ข่าว

ป๊อปอัพการ์ดมวยไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ป๊อปอัพการ์ดมวยไทย : คมคิดธุรกิจนิวเจน โดยสุนนท์ จันทร์ศรีทอง

               มวยไทย เป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทย ที่คนทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี และในปัจจุบันมีการเปิดการเรียนการสอนมวยไทยทั้งในเมืองไทยหรือแพร่หลายไปยังหลายๆ ที่ทั่วโลก อีกทั้งยังนำสิ่งที่เกี่ยวกับมวยไทยไปประยุกต์เป็นสิ่งของที่ระลึก อย่างเช่น “ป๊อปอัพมวยไทย” ที่นับว่าเป็นธุรกิจใหม่อีกหนึ่งรูปแบบที่สามารถเผยแพร่มวยไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และยังเป็นของฝากของที่ระลึกที่มีรูปแบบที่สวยงาม รวมถึงยังพกพาง่าย ราคาไม่แพง โดยเจ้าของธุรกิจดังกล่าวยังเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ ดีกรีเศรษฐศาสตร์ จากรั้วแม่โดม ชื่อ ณัฐนันท์ เจนศักดิ์ศรีสกุล

             ณัฐนันท์ เจนศักดิ์ศรีสกุล หรือ ณัฐ หนุ่มวัย 25 ปี เจ้าของธุรกิจ กล่าวถึงความเป็นมาและแรงบันดาลใจให้ฟังว่า เริ่มมาจากการที่มีโอกาสเดินทางไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ไต้หวัน ตอนเรียนชั้น ม.ปลาย และหลังจากศึกษาเล่าเรียนจบแล้วกลับมาเมืองไทย มีความต้องการที่จะส่งของกลับไปยังครอบครัวที่ไต้หวัน ปรากฏว่าสิ่งที่ส่งไป ไม่ว่าจะเป็น ถ้วยชามเบญจรงค์ รูปปั้นต่างๆ หรือขนมอบกรอบ (ขนมไทย) เกิดความเสียหาย เช่น ชำรุดแตกหัก ดังนั้นจึงมีแนวคิดว่า สิ่งที่ส่งไปต้องปรับเปลี่ยนใหม่ นอกจากให้ผู้รับมีความประทับใจ น่าจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย ซึ่งเรื่องมวยไทย จึงมาเป็นที่หนึ่งทันที

             “หลังกลับจากไต้หวันแล้ว ผมมาเรียนที่ ม.ธรรมศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ อินเตอร์ ได้รู้จักเพื่อนต่างชาติมากมาย และได้สอบถามเพื่อนๆ จึงมีข้อมูลว่า มวยไทยนี่แหละ เป็นตัวแทนของคนไทย บ่งบอกความเป็นไทย หากเรานำมวยไทยมาทำเป็นป๊อปอัพ สามารถพับเก็บได้ ดูแล้วจะเป็นของที่ระลึกที่มีคุณค่า และไม่แตกหัก เมื่อส่งไปยังต่างประเทศ จึงปรับความคิดใหม่ ส่งเป็นป๊อปอัพมวยไทยกลับไป ซึ่งคนที่รับก็มีความชื่นชอบ เพราะสื่อถึงวัฒนธรรมไทยด้วย”

             สำหรับรูปแบบของป๊อปอัพมวยไทยนั้น เริ่มคิดกันตั้งแต่ช่วงปลายปี 2557 และเสร็จสมบูรณ์วางตลาดวันที่ 1 มกรคม 2558 ตอนแรกก็ทำเอง ใช้เวลา 2 เดือน แต่ดูแล้วไม่ค่อยเวิร์กเท่าไร เพราะเราไม่มีความรู้ด้านนี้ เราเรียนเศรษฐศาสตร์มา จึงไปปรึกษาเพื่อนๆ ที่เรียนอยู่คณะสถาปัตย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้มาช่วยออกแบบ รวมไปถึงยังไปขอคำปรึกษาจากครูมวยหลายท่าน เรื่องของแม่ไม้มวยไทยต่างๆ บนแผ่นกระดาษ สรุปได้ว่า เราจัดทำ 4 แบบ คือ 1.ตั้งการ์ดมวยไทย 2.หิรัญม้วนแผ่นดิน 3.จระเข้ฟาดหาง 4.หนุมานทะยาน ซึ่งรูปแบบทุกอย่างต้องถูกต้อง โดยเฉพาะการพับรูปคนนั้น ซับซ้อน งานต้องละเอียดมากๆ รวมไปถึงท่ามวยไทยแต่ละท่าที่ยกมาทำเป็นโมเดลนั้น มีประวัติที่น่าสนใจที่เกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรมของไทยและวิถีชีวิตของชาวสยามในสมัยโบราณอย่างลึกซึ้ง นอกจากนั้นท่าโจมตีโดยศอกเตะและเข่ายังเป็นเอกลักษณ์ของมวยไทยโบราณอีกด้วย

             “ตอนแรกเลยนะ ไม่คิดจะทำเป็นธุรกิจหรอก คิดว่าทำเป็นของที่ระลึกเท่านั้น แต่หลังจากเพื่อนๆ สอบถามบ่อยๆ พร้อมกับบอกว่า น่าจะทำเป็น ธุรกิจบ้าง จึงลองทำดู โดยงานแต่ละชิ้นจะใช้เวลาครึ่งชั่วโมง เริ่มแรกส่งไปวางขายที่โรงแรม เน้นนักท่องเที่ยว ปรากฏว่าการตอบรับดีระดับหนึ่ง เพราะเรื่องของธุรกิจนั้น บางครั้งไม่เหมือนที่เราคาดการณ์ ก็เลยกลับมาคิดใหม่ เรื่องการขยายธุรกิจ กลุ่มเป้าหมายของสินค้า ต้องขยายให้กว้างขึ้น จึงไปวางขายที่สีลม ท่ามหาราช เวทีมวยมาตรฐาน ทุกที่ที่มีชาวต่างชาติ ซึ่งการตอบรับก็ดีขึ้น กระทั่งถึงปัจจุบันมีวางทั้งหมด 29 สาขา ดังนี้ 1.ห้างสรรพสินค้าเซน เซ็นทรัลเวิลด์ 2.ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาชิดลม 3.ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาพัทยา 4.ห้างสรรพสินคาเซ็นทรัล สาขาหาดใหญ่ 5.ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาเชียงใหม่ 6.ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาภูเก็ต 7.ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาสมุย 8.สนามมวยลุมพินี 9.สนามมวยราชดำเนิน 10.ร้าน Editions ท่ามหาราช 11.สีลม วิลเลจ เทรดเซ็นเตอร์ 12.โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โฮเต็ล แอนด์ ทาวเวอร์ส 13.โรงแรมตะวันนา 14.ร้าน Good Design Store ณ เซ็นทรัลเอ็มบาสซี 15.B2S สาขา Central World 16.B2S สาขาเซ็นทรัลบางนา 17.B2S สาขาเซ็นทรัล พัทยา 18.B2S สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต 19.B2S สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ 20.B2S สาขาศรีราชา 21.B2S สาขารามอินทรา 22.B2S สาขาแหลมทอง ระยอง 23.B2S สาขาคริสตัลพาร์ค 24.B2S สาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ 25.B2S สาขาโรบินสันชลบุรี 26.B2S สาขานวมินทร์ซิตี้ 27.B2S สาขาเพลนนารี่ มอลล์ 28.B2S สาขาซีพีเอ็น ศาลายา 29.B2S สาขาซีพีเอ็นระยอง สนนราคาชิ้นละ 199 บาท”

             สำหรับสินค้า 1 ชิ้น สินค้าถูกออกแบบให้สามารถเปลี่ยนจากป๊อปอัพการ์ดเป็นของที่ระลึกตั้งโชว์รูปนักมวยไทยโบราณที่เมื่อเห็นเมื่อใดก็อดคิดถึงประเทศไทยไม่ได้ เพียงแค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ 1.เปิดการ์ดออก 2.จัดท่ามวยไทยเพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วมและการเข้าถึงมวยไทยมากขึ้น ลูกค้าสามารถจัดท่ามวยไทยที่เลือกซื้อไปด้วยมือของตนเองตามขั้นตอนที่แสดงโดยภาพอินโฟกราฟฟิกที่สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ 3.แกะฐานออก หลังจากที่จัดท่ามวยไทยแล้วลูกค้าสามารถแกะฐานของโมเดลนักมวยบนการ์ดตามรอยปรุเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพื่อที่จะกลายเป็นของที่ระลึกรูปปั้นตั้งโชว์รูปมวยไทยที่มีความสวยงามและสร้างสรรค์ในตัว นอกจากนั้นป๊อปอัพมวยไทย ยังบ่งบอกถึงความหมายของมวยไทย ที่มาของมวยไทย ที่มีความเกี่ยวพันกับวิถีชีวิตคนไทย และอยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน รวมถึงการออกแบบท่ามวยไทยต่างๆ ซึ่งจะไม่มีการใช้ความรุนแรง จะเน้นความสวยงาม โดยมี 3 ภาษา คือ อังกฤษ จีน ญี่ปุุ่น ตอนนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่าจะมีการต่อยอดของธุรกิจนี้ในรูปแบบอื่นๆ เช่น แม่ไม้มวยไทยท่าอื่น รวมไปถึงวัฒนธรรมไทยอื่นๆ ได้แก่ รำไทย หรือดนตรีไทย เป็นต้น เพราะการจดลิขสิทธิ์ของเราไม่ได้เน้นมวยไทยอย่างเดียว เราจดลิขสิทธิ์แบบ การใช้รูปร่างคน (นอกเหนือจากมวยไทยก็ได้) รวมไปถึงร้านค้าชื่อดังที่ประเทศเกาหลีใต้ก็ติดต่อเข้ามาจะนำไปจำหน่าย ตอนนี้กำลังคุยกันอยู่

             “บอกตามตรงเลยว่า ธุรกิจนี้ค่อยๆ เติบโตไป ซึ่งทีมงานเรา 4-5 คน มีความภาคภูมิใจในธุรกิจนี้อย่างมาก เพราะเรายังเป็นคนรุ่นใหม่กันอยู่ อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างแรงจูงใจให้แก่คนที่จะหันมาทำเรื่องของธุรกิจ ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม อย่างผมนี่ ไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้ แต่สนใจที่จะค้นคว้าหาข้อมูลและหาความแปลกใหม่ที่ท้าทาย ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ ซึ่งสินค้าเรานอกจากวางขายตามสถานที่ต่างๆ แล้ว ยังมีการสั่งจองทางเว็บไซต์ เมื่อดูจากลูกค้าแล้ว สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.กลุ่มลูกค้าต่างประเทศในเมืองไทย จะซื้อเพื่อเป็นของที่ระลึก เพราะพกพาง่าย เป็นนวัตกรรมที่แปลกใหม่ 2.กลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ซื้อเพราะชอบมวยไทย และเป็นของแปลกใหม่ มอบเป็นของฝากให้ญาติพี่น้อง โดยที่ผ่านมาเราไปจัดแสดงหลายประเทศ ทั้งที่ อิตาลี เกาหลี อินโดนีเซีย พม่า กัมพูชา ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทำให้คนทั่วไปรู้จักสินค้าเรามากขึ้น”

             เท่านั้นยังไม่พอ สำหรับป๊อปอัพมวยไทยยังคว้ารางวัลต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น 1.ชนะเลิศในประเทศและสากล Good Design Award 2015 (G-mark Award) โดยสถาบันส่งเสริมการออกแบบประเทศญี่ปุ่น (Japan Institute of Design Promotion), Design Excellence Award 2015 (DEmark Award) หรือ รางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบดีปี 2558 โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และ IP Champion Award 2016 โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ รวมไปถึงยังมีจุดเด่น คือ 1.เป็นนวัตกรรมป๊อปอัพการ์ดและโมเดลกระดาษรูปแบบใหม่ล่าสุดของโลก โมเดลหุ่นกระดาษที่ประกอบไปด้วยกลไกกระดาษรูปแบบใหม่ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถในการถูกพับและคืนรูป 2.ทูตวัฒนธรรมไทยเผยแพร่มวยไทยให้เป็นที่รู้จัก มีจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่มวยไทย ซึ่งเป็นวัฒนธรรมไทยและมรดกโลกในมุมมองที่สวยงามและสร้างสรรค์ปราศจากภาพความรุนแรงของการต่อสู้, สื่อสารวัฒนธรรมในหลากหลายภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น 3.ง่ายต่อการพกพา น้ำหนักเบา เพราะผลิตจากกระดาษ 100%, พับเก็บได้ จึงป้องกันการเสียหายจากการเดินทาง 4.แฮนด์เมด หุ่นกระดาษแต่ละชิ้นถูกประดิษฐ์ด้วยมืออย่างประณีต

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ