ข่าว

มานพ วงศ์น้อยส่งงานเครื่องรัก เครื่องเขิน โกอินเตอร์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

มานพ วงศ์น้อยส่งงานเครื่องรัก เครื่องเขิน โกอินเตอร์  : คมคิดชีวิตต้องสู้

ถ้าพูดถึงศิลปะ “เครื่องรัก เครื่องเขิน” คนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จัก เพราะเป็นศิลปหัตถกรรมที่นิยมกันในบางพื้นที่ของประเทศไทยเท่านั้น แต่กลับเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวยุโรป เพราะเครื่องรัก เครื่องเขิน เป็นศิลปะที่ทำด้วยมือเกือบทุกขั้นตอน บางชิ้นเป็นหนึ่งเดียวในโลกก็ว่าได้

มานพ วงศ์น้อย ครูศิลป์ของแผ่นดิน ประจำปี 2558 ประเภทเครื่องรัก เครื่องเขิน ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศักสิท (SACICT) เป็นชาวเชียงใหม่แต่กำเนิด ได้สร้างสรรค์งานเครื่องรักให้มีความร่วมสมัย โดยใช้วัตถุดิบหลักคือ ยางรัก รวมถึงคิดค้น ปรับประยุกต์ และพัฒนาผลงานให้มีความโดดเด่น ด้วยการผสมผสานเทคนิคต่างๆ ให้มีความหลากหลายในงาน 1 ชิ้น อาทิ การลงรักปิดทอง การติดเปลือกไข่ การขูดรอย เป็นต้น และมีการจดบันทึกข้อมูลกระบวนการทำงานเก็บเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้าความรู้

ครูมานพ เล่าว่า งานเครื่องรัก เครื่องเขิน ทุกชิ้นออกแบบเอง โดยใช้วัตถุที่เป็นโลหะ ทองเหลือง แผ่นอะลูมิเนียม ไม้ เหล็ก แล้วก็เงิน สินค้าที่ออกมาเป็นเครื่องประดับ เครื่องใช้ แทบทุกอย่าง เริ่มทำงานเป็นคนงานฝึกหัดในโรงรัก จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่อายุ 14 ปี ถูกยางรักกัดมือกัดแขนจนเป็นรอยด่างทั้งสองข้าง เพื่อให้เกิดความชำนาญในงานที่ลงมือทำ แต่สมัยนั้นยังไม่ค่อยรู้เรื่องการป้องกันก็เลยถูกยางรักกัด จนต่อมาเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้น ก็เริ่มหาวิธีป้องกัน ซึ่งอาจจะมองว่าสายเกินไป แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

“ผมทำงานในโรงรัก ทำทุกอย่าง ยางรักกัดกัดแขนทั้งสองข้าง ด่างไปหมด แต่ผมก็ไม่ท้อนะ เพราะอยากได้วิชา เพราะผมรู้ว่า เครื่องรัก เครื่องเขิน เป็นอาชีพของคนเหนือที่คนรุ่นใหม่ไม่นิยมทำแล้ว ไม่มีใครสืบทอด เพราะงานลงรักต้องใช้ความอดทน ต้องใช้สมาธิสูงมาก และต้องใช้เวลา กว่าจะทำออกมาได้แต่ละชิ้นต้องใช้เวลาทั้งนั้น บางชิ้นใช้เวลานานถึง 3 เดือน แต่ผมก็ทนเพื่อให้งานออกมาดีและมีคุณภาพ”

ครูมานพ ทำงานเครื่องรัก เครื่องเขิน มาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 40 ปี ขณะนี้อายุ 54 ปี แต่ไม่มีใครสืบทอดศาสตร์แขนงนี้ ครูมานพจึงได้เรียนเพิ่มเติมจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดที่จัดอบรมจนเกิดความรู้ความชำนาญมากขึ้น จนกระทั่งมีคนมาเชิญไปเป็นวิทยากรสอนให้แก่ผู้ที่สนใจตามสถานที่ต่างๆ แต่ยังหาคนที่รับช่วงงานเครื่องรัก เครื่องเขิน อย่างเป็นรูปธรรมไม่ได้เลย

“งานเครื่องรัก เครื่องเขิน ไม่ใช่งานที่คนไทยนิยมมากนัก เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง บางคนสั่งงานที่เป็นงานตกแต่ง ราคาก็จะสูง และใช้เวลาในการทำนาน เขาไม่รอ แต่ถ้าจะมาเร่งให้ผมทำเร็วๆ แต่งานออกมาไม่ได้คุณภาพ ผมก็ไม่ทำเช่นกัน เพราะผมคิดว่า ผมขายฝีมือ ขายคุณภาพ ดังนั้น งานของผมที่ออกมาจะต้องเนียบ ต้องประณีต ถูกใจลูกค้า และถูกใจผมด้วย”

สมัยก่อนเคยทำขายตามสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่ แต่ขายยาก งานชิ้นหนึ่งใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ไม่ว่าจะงานเล็กงานใหญ่ ขั้นตอนเยอะ เริ่มแรกเราต้องขัดวัสดุที่จะทำให้เรียบ ทาน้ำมัน แล้วคอยลับให้แห้ง ใช้เวลาประมาณ 5 วัน ต้องทาทับรอบ 2 อีก ใช้เวลารออีก ไม่ใช่ว่าทำได้ทุกวัน ครูมานพจะมีสมุดอยู่หนึ่งเล่ม จดว่าวันนี้ทำอะไรไปบ้าง ขั้นตอนต่อไปจะทำอะไร เพื่อไม่ให้สับสน

หลังจากเป็นลูกจ้างในโรงงานรักอยู่หลายปีก็ออกมาทำงานอยู่ที่ อ.สันกำแพง ยังไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการ แล้วก็เริ่มรับเหมางานมาทำเองที่บ้าน ช่วงที่รับเหมาเองก็มีของไปฝากขายบ้าง ตอนนั้นอายุประมาณ 30 ปี ครูมานพมองตลาดเมืองไทยว่า เครื่องรักต้องทำแบบดั้งเดิม ขายแพงไม่ได้ งานไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ เน้นปริมาณเป็นหลัก เขาก็เลยเปลี่ยนแนวคิด หันมาทำงานที่แตกต่างจากงานคนอื่น ไม่ใช่งานตลาดแบบที่ขายทั่วไป

“ผมโชคดีได้รู้จักชาวเบลเยียมคนหนึ่ง ชื่อ เบอร์นาร์ต เขาสนใจงานผม สั่งงานผมไปขายที่เบลเยียม และฝรั่งเศส เป็นงานที่ทำตามออเดอร์ของเขา เป็นงานที่ทำเพียงชิ้นเดียว มีชิ้นเดียวในโลก โดยเขาจะนำงานไปประมูลขายให้ชาวต่างชาติที่รักงานศิลปหัตถกรรมอย่างแท้จริง จึงไม่มีงานของผมขายในเมืองไทยเลย เพราะไม่มีเวลาทำงาน แต่งานที่เบอร์นาร์ตสั่งผมก็ต้องใช้เวลาและสมาธิมากพอแล้ว ไม่ใช่ไม่อยากทำ แต่ไม่มีเวลาจะทำ ผมถึงอยากหาผู้สืบทอด เพื่อจะได้เป็นคนรุ่นใหม่ที่จะมารับช่วงงานต่อจากผมไป ผมเคยสอนคนมาเป็นร้อยๆ คน ตามที่สำนักงานอุตสาหรรมจังหวัดเชียงใหม่ เชิญไปสอน แต่ยังไม่มีใครสามารถมาช่วยงานได้เลยสักคน ยังไม่มีคนจะมาสืบทอดต่อได้ คนที่จะงานแบบผมได้ต้องใจนิ่งจริงๆ”

ครูมานพ เล่าด้วยว่า “ก่อนหน้านี้รายได้ไม่ค่อยดี พอรู้จักกับเบอร์นาร์ต ทำให้ลืมตาอ้าปากได้ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เบอร์นาร์ตมาเห็นผลงานที่ร้านใน อ.สันกำแพง เขาชอบงานนี้มาก จึงนำสินค้าของผมกลับไปขายประเทศของเขา ซื้อสินค้าไปแล้วนำไปเปิดประมูล สั่งสินค้าไปอย่างละชิ้น ให้เป็นสินค้าลิมิเต็ด ทำงานกับเบอร์นาร์ตมา 25-26 ปี งานที่ทำไม่จำกัดรูปทรง เป็นรูปภาพก็มี เป็นเครื่องประดับก็มี”

ล่าสุดครูมานพกำลังเริ่มงานเครื่องรัก เครื่องเขิน ขายในเมืองไทย โดยจะเน้นเครื่องประดับเป็นหลัก เพราะลูกสาวอยากให้ทำเพื่อนำไปขายในอินเทอร์เน็ต แต่งานที่ออกมาก็จะคงความเป็นเอกลักษณ์ คือ ทำแค่อย่างละชิ้นเดียว

“ทุกวันนี้ ผมเหนื่อยมาก กว่าจะสื่อสารเข้าใจตรงกัน งานจะได้ออกมาถูกใจทั้งสองฝ่าย ซึ่งหลายคนอาจจะดูเหมือนงานของผมได้เงินเยอะต่อชิ้น แต่งานทุกชิ้นต้องใช้เวลา ถ้าของไม่สวย ผมไม่ยอมส่ง เราเน้นคุณภาพ ผมเพิ่งไปดูงานศิลปหัตถกรรมของญี่ปุ่น กับศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ผมก็พยายามเก็บรายละเอียดเพื่อนำมาปรับปรุงงานของผมให้ได้มาตรฐานทัดเทียมกับประเทศอื่น นอกจากจะมีใจรักแล้ว ต้องมีคุณธรรม”

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ