คอลัมน์เปิดซองส่องไทย : ยกเว้นวีซ่า ดีหรือเสีย?
ตามที่มีข่าวว่าจะมีการยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศ ประเภทนักท่องเที่ยวชนิดใช้ได้ครั้งเดียว อัตรา 2,000 บาท เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวไทยตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2561 ถึง 31 มกราคม 2562 รวม 60 วัน
อันนี้ก็น่ายินดีที่หลายส่วนที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อยก็มีการดำเนินการเพื่อแก้ไขสถานการณ์ขึ้นมาบ้าง ฝ่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ก็น่าจะดีใจกับข่าวนี้
แต่มีข้อสงสัยว่าการงดเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า จำนวน 21 ประเทศ ถ้าตัดจีนกับไต้หวันออก อีก 19 ประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวของเขามาเที่ยวไทยเยอะไหมในแต่ละปี ในแต่ละซีซั่น ถ้ามาก มากขนาดไหน มีการเก็บข้อมูลของ 19 ชาตินี้หรือเปล่า (อันดอร์รา มัลดีฟส์ บัลแกเรีย ฟิจิ ลิทัวเนีย มอริเชียส ภูฏาน ไซปรัส มอลตา โรมาเนีย ปาปัวนิวกินี ซาอุดีอาระเบีย ยูเครน คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เอธิโอเปีย อินเดีย ฯลฯ)
ตม. ททท. มีข้อมูลของนักท่องเที่ยวของ 19 ประเทศนี้หรือไม่ เขาใช้จ่ายกับการท่องเที่ยวในบ้านเราอย่างไร การมาเที่ยวมาแบบไหน แบบหมู่คณะเหมาลำ, มาด้วยตัวเอง (F.I.T.) และแหล่งท่องเที่ยวที่ชอบไปเป็นที่ไหนบ้าง กระจายไปตามพื้นที่ท่องเที่ยวเป้าหมายที่ ททท.ได้พยายามผลักดันหรือเปล่า
ช่วงเวลาที่เขาจะมามีสายการบินให้บริการเพียงพอหรือไม่ ต้องเปลี่ยนเครื่องให้ยุ่งยากไหม มีบริการของการบินไทยหรือบางกอกแอร์เวย์สเข้าไปบริการไหม การจัดทำโปรโมชั่นแหล่งท่องเที่ยวในไทยที่ประเทศทั้ง 19 ประเทศดึงดูดใจให้เขาอยากมาไหม มีการขายแพ็กเกจท่องเที่ยวที่น่าสนใจหรือไม่
คืออย่างน้อย ถ้าเรามีการดำเนินการยกเลิกการเก็บค่าวีซ่าแล้ว นักท่องเที่ยวในกลุ่ม 19 ประเทศนี้มากันเยอะ เขาเกิดความประทับใจในการบริการด้านการท่องเที่ยวทุกๆ ด้านของบ้านเรา
ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของบ้านเราที่เป็นลบ เป็นข่าวลือก็จะลดลงในสายตาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และจะเป็นการพูดปากต่อปากในกลุ่มพวกเขา ครั้งต่อไปถ้าเราทำโปรโมชั่นอีก เขาก็อาจจะมาอีก เราก็จะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทดแทนกลุ่มจีนได้มากขึ้นด้วย
แต่ที่สำคัญผู้ประกอบการต่างๆ อย่าฉวยโอกาสกับนักท่องเที่ยว ขายสินค้าราคาแพงเกิน คิดค่าบริการแพง เช่น ค่าบริการรถรับส่ง ค่าบริการขนส่งสาธารณะ ค่าโรงแรมที่พัก เป็นต้น อย่างที่ได้ยินมาบ่อยๆ จากเพื่อนชาวต่างชาติ คือ ค่าขนส่งสาธารณะ
ในเมืองท่องเที่ยวหลักที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่บริการขนส่งสาธารณะไม่ตอบสนองผู้ใช้บริการเท่าที่ควร ทั้งด้านเส้นทาง (Routing) พื้นที่ (Zoning) ราคา (Price) ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะแย่งชิงลูกค้ากันเองระหว่างพื้นที่ ลูกค้าต่างชาติ แม้แต่คนไทยเองก็ไม่เข้าใจว่ามีการแบ่งโซนรับลูกค้าด้วย มันควรจะเกิดขึ้นไหมเรื่องแบบนี้
นอกจากนี้เส้นทางการบินของทั้ง 19 ประเทศที่จะมาไทย มีสายการบินที่จะอำนวยความสะดวกในการเดินทางเพียงพอไหม เวลาในการเดินทางเหมาะสมไหม มีสายการบินของไทยให้บริการไหม เพื่อให้ผู้เดินทางได้เห็นภาพกว้างของไทยในเชิงวัฒนธรรม ประเพณี การท่องเที่ยว แหล่งกิน แหล่งเที่ยว แหล่งช็อป ของไทยจากวีดิทัศน์ของสายการบิน เป็นการแนะนำแบบเข้มข้นให้แก่ผู้เดินทางท่องเที่ยว
อย่างไรก็ดี ขอให้การดำเนินการของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในครั้งนี้จงประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย และฝากบอกไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการต้อนรับ ให้บริการนักท่องเที่ยว ที่มาในครั้งนี้ด้วยว่า เราต้องแก้ภาพลักษณ์ฺต่างๆ ในด้านลบของการท่องเที่ยวในไทยให้ชาวโลกได้รับรู้ ความไม่ปลอดภัยตามแหล่งท่องเที่ยว การโกงเอาเปรียบลูกค้า การข่มขืนนักท่องเที่ยว ฉกชิงวิ่งราว เป็นต้น
ควรจะมีการสร้างเครือข่ายช่วยกันตรวจสอบดูแลไหม ให้นักท่องเที่ยวได้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ มาเที่ยวแล้วรู้สึกสบายใจ เกิดความประทับใจมิรู้ลืม และโดยเฉพาะการป้องกันภัยอันตราย อุบัติเหตุที่คาดคิดไม่ถึง จากรถ เรือ รถไฟ สายการบิน ร้านค้า อาคาร ที่พัก โรงแรม ห้าง ตรวจสอบทุกครั้งก่อนให้บริการก็ดีนะ ฟ้า ไฟ ฝน คลื่น ลม ก็ต้องไม่ลืมตรวจสอบด้วย อย่าให้เกิดเป็นเหตุการณ์ซ้ำรอย มันจะแย่สุดๆ เลยละ
อันที่จริงอยากจะนำเสนอความคิดอีก 1 เรื่องเกี่ยวกับการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวไทยหรือนักท่องเที่ยวชาวไทยก็ดี ททท.น่าจะมีการทำสื่อเผยแพร่ให้คนไทยสร้างมิตรภาพ สร้างรอยยิ้มกับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในท้องถิ่น กระตุ้นให้คนไทยผู้ซื่อมีจิตใจโอบอ้อมอารี มีมิตรไมตรีในตัวอยู่แล้ว ให้ช่วยต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองให้เกิดความประทับใจในเสน่ห์ของความเป็นไทย เมืองท่องเที่ยวแห่งรอยยิ้มและมิตรไมตรี
รีบสร้างเอกลักษณ์ใหม่ๆ ในการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการขยายแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองของไทย เพื่อสร้างและดึงนักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มเก่าและกลุ่มใหม่ให้มาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น สร้างวัฒนธรรมไทยที่นักท่องเที่ยวสัมผัสได้ เข้าร่วมได้ (อย่างสนุกสนาน) จดจำได้ นอกจากอาหารไทย รำไทย
ฝากคอลัมน์เปิดซองส่องไทย บอกผ่านไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาด้วย และขอบคุณมา ณ ที่นี้
แฟนข่าว คม ชัด ลึก
ติดตามคำชี้แจงจาก ททท. ได้ในวันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม 2561 ได้ที่นี่ที่เดียวกับคอลัมน์ “เปิดซองส่องไทย” โดย ลุงแจ่ม
ร้องทุกข์ ร้องเรียน บอกเล่าปัญหา ที่ [email protected] หรือ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง