ภาพถ่ายพลังน้ำใจจิตอาสารำลึกในหลวง ร.9

          ภาพถ่ายเปรียบเสมือนบันทึกความทรงจำอันมีค่า แม้กาลเวลาจะผ่านไปแต่เรื่องราวและอารมณ์ความรู้สึกที่ช่างภาพได้ลั่นชัตเตอร์และถ่ายทอดสู่ภาพถ่ายยังไม่เลือนหาย ไลก้า คาเมร่า ไทยแลนด์ แบรนด์กล้องลักชัวรี่ระดับโลก จึงจัดงาน “ไลฟ์ส เวิร์ธ” นิทรรศการภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของพลังความจงรักภักดี ความสามัคคี ความเสียสละ และพลังน้ำใจของจิตอาสา เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสครบ 2 ปีวันคล้ายวันสวรรคต จากฝีมือการถ่ายภาพของ ไลก้า ไทยแลนด์ แอมบาสเดอร์ ได้แก่ อ.ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์, พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ และชัชวาล จันทโชติบุตร  จัดแสดงบริเวณหน้า ไลก้า แกลเลอรี แบงค็อก ชั้น 2 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ ไปจนถึง 29 ตุลาคมนี้

อ.ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์

          อ.ตุลย์ กล่าวว่า นิทรรศการนี้เกิดจากการคุยกันในกลุ่มของ ไลก้า ไทยแลนด์ แอมบาสเดอร์ ว่าอยากทำอะไรที่สะท้อนให้เห็นสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทำมาตลอดพระชนม์ชีพ และด้วยความที่มีกล้องสามารถหยุดความทรงจำได้ จึงตกลงกันว่าจะลงพื้นที่ 6 เดือนก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เพื่อบันทึกเกี่ยวกับจิตอาสาที่คอยช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน เพราะรูปถ่ายเปรียบเสมือนไทม์แมชชีน สามารถเก็บความทรงจำในวันที่เกิดเหตุการณ์นั้นจริง

          “ภาพที่ถ่ายพี่ๆ จิตอาสาผมอยากให้เป็นกึ่งๆ สารคดี โดยถ่ายมุมกว้างๆ เพื่อให้เห็นสิ่งที่พวกเขาทำจริงๆ ไม่มีการแอ๊กชั่นให้ทำในสิ่งที่ช่างภาพบอก จะเห็นได้ว่าคนไทยหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยพระองค์ท่านยังทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมจิตใจให้คนไทยห่วงใยดูแลกัน ทุกคนเป็นจิ๊กซอว์ตัวเล็กๆ ที่ต่อกันแล้วจะสมบูรณ์แบบที่สุด ผมจึงอยากให้พี่ๆ ที่คอยปิดทองหลังพระ ที่ทำความดีโดยไม่หวังผลคตอบแทนได้รับสิ่งดีๆ กลับไป เพื่อให้พวกเขาภูมิในใจสิ่งที่ทำ ภาพทุกภาพที่นำมาจัดแสดงนี้จะส่งต่อกำลังใจ และขับเคลื่อนพลังใจของคนไทยต่อไป ” อ.ตุลย์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการจัดนิทรรศการภาพถ่าย

ชัชวาล จันทโชติบุตร

          ด้าน ชัชวาล เผยว่า ได้เข้าไปกราบพระบรมศพเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินทางไปต่างประเทศ ระหว่างนั้นเห็นการช่วยเหลือของอาสาสมัครมากมาย ภาพที่เห็นครบทั้งสี แสง อารมณ์ สัมผัสถึงความรู้สึกเสียสละของจิตอาสา สื่อถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อรัชกาลที่ 9 การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ความเสียสละ ปิดทองหลังพระ เป็นสิ่งที่ในหลวง ร.9 ทรงสอน นิทรรศการภาพถ่ายจิตอาสาโอกาสครบ 2 ปีเสด็จสวรรคตจะทำให้ผู้ชมได้ระลึกถึงแนวทางที่พระองค์ท่านพระราชทานไว้มาปฏิบัติในชีวิตประจำวัน สังคมไทยไม่เคยแล้งน้ำใจ มีจุดเด่นคือความเอื้ออาทรกัน แม้ผ่านมาสองปีคนไทยยังคิดถึงพระองค์เสมอมา

          “ผมรับหน้าที่เก็บภาพจิตอาสาบริเวณโรงครัวซึ่งเปรียบเสมือนปากท้องและกำลังขับเคลื่อนทั้งหมด และได้มีโอกาสพูดคุยกับหลายท่านที่เป็นเจ้าของซุ้มทำอาหาร หลายท่านทำอาหารแจกตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่เราลงพื้นที่เก็บภาพ ทุกคนพูดเหมือนกันว่า สิ่งที่ทำนั้นน้อยนิดมากเมื่อเปรียบกับสิ่งที่พระองค์ทรงทำต่อประชาชนชาวไทยมาตลอดพระชนม์ชีพ สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจในชีวิตผมให้เห็นถึงคนที่เสียสละเพื่อผู้อื่นและการให้โดยไม่หวังผลตอบแทนคือสิ่งที่เหล่าจิตอาสาระลึกได้และนำมาปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน ดังแนวทางที่พระองค์ท่านทรงปฏิบัติ” ชัชวาล หนึ่งในไลก้า แอมบาสเดอร์ เผย

วัชรี เชาวะนะ

          สำหรับบรรยากาศภายในงานเปิดนิทรรศการภาพถ่ายเป็นไปอย่างอบอุ่น มีแขกเหรื่อมาร่วมชมภาพถ่ายประวัติศาสตร์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกรัก สามัคคีของกลุ่มจิตอาสา ผู้ปิดทองหลังพระ เสียสละเวลา แรงกายและทุนทรัพย์ โดยไม่หวังผลตอบแทน และร่วมฟังเสวนาในหัวข้อ “ปิดทองหลังพระ” โดยตัวแทนจิตอาสายังได้ร่วมบอกเล่าถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ และแนวทางการสานต่อพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอีกด้วย

ปิยะนันท์ สุมาตรา

สมยศ พรชัยรัตนโชติ 

          สำหรับจิตอาสา สมยศ พรชัยรัตนโชติ อาชีพขับรถตู้ถนนข้าวสาร-สนามบิน เผยว่า ตัวเองโตมาในย่านผ่านฟ้า จึงมีโอกาสรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 ขณะเสด็จพระราชดำเนินผ่านถนนราชดำเนินหลายครั้ง รู้สึกปลื้มใจมาก ตอนพระองค์ท่านสวรรคตจึงตัดสินใจมาขับมอเตอร์ไซค์รับส่งผู้มากราบสักการะพระบรมศพ แต่ช่วงหลังเห็นว่าคนมากันมาก หลังออกจากพระบรมมหาราชวังแล้วไม่มีใครคอยบอกทาง จึงเปลี่ยนมาช่วยแนะนำเส้นทางแทน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องชาวไทยที่มากราบพระบรมศพ เพียงแค่ได้ยินคำว่าขอบคุณก็มีความสุขและมีพลัง

สาโรช ดุลยคง

          ขณะที่จิตอาสา สาโรช ดุลยคง เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังทรงพระชนม์ชีพ ก็จะนำธงพระปรมาภิไธยไปแจกในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาเป็นประจำทุกปี พอทราบข่าวการสวรรคตจึงรีบเดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต โดยรถจักรยานยนต์ มาช่วยทำอาหารแจกจ่ายคนที่มากราบพระบรมศพ ส่วนเวลาที่ว่างเว้นจากการทำอาหารจะบริการรับ-ส่งผู้มากราบพระบรมศพ จนกระทั่งเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายเพลิง ทั้งที่เมื่อก่อนมองว่าคนไทยมีตั้ง 50-60 ล้านคนทำไมเราต้องทำความดี แต่เมื่อเห็นพระองค์ท่านทรงทำอะไรมากมายเพื่อคนไทย จึงเป็นแรงบันดาลใจให้หันมาทำความดีโดยยึดคำสอนที่ว่า ทำความดีลำบากถ้าคิดจะทำต้องอดทน