ค่ายดิจิทัลอาร์ตกระตุกต่อมครีเอทีฟ

       เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและครูจากสถานศึกษาต่างๆ ที่มีความสนใจ ได้เข้าร่วมการพัฒนาเทคนิคการถ่ายทอดเรื่องราวน่ารู้ผ่านศิลปะแขนงต่างๆ เช่น วรรณศิลป์ ทัศนศิลป์และประยุกต์ศิลป์ ออกมาเป็นผลงานภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว และเผยแพร่สู่สาธารณะผ่านทางต่างๆ จึงเป็นที่มาของโครงการค่ายเยาวชนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ดิจิทัลอาร์ต (รักบ้านเกิด ตอบแทนคุณแผ่นดิน) ครั้งที่ 2 โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม จัดขึ้นที่ศูนย์วิชาการและนันทนาการเซนต์คาเบรียล จ.นนทบุรี ซึ่งมีนักเรียนและครูจากทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้นกว่า 320 คน

บรรยากาศภายในค่าย

       บรรยากาศในค่ายเป็นไปอย่างอบอุ่นท่ามกลางมิตรภาพและองค์ความรู้ที่เข้มข้นทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจากเหล่าวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพ ได้แก่ การอบรมการถ่ายภาพนิ่ง การถ่ายภาพด้วยโดรน การถ่ายทำคลิปวิดีโอและเทคนิคการตัดต่อมิวสิกวิดีโอและหนังสั้น โดยแบ่งการทำงานออกเป็น 30 กลุ่ม เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปทัศนศึกษาเก็บข้อมูล ถ่ายภาพและทำการตัดต่อ พรีเซนต์ผลงาน

อาทิตยา แดงกูล แบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ฟัง

       อาทิตยา แดงกูล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนพนมสารคาม “พนมอดุลวิทยา”  เล่าว่า ตัวเองและเพื่อนๆ ทั้ง 9 คนสนใจการถ่ายภาพเป็นพื้นฐาน เมื่อได้รับความรู้เพิ่มเติมทั้งในด้านการถ่ายภาพนิ่ง ถ่ายวิดีโอและการตัดต่อวิดีโอ รู้สึกประทับใจความเป็นกันเองจากวิทยากร เจ้าหน้าที่โครงการ มิตรภาพจากเพื่อนใหม่ต่างสถาบันและต่างศาสนา ทำให้ได้พัฒนาเทคนิคการถ่ายภาพให้ดียิ่งขึ้น โดยเด็กๆ ถูกแย่งออกเป็น 30 กลุ่ม กลุ่มละ 12 มีนักเรียนจากแต่ภูมิภาคมารวมกัน กลุ่มของตัวเองได้รับมอบหมายให้ไปที่ชุมชนวัดทางหลวงเพื่อเก็บข้อมูลและภาพถ่าย กิจกรรมการสานตะกร้าและการทำขนม ทำเป็นวิดีโอประชาสัมพันธ์ ซึ่งก็ได้รับคำติชมที่มีค่ามากจากคณะวิทยากร

ณิชมณ หมั่นสัน สนุกกับประสบการณ์ใหม่ๆ

       ด้าน ณิชมน หมั่นสัน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนละงูพิทยาคม จ.สตูล เล่าวว่า ไม่มีพื้นฐานการถ่ายภาพเลย แต่มีความสนใจที่จะศึกษาต่อทางด้านนี้จึงสมัครมากับครูและเพื่อนๆ รวม 18 คน สิ่งแรกที่ประทับใจในค่ายคือ การต้อนรับและการดูแลเป็นอย่างดี ตอนแบ่งกลุ่มทำงานเราได้ไปที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เราวางโครงเรื่องให้มีตัวละครนำชมพิพิธภัณฑ์ แม้ทุกคนจะมาจากต่างถิ่นกัน แต่ค่ายนี้ก็ทำให้พวกเรารักสามัคคีกันเหมือนเพื่อนสนิท ตลอดระยะเวลา 4 วันที่ร่วมกิจกรรมก็เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราและครูจัดตั้งชุมนุมขึ้นในโรงเรียนเพื่อนำความรู้ที่ได้รับกลับไปเผยแพร่ให้น้องๆ คนอื่นๆ ต่อไป

เข้มข้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ

       เช่นเดียวกับ พัชนี จินดา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชัยเกษมพิทยา จ.ประจวบคีรีขันธ์ เล่าว่า อยากให้มีโครงการนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะจะช่วยให้เด็กๆ จากโรงเรียนในต่างจังหวัดได้รับโอกาสและความรู้โดยตรงจากวิทยากรมืออาชีพ นอกจากความรู้พื้นฐานในการถ่ายภาพและการตัดต่อแล้ว ยังได้เรียนรู้เทคนิคเฉพาะตัวของวิทยากรในแต่ละด้าน ซึ่งพี่ๆ ถ่ายทอดให้อย่างไม่ปิดบัง

เสาวภา วงษ์ประทุม และเพื่อนๆ สนุกกับกิจกรรม

       สุดท้าย เสาวภา วงษ์ประทุม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนมัธยมด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยเข้าร่วมโครงการค่ายมหัศจรรย์สร้างสรรค์ บันทึกฝันที่บ้านเกิด เมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดกำลังจะเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ ในปีนี้จึงมีความกล้ามากขึ้นที่จะค้นหาตัวเอง กล้าลงมือทำในสิ่งใหม่ๆ เช่น การเขียนบท ถ่ายทำและตัดต่อวิดีโอ กลุ่มของเธอได้ไปที่เจษฎาเทคนิค มิวเซียม เพื่อผลิตผลงานหนังสั้น เชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนคิดเช่นเดียวกันว่าค่ายสร้างสรรค์นี้ช่วยให้ได้เรียนรู้ภาคทฤษฎี ได้ฝึกฝนปฏิบัติเพื่อพัฒนาตัวเองและนำความรู้เหล่านี้ไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ต่อยอดทางการศึกษาและสามารถพัฒนาเป็นอาชีพได้ต่อไป