เล่าขานตำนานหัตถศิลป์ สู่วิถีชีวิตปัจจุบัน

ครูวิรัตน์ ปิ่นสุวรรณ

          อัตลักษณ์สำคัญหนึ่งของชาติไทยที่เป็นที่ภาคภูมิใจ นั่นคืองานศิลปหัตถกรรมที่มีความประณีต ทรงคุณค่า และถือเป็นมรดกสำคัญของชาติที่คนไทยทุกรุ่นควรสืบทอดรักษาให้คู่แก่ประเทศ ด้วยเหตุดังกล่าวศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT จึงได้จัดงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม” ขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 8 โดยมี อัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เป็นประธานในการแถลงข่าว พร้อมทั้งเรียกน้ำย่อยกิจกรรมไฮไลท์ ได้แก่ นิทรรศการ “หัตถกรรมที่กำลังจะสูญหาย” และการพูดคุยพร้อมชมการสาธิตงานศิลปหัตถกรรมจากครูช่างศิลป์ไทย ได้แก่ ครูเสน่ห์ แจ่มจิรารักษ์, ครูวิรัตน์ ปิ่นสุวรรณ และ ครูดิเรก สร้อยสีดา ปิดท้ายด้วยการรับชมการแสดงชุด “หุ่นเล่าขานตำนานหัตถศิลป์ สู่วิถีชีวิตปัจจุบัน”

อัมพวัน พิชาลัย

         อัมพวัน กล่าวว่า งานอัตลักษณ์แห่งสยามจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 8 ภายใต้แนวคิด “เล่าขานตำนานหัตถศิลป์ สู่วิถีชีวิตปัจจุบัน" ภายในงานมีไฮไลท์ที่สอดคล้องกับแนวคิดดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสดงผลงานของครูช่างศิลป์ที่กำลังจะสูญหายไป จำนวน 3 ท่าน ซึ่งถือเป็นการรวมสุดยอดผลงานหัตถศิลป์ที่หาดูได้ยากจากฝีมือของเหล่าครูช่างศิลป์ของแผ่นดิน และครูช่างศิลปหัตถกรรม เพื่อให้คนรุ่นเราทุกคนได้ร่วมภาคภูมิใจกับผลงานหัตถศิลป์ชั้นครูที่เปรียบเสมือนมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ และร่วมกันรักษาความภาคภูมิใจดังกล่าวให้สืบทอด และส่งต่อให้คนรุ่นต่อไป พร้อมกันนั้น ผลงานหรือสินค้าศิลปหัตถกรรมที่จะจัดแสดงและจำหน่ายในงานครั้งนี้ ยังเลือกสรรผลงานที่มีความร่วมสมัย และที่สำคัญคือเหมาะสม สามารถประยุกต์เข้ากับการใช้งานในปัจจุบัน และในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ซึ่งเชื่อว่าคนรุ่นใหม่จะได้เปิดประสบการณ์และเรียนรู้ว่าของไทยๆ ไม่ได้เชยหรือล้าสมัย แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในปัจจุบันได้อย่างมีคุณค่า และลงตัว
         ด้าน ครูเสน่ห์ แจ่มจิรารักษ์ ชาวจังหวัดนนทบุรี ครูผู้มีทักษะฝีมือในงานตะลุ่ม เตียบ พานแว่นฟ้า ซึ่งยึดแบบฉบับช่างชั้นสูง สืบทอดจากบรรพบุรุษในสมัยกรุงศรีอยุธยา คงรูปลักษณ์ กรรมวิธี และภูมิปัญญาดั้งเดิม พร้อมพัฒนารูปทรงให้เหมาะกับยุคสมัย

  ครูเสน่ห์ แจ่มจิรารักษ์

         ครูวิรัตน์ ปิ่นสุวรรณ ชาวจังหวัดสมุทรสงคราม ครูผู้มีทักษะฝีมือในงานเบญจรงค์ ที่มีเทคนิคการลงสีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยทักษะฝีมือที่มีความประณีต ละเอียด สวยงาม จึงทำให้ผลงานเบญจรงค์แต่ละชิ้นงานเป็นงานหัตถศิลป์ที่มีคุณค่ายิ่ง โดยสีที่จะใช้ลง ประกอบด้วย สีแดง สีดำ สีเหลือง สีเขียว และสีน้ำเงิน เมื่อชิ้นงานกระทบแสงจะเกิดความแวววาว สวยงามแก่ผู้พบเห็น ยิ่งเพิ่มมูลค่า และความสวยงามแก่ชิ้นงานยิ่งขึ้น

ครูดิเรก สร้อยสีดา

         ขณะที่ ครูดิเรก สร้อยสีดา ครูผู้มีทักษะฝีมือในงานสลักดุน ที่มีลักษณะเด่นของการดุนโลหะแบบล้านนาเป็นการสืบทอดภูมิปัญญาด้านการทำเครื่องเงินและจิตรกรรมฝาผนังด้านการต้องลายด้วยแผ่นอะลูมิเนียม เงิน และทองแดง
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อป สร้างสรรค์ผลงานหัตถศิลป์กับครูช่างศิลป์อย่างใกล้ชิด ตลอดการจัดงานระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน บริเวณแฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 และไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เวลา 10.00-22.00 น.