ประมูลศิลป์สานศึกษาเด็กพระดาบสชายแดนใต้

     การศึกษาเป็นอาวุธสำคัญที่ช่วยพัฒนาคุณชีวิต ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่มากไปด้วยความคิดต่าง การติดอาวุธทางปัญญาเชื่อว่าจะเป็นโอกาสลดความขัดแย้งได้ นั่นเป็นที่มาของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา “โรงเรียนพระดาบส” จังหวัดชายแดนใต้ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มุ่งมั่นประสาทวิชาความรู้ และสอนวิชาชีพแก่เยาวชนด้อยโอกาสรวมถึงกลุ่มเสี่ยง เพื่อสานต่อพระราชปณิธาน มูลนิธิพระดาบสจึงได้จัดกิจกรรมระดมทุนเพื่อการศึกษาผ่านโครงการประมูลผลงานศิลปะเทิดพระเกียรติ “คำพ่อสอน” ปี 2 โดยจัดแถลงข่าวที่ห้องกอฟเวอร์เนอร์ ชั้น 28 อาคารทู แปซิฟิก เพลส สุขุมวิท

      ดร.อรสุดา เจริญรัถ ผู้ช่วยเลขาธิการโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ มูลนิธิพระดาบส กล่าวว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้ตั้งโรงเรียนพระดาบสขึ้นเมื่อ 40 ปีก่อน ให้คนขาดโอกาสทางการศึกษามาเล่าเรียน ต่อมาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์รองประธานมูลนิธิฯ พระราชทานโอกาสนี้ไปถึงเด็กๆ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยพระราชทานโรงเรียนพระดาบสเมื่อ 8 ปีก่อน ตั้งอยู่ในจังหวัดยะลา รับนักเรียนได้ปีละ 80 คน สอนวิชาชีพช่าง 4 สาขา ได้แก่ ช่างยนต์, ช่างจักรยานยนต์, ช่างไฟฟ้า และช่างเครื่องจักรกลการเกษตร เป็นการศึกษาให้เปล่าโดยเงินอุดหนุนมาจากการจัดกิจกรรมการกุศลต่างๆ 

 วรัทยา วัฒนายุทธ-ดร.อรสุดา เจริญรัถ (กลาง) นำแถลงข่าว

           “เด็ก 1 คนจะมีค่าใช้จ่ายราว 1 แสนบาทต่อปี อย่างน้อยๆ โรงเรียนต้องมีเงิน 8 ล้านบาทต่อปีเพื่อการเรียนการสอน แรกเริ่มนั้นเรารับนักเรียนเพียง 39 คน ยังไม่มีอาคารเรียน ต่อมารับเพิ่มเป็น 80 คน และเริ่มมีอาคารเรียน มีหอพัก ในระยะเวลา 8 ปีมีเด็กจบไปแล้วกว่า 300 คน ทุกคนมีงานทำ มีโอกาสชีวิต สามารถพึ่งพาตัวเองได้ ที่สำคัญเป็นคนดีของสังคม อย่างเวลาเกิดภัยพิบัติต่างๆ เราก็จะพานักเรียนออกไปช่วยเหลือชาวบ้าน  ช่วยซ่อมรถ เครื่องไม้เครื่องมือ เรามุ่งมอบโอกาสที่ 2 ให้พวกเขา หมายถึงโอกาสแรกพวกเขาพลาดจากการเรียนในโรงเรียนปกติ เพราะความยากจนหรือมีปัญหาชีวิต ในหลวง รัชกาลที่ 9 จึงพระราชทานโอกาสที่ 2 ให้ โดยรับเยาวชนอายุ 18-25 ปีมาฝึกอาชีพ เพราะเด็กกลุ่มนี้ถ้าไม่ได้เรียนชีวิตก็อาจมีความเสี่ยงหลงผิด เมื่อได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ก็จะคิดดีทำดี” ดร.อรสุดา กล่าว

 ผลงานของศิลปินชาวจีน 

 ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี กับประติมากรรม “ทรงโบกพระหัตถ์”

          สำหรับกิจกรรมระดมทุนผ่านการประมูลผลงานศิลปะที่จะมีขึ้น วรัทยา วัฒนายุทธ กรรมการบริหารโครงการ เปิดเผยว่า จริงๆ แล้ววางแผนจะจัดงานช่วงเดือนตุลาคมปี 2559 ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์ที่คนไทยโศกเศร้าทั้งแผ่นดินจึงเลื่อนมาในปีนี้ในธีมพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 9 เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมเชิญศิลปินชาวจีนที่ทราบข่าวการสวรรคตมาร่วมสร้างสรรค์ผลงานด้วย เป็นโจทย์ยากของศิลปินจีนที่ปกติจะชำนาญการเขียนภาพทิวทัศน์ ดอกไม้ หรืออักษรจีน แต่ด้วยความศรัทธาและต้องการร่วมแสดงความอาลัยจึงพยายามวาดออกมาภายใต้แรงกดดันได้ภาพสวยๆ เพื่อร่วมประมูล ท้ายที่สุดได้ผลงานรวม 39 ชิ้น แบ่งเป็นผลงานสำหรับประมูลของศิลปินจีน 9 ชิ้น ผลงานสำหรับประมูลของศิลปินไทย 10 ชิ้น อาทิ ผลงานชื่อ “กระทิง” ของ อ.ถวัลย์ ดัชนี, ประติมากรรม บรอนซ์ สีเขียว ชื่อ “ทรงโบกพระหัตถ์” ของ ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี, ผลงานชื่อ “รวมใจ” ของ จิตต์สิงห์ สมบุญ เป็นต้น และอีก 20 ผลงานที่ผู้สนใจสามารถร่วมบริจาคและรับภาพได้ทันที ทั้งนี้ งานประมูลการกุศลจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม เวลา 17.09 น. ที่ห้องไลบรารี่ อาคาร ทู แปซิฟิก เพลส สุขุมวิท นานา ติดตามรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจชื่องานศิลปะเทิดพระเกียรติคำพ่อสอนปี 2 @artphadabos