ข่าว

ต่อยอดค้าพลอยสู่'อัญมณี'ล้ำค่าธุรกิจยุคใหม่ครอบครัว'นิยมกิจ'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ต่อยอดค้าพลอยสู่'อัญมณี'ล้ำค่าธุรกิจยุคใหม่ครอบครัว'นิยมกิจ' : คมคิดธุรกิจนิวเจน ดลมนัส กาเจ

          ตั้งแต่ยังเยาว์วัยของนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ในท้องถิ่นวัย 37 ปี  "ชายพงษ์ นิยมกิจ” ผู้จัดการบริษัท เอสเอสเอ็น เซล แอนด์ ดิสทริบิวชั่น จำกัด (อัญมณี) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับอัญมณีครบวงจร เติบโตมาจากครอบครัวที่มั่งคั่งจากกิจการด้านค้าพลอย เมื่อครั้งที่ใต้ธรณีของเมืองจันทบุรีหลายแห่งยังอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติแร่หินสี หรือพลอยอันโด่งดังไปทั่วโลก ทำให้เขามองว่าแม้รายได้หลักของของครัวและรายได้หลักของ จ.จันทบุรี อันดับหนึ่งมาจากกิจการอุตสาหกรรมพลอยก็ตาม แต่ถ้าย้อนอดีตพบว่ามีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่สูญหายไปจากธุรกิจกลางน้ำและปลายน้ำของวงการค้าพลอยใน จ.จันทบุรี ทำให้ ชายพงษ์ มองว่าถึงเวลาที่จะต้องยกระดับอุตสาหกรรมพลอยของจันทบุรี สู่ธุรกิจอุตสาหกรรมอัญมณีระดับกลางน้ำและสู่ปลายน้ำอย่างครบวงจร

          “เดิมชาวบ้านขุดพลอยมาขายให้พ่อค้าที่ไปรับที่หน้าบ่อพลอย ครอบครัวผมก็มีเหมืองหรือบ่อพลอย และรับซื้อพลอยจากชาวบ้านด้วย แล้วมาแปรรูปด้วยการเจียระไนทำเป็นพลอยเม็ด มีพ่อค้าในกรุงเทพฯ รับซื้อไปต่อยอดทำเป็นเครื่องประดับอัญมนี หรือผลิตภัณฑ์จิวเวลรี่ขายได้กำไรมหาศาล ผมมานึกว่าทำไมเราไม่ทำเอง ถ้าเราทำเองเม็ดเงินจะสะพัดเข้ามาใน จ.จันทบุรี เป็นหมื่นล้านบาทต่อปี เพราะจันทบุรีเป็นแหล่งผลิตพลอยชั้นดีของโลก เมื่อผมมาดูตรงนี้มาช่วยดูแลแทนครอบครัว เราต้องต่อยอดธุรกิจภายในครอบครัวให้ได้ เพื่อสนองความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ” ชายพงษ์ กล่าวอย่างมั่นใจ

          ชายพงษ์ ให้เหตุผลว่า ปัจจุบันโลกแคบลงมาก วิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาทดแทนแรงงานฝีมืออย่างรวดเร็ว หากผู้ประกอบการในวงการค้าพลอยใน จ.จันทบุรี ไม่ตื่นตัว ไม่ปรับรูปแบบของธุรกิจค้าพลอย อย่างน้อยต้องให้เป็นธุรกิจกลางน้ำคือนำวัตถุดิบมาแปรรูป ลงทุนสร้างโรงงานผลิตเครื่องประดับ หรือจิวเวลรี่ ในรูปแบบของธุรกิจอัญมณีครบวงจรและต่อยอดสู่ปลายน้ำคือเน้นหาตลาดโดยเฉพาะการส่งออกเอง จะทำให้เม็ดเงินจากส่วนนี้ที่สูญหายไปจากระบบราว 200-300% ต่อปี กลับมาสะพัดในจันทบุรีได้

          ฉะนั้นผู้ประกอบการต้องปรับตัวเองแม้ว่าวันนี้พลอยอันเป็นทรัพยากรธรรมชาติอันล้ำค่าที่มีอยู่ในเมืองจันท์กำลังจะหมดไป หรือเหลืองเพียงน้อยนิด แต่ผู้ประกอบการยังไปหาพลอยจากแหล่งอื่นมา ไม่ว่าจะเป็นจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์ และแอฟริกา นำมาแปรรูปที่จันทบุรี เพื่อให้จันทบุรีเป็นศูนย์กลางอัญมณีคุณภาพของโลก เพราะจันทบุรีถือเป็นเมืองแห่งตำนานอัญมณีอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตพลอยเนื้อแข็งอันดับ 1 ของโลกอยู่แล้ว ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในแวดวงการพลอยระดับโลก โดยเฉพาะบุษราคัม สตาร์ซัพพลาย ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด

          มุมมองของชายพงษ์ เขาไม่เพียงแค่จะขับเคลื่อนธุรกิจค้าพลอยในจันทบุรีมาอยู่กลางน้ำและปลายน้ำเท่านั้น หากแต่ในนามของบริษัท เอสเอสเอ็น เซล แอนด์ ดิสทริบิวชั่น จำกัด ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว "นิยมกิจ” เขาลงมือดำเนินการต่อยอดกิจการภายในครอบครัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากเดิมที่ค้าพลอยเม็ด ลงทุนเพิ่มเติมจากโรงงานเจียระไนพลอยมาสร้างโรงงานแปรรูป เป็นการผลิตเครื่องประดับอัญมณีอย่างครบวงจร ทั้งหาวัตถุดิบมาเจียระไนและแปรรูปเป็นเครื่องประดับจำพวกจิวเวลรี่ มีตั้งแต่ชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนถึงชิ้นใหญ่ ไม่ว่าจะกิ๊บ สร้อยคอ กำไล เลสข้อมือ ตุ้มหู แหวน เป็นต้น

          ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ส่วนหนึ่งส่งให้ลูกค้าส่งเดิมทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา และลูกค้าใหม่ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่คือจีน และอีกส่วนหนึ่งขายในประเทศ โดยมีศูนย์กลางที่โชว์รูมของบริษัท เอสเอสเอ็น เซล แอนด์ ดิสทริบิวชั่น หรือร้านจิวเวลรี่ “อัญมณี” อยู่ย่านถนนอัญมณี ต.วัดใหฒ่ เขตเทศบาลเมืองจันทบุรี ซึ่งในแต่ละปีกิจการภายใต้บริษัท เอสเอสเอ็น เซล แอนด์ ดิสทริบิวชั่น ภายใต้การดูแลของ ชายพงษ์ ทั้งในการจัดหาแหล่งวัตถุดิบ การแปรรูป และการตลาดโดยมีคุณแม่ “สุภาพร นิยมกิจ” ช่วยดูหน้าร้าน และคุณพ่อซึ่งเป็นอดีต ส.ส.จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ “สมชาย นิยมกิจ” ยังเป็นที่ปรึกษาอยู่ห่างๆ ทำให้แต่ละปีมีเงินหมุนเวียนในกิจการปีละกว่า 50 ล้านบาท

          “ทุกวันนี้อุตสาหกรรมพลอยใน จ.จันทบุรี ลดลงไปมากอย่างน่าเป็นห่วง สาเหตุมาจากการขาดแคลนวัตถุดิบ นักธุรกิจรุ่นใหม่ต้องลุกขึ้นมาพัฒนาทั้งในรูปแบบของการแปรรูป การหาตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะในต่างประเทศ ถ้าเราไม่เริ่มวันนี้เราจะเริ่มเมื่อไร อย่าลืมว่าทุกวันนี้แม้จีนจะเป็นตลาดใหญ่แต่จีนก็เป็นประเทศคู่แข่งของเราด้วย เพราะจีนมีการผลิตเครื่องประดับประเภทอัญมณีและส่งออกด้วย ขณะที่ฮ่องกงก็จับตลาดจีนเป็นหลักเหมือนกัน ส่วนยุโรปคู่แข่งที่สำคัญคืออิตาลี ผลงานประณีต การออกแบบรูปพรรณที่สวยงาม และมีการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องประดับไปไกลแล้ว ฉะนั้นเราต้องปรับตรงนี้ด้วย” ชายพงษ์ กล่าวอย่างหนักแน่น

          จากการที่ชายพงษ์ มีแนวคิดแบบนักธุรกิจรุ่นใหม่ทำให้เขาได้รับการยอมรับจากผู้ประกอบการใน จ.จันทบุรี อย่างกว้างขวาง จนได้รับความไว้วางใจให้เขาดำรงตำแหน่งทางสังคมมากมาย ทั้งที่อายุยังไม่มากนัก อาทิ รองประธานหอการค้าจังหวัดจันทบุรี อุปนายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีจันทบุรี โดยบทบาทสำคัญที่เขากำลังผลักดันในปัจจุบัน สิ่งแรกคือต้องส่งเสริมอุตสาหกรรมอัญมณีในระดับกลางน้ำให้ได้เพื่อให้จันทบุรีเป็นเมืองอัญมณีและเครื่องประดับที่ครบวงจรมากที่สุด มีรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และเป็นที่นิยมของตลาดทั้งในและต่างประเทศ

          “เราต้องมองการเคลื่อนไหวของตลาดด้วย โดยเฉพาะตลาดส่งออก อย่างจีนตลาดใหญ่ เราต้องหมั่นสังเกตว่าคนจีนนิยมอย่างไร ต้องตามให้ทัน อย่างทางยุโรป ตอนนี้หลายประเทศจะนิยมเป็นทองคำ 90% เพราะเนื้อแข็ง จะไม่นิยมทองคำ 100% เราต้องสนองตรงนี้ งานของเราต้องประณีต ละเอียด เพราะเรามีคู่แข่งมาก และล้วนแต่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านนี้มาตลอด ตอนนี้มหาวิทยาลัยบูรพา ก็ยืนยันมาช่วยอีกทางหนึ่ง รวมถึงผลิตภัณฑ์จากธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอีด้วย” ผู้จัดการบริษัท เอสเอสเอ็น เซล แอนด์ ดิสทริบิวชั่น กล่าว

          สำหรับผลิตภัณฑ์อัญมณีที่ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากที่สุดทั่วโลก ชายพงษ์ บอกว่าเป็นทับทิม มีราคาตั้งแต่กะรัตละ 3 หมื่นบาทยันถึง 1 ล้านบาท ตามด้วยพลอยไพลิน (สีน้ำเงิน) ที่เหลือจะเป็นพลอยเนื้อแข็ง อาทิ บุษราคัม ขณะที่ตลาดใหม่อย่างจีนจะนิยมทับทิมกับหยกมากที่สุด

          “ชายพงษ์ นิยมกิจ” นับเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอีกคนหนึ่งที่ไม่เพียงจะพัฒนากิจการของครอบครัวตัวเอง หากยังมีมุมมองถึงเพื่อนในแวดวงธุรกิจเดียวกันที่จะต้องช่วยกันพัฒนาอย่างบูรณาการเพื่อเป้าหมายให้จันทบุรีเป็นศูนย์กลางอัญมณีของโลกนั่นเอง

          
 
 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ