิ้ง ซึ่งเราผลิตเองทั้งหมด รวมไปถึงการออกแบบวิธีการกิน และออกแบบให้สอดคล้องกับโจทย์ที่ลูกค้าให้มา

“ไอซ์เดีย” ไอศกรีมออกแบบได้
          เมนูไอศกรีมที่ร้านไอซ์เดียมี ก็อย่างเช่น ไอศกรีมทงคัตซึ ซึ่งจะมีหน้าตาเหมือนหมูทอดทงคัตซึ และจะมีรสชาติต่างๆ ให้เลือก เช่น วานิลลา, ชาเขียว, เจแปนนิส เมล่อน และบราวนี่ เป็นต้น ส่วนเมนูอื่นๆ คือไอศกรีมสเต็ก จะมีหน้าตาเหมือนกับสเต็ก ทั้งยังสามารถเลือกระดับความสุกของตัวสเต็กได้ด้วย มีทั้งแบบสุก และกึ่งสุกกึ่งดิบ คือแบบกึ่งสุกนี่ พอผ่าเนื้อไอศกรีมออกมาแล้วจะมีสอดไส้สีชมพูข้างใน ยังมีสเต็กปลา และบานาน่า ฟิลเล่ สเต็ก ซึ่งจะเป็นรสโตเกียวบานานา
          ส่วนเมนู เวิลด์ คับ บราวนี่ จะเป็นไอศกรีมเสิร์ฟคู่กับบราวนี่สนามหญ้า หน้าตาออกมาจะเป็นแบบสนามหญ้าเลย หรือจะเป็นเมนูน้ำมะนาวคุณยาย ซึ่งจะเป็นน้ำมะนาวและมีฟันปลอมคุณยาย ซึ่งสามารถกินได้จริง ลูกค้าสามารถถ่ายรูปเซลฟี่ สนุกๆ ได้ และอีกเมนูคือ ไอศกรีมโกลบอล วอร์มมิ่ง ที่ไอศกรีมเมื่อละลายแล้วจะเป็นเหมือนโลกละลายเพราะโลกร้อน หรือจะเป็นไอศกรีมซาลาเปาไส้ไหล เป็นต้น
          บอกได้เลยว่า เมนูไอศกรีมของทางร้าน “ไอซ์เดีย” นอกจากจะดูแปลกใหม่สุดๆ แล้ว พอฟังทางเจ้าของร้านบรรยายมาก็รู้สึกหิว จนต้องขอไปลองสักครั้ง หรือจะไปนั่งถ่ายรูปเซลฟี่ ก็น่าจะสนุกดี ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า ร้านเราจะเป็นที่รู้จักกันในหมู่คนที่นิยมไอศกรีมแบบแนวๆ หากจะนึกถึงอะไรแบบแนวๆ แบบนี้ ก็ต้องที่ร้าน “ไอซ์เดีย”
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ